กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ แจง ไร้ปัญหาเรื่องผู้สอบบัญชีสหกรณ์ การันตีศักยภาพการปฏิบัติงานเป็นไปตามมาตรฐานวิชาชีพ ยันบุคลากรเพียงพอ ส่วนปมทุจริต เกิดจากจุดอ่อนระบบควบคุมภายในของสหกรณ์ ...
นางสาวจุฑามาศ ลิปิการถกล รองอธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ เปิดเผยว่า กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ มีภารกิจหนึ่งที่สำคัญ คือ การตรวจสอบบัญชีสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรให้มีความเข้มแข็ง เป็นมาตรฐานสากล และกำกับดูแลการปฏิบัติงานของผู้สอบบัญชี ให้เป็นไปตามมาตรฐานวิชาชีพและตามที่นายทะเบียนสหกรณ์กำหนด
โดยปัจจุบันกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ มีผู้สอบบัญชีสหกรณ์ทั้งหมด จำนวน 1,153 คน ซึ่งกรมฯ ได้จัดระดับผู้สอบบัญชีให้เหมาะสมกับระดับความยากในการสอบสหกรณ์แต่ละแห่ง และผู้สอบบัญชีภาคเอกชนที่จะมาทำหน้าที่สอบบัญชีให้กับสหกรณ์นั้น จะต้องขึ้นผ่านการทดสอบตามหลักเกณฑ์ที่กรมตรวจบัญชีสหกรณ์กำหนด และได้รับการขึ้นทะเบียนกับกรมฯ นอกจากนี้ กรมฯ ยังได้มีการกำกับดูแลสหกรณ์ที่ถ่ายโอนให้ผู้สอบบัญชีสหกรณ์ภาคเอกชนตรวจสอบ ให้ดำเนินการเป็นไปตามมาตรฐานการบัญชีและระเบียบที่นายทะเบียนสหกรณ์กำหนด
รองอธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ กล่าวว่า นายโอภาส ทองยงค์ อธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ มีนโยบายที่จะพัฒนาข้าราชการกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ให้สามารถสอบเป็นผู้สอบบัญชีรับอนุญาต (CPA) ได้เพิ่มมากขึ้น เพื่อเป็นการพัฒนาประสิทธิภาพการตรวจสอบบัญชีสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกร สร้างความเชื่อมั่นแก่สมาชิกในการทำธุรกิจและธุรกรรมทางการเงินกับสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรได้ โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างการหารือกับสภาวิชาชีพบัญชี เพื่อให้ข้าราชการกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ที่ปฏิบัติงานสอบบัญชีสหกรณ์ สามารถนำผลการปฏิบัติงานมานับเป็นชั่วโมงฝึกงาน เพื่อให้มีคุณสมบัติในการสอบขึ้นทะเบียนกับสภาวิชาชีพบัญชีเป็นผู้สอบบัญชีรับอนุญาต
...
ทั้งนี้ ในปี 2561 กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ได้ปรับกระบวนการสอบบัญชีให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยเน้นการวิเคราะห์และประเมินความเสี่ยงที่อาจเกิดข้อบกพร่องทางการเงินการบัญชี ก่อนปฏิบัติงานตรวจสอบบัญชี และเน้นการตรวจสอบในประเด็นที่อาจมีความเสี่ยงนั้น เพื่อให้สามารถพบข้อบกพร่อง/การทุจริตทางการเงินการบัญชีได้อย่างทันการณ์ และมีนโยบายให้เพิ่มช่วงเวลาในการเข้าตรวจสอบบัญชีสหกรณ์ให้มากยิ่งขึ้น โดยเข้าตรวจเป็นรายไตรมาส
“กรณีที่มีข่าวว่า กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ มีบุคลากรไม่เพียงพอในการทำหน้าที่ตรวจสอบบัญชีนั้น จึงเป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน ส่วนกรณีการทุจริตที่เกิดขึ้นในสหกรณ์หลายแห่ง หลายกรณีส่วนใหญ่ เกิดจากระบบการควบคุมภายในของสหกรณ์มีจุดอ่อน หรือมีการไม่ปฏิบัติตามระบบการควบคุมภายในที่กำหนด สมาชิกไม่ได้ติดตามการดำเนินการตามระเบียบข้อบังคับโดยสม่ำเสมอ จนไม่ทราบข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้น ดังนั้น เพื่อสิทธิประโยชน์ของสมาชิกสหกรณ์เอง สมาชิกจำเป็นต้องมีความรู้ความเข้าใจบทบาทหน้าที่ความรับผิดชอบ ตลอดจนหลักการและวิธีการสหกรณ์และการตรวจสอบการเงินการบัญชีและการดำเนินการของสหกรณ์ รับรู้ข้อมูลทางบัญชีสหกรณ์ทั้งภาพรวมและของตนเอง ซึ่งหากสมาชิกช่วยกันตรวจสอบเบื้องต้นและแจ้งเบาะแสให้กับเจ้าหน้าที่ ก็จะช่วยลดปัญหาการทุจริตได้ในระดับหนึ่ง” รองอธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ กล่าว.