ชุดสืบสวน สตม.จับยกแก๊งปลอมบัตรเครดิต ซื้อสินค้าแบรนด์เนมบนเครื่องบิน หัวหน้าแก๊งเป็นหนุ่มกินีร่วมมือแฟนสาวชาวไทยวางแผนแยบยล ซื้อบัตรเครดิตปลอมจากเว็บไซต์เถื่อน ใช้ซื้อตั๋วเครื่องบินเดินทางไปต่างประเทศใกล้ๆ เช่น ญี่ปุ่น หรือสิงคโปร์ ใช้ช่องว่างระหว่างบัตรเครดิตออฟไลน์รูดซื้อสินค้าสารพัดชนิดบนเครื่อง หลังจากนั้นเอาออกมาขายตามร้าน ลากคอหญิงไทยคาสนามบินสุวรรณภูมิพร้อมของกลางขณะเพิ่งกลับจากก่อเหตุ ตรวจสอบประวัติปี 2560 พบเข้าออกประเทศ 36 ครั้ง
หนุ่มกินีจับคู่สาวไทย ตั้งแก๊งใช้บัตรเครดิตปลอมรูดซื้อสินค้าบนเครื่องบินรายนี้ เปิดเผยขึ้นที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 4 พ.ค. พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น ผบช.สตม. พล.ต.ต.ชูฉัตร ธารีฉัตร ผบก.สส.สตม. พ.ต.ท.ระลึก อินทรัศมี สว.กก.2 บก.สส.สตม. และเจ้าหน้าที่ กก.2 บก.สส.สตม. แถลงข่าวจับกุมนายราชีด อาเจย์บาดี ซาลามิ อายุ 41 ปี สัญชาติกินี และ น.ส.ฉันทพัฒน์ เอี่ยมไผ่ อายุ 43 ปี ภรรยาชาวไทย พร้อมของกลางบัตรเครดิตปลอม 11 ใบ และอุปกรณ์เครื่องคอมพิวเตอร์ ข้อหาร่วมกันปลอมบัตรเครดิตรูดซื้อของบนเครื่องบิน จับกุม น.ส.ฉันทพัฒน์ได้ที่สนามบินสุวรรณภูมิ ส่วนนายราชีดจับกุมได้ที่อพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่งใน ต.ไทรม้า อ.เมืองนนทบุรี เมื่อวันที่ 30 เม.ย.
พล.ต.ท.สุทธิพงษ์เผยว่า เจ้าหน้าที่ กก.2บก.สส.สตม.สืบทราบว่า มีชายผิวสีร่วมกับหญิงไทยเดินทางไปต่างประเทศ ระหว่างอยู่บนเครื่องสายการบินต่างๆ ใช้บัตรเครดิตปลอมรูดซื้อสินค้าที่มีจำหน่ายบนเครื่องบินประเภทต่างๆจำนวนมาก ส่วนใหญ่เป็นน้ำหอม ครีม และปากกา จึงขอหมายค้นศาลจังหวัดนนทบุรีเข้าตรวจค้นห้องพักของนายราชีด พบของกลางบัตรเครดิตปลอม 7 ใบ เครื่องคอมพิวเตอร์ นิตยสารสินค้าบนเครื่องบิน และใบสั่งซื้อสินค้าหลายรายการ ส่วนเจ้าหน้าที่อีกชุดไปดักรอ น.ส.ฉันทพัฒน์ ที่สนามบินสุวรรณภูมิ ขณะนั่งเครื่องบินเดินทางกลับจากประเทศสิงคโปร์ ตรวจค้นพบบัตรเครดิตปลอม 4 ใบ และน้ำหอมยี่ห้อต่างๆหลายรายการ จึงควบคุมตัวมาสอบสวนที่ บก.สตม.
...
พล.ต.ท.สุทธิพงษ์เผยต่อไปว่า จากการสอบสวน น.ส.ฉันทพัฒน์ สารภาพว่า บัตรเครดิตปลอมรับมาจากนายราชีด แฟนหนุ่มที่คบกันมา 2 ปี ให้นำไปรูดซื้อสินค้าบนเครื่องบิน เมื่อได้ของมาจะนำไปขายต่อตามร้านค้าต่างๆ จะได้ส่วนแบ่งครั้งละ 10,000-15,000 บาทต่อเที่ยว โดยนายราชีดซื้อข้อมูลบัตรเครดิตของคนอเมริกาจากเว็บไซต์เถื่อน แล้วนำไปจ้างให้คนอื่นทำบัตร เมื่อได้บัตรปลอมมาจะนำไปรูดซื้อตั๋วเครื่องบินเพื่อนำไปก่อเหตุบนเครื่อง เนื่องจากการรูดใช้จ่ายบนเครื่องจะมีช่วงข้อมูลบัตรออฟไลน์ จึงอาศัยจังหวะนี้ ส่วนใหญ่จะเดินทางไปประเทศญี่ปุ่นและสิงคโปร์ เนื่องจากบนเครื่องมีสินค้าหลากหลาย ตรวจสอบประวัติการเดินทางของ น.ส.ฉันทพัฒน์ ตั้งแต่ปี 2560 เดินทางออกนอกประเทศ 36 ครั้ง แจ้งข้อหาร่วมกันใช้หรือมีไว้เพื่อใช้ซึ่งบัตรอิเล็กทรอนิกส์ปลอม แจ้งข้อหาหลบหนีเข้าเมืองเพิ่มกับนายราชีด ส่งดำเนินคดีตามกฎหมายก่อนผลักดันออกนอกประเทศต่อไป