ศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง มีคำสั่งให้ มิตสุโตกิ ชิเกตะ ชาวญี่ปุ่น ที่ยื่นร้องขอเป็นพ่อเด็ก 13 คนที่เกิดจากการอุ้มบุญ ให้เป็นบุตรโดยชอบด้วยกฎหมายนับตั้งแต่วันที่เกิด...

ศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 20 ก.พ. ศาลได้อ่านคำสั่งในคดีหมายเลขที่ พ.2031-2037/2559 และ พ.217-218/2559 หมายเลขแดงที่ พ. 296-304/2561 รวม 9 สำนวน ที่ นายมิตสุโตกิ ชิเกตะ อายุ 28 ปี ชาวญี่ปุ่น ผู้ร้องยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งว่าผู้เยาว์ทั้ง 13 คนซึ่งเกิดจากการตั้งครรภ์แทนเป็นบุตรโดยชอบด้วยกฎหมายของผู้ร้อง ตามบทเฉพาะกาลในมาตรา 56 แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็กที่เกิดโดยอาศัยเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ พ.ศ. 2558 ศาลมีคำสั่งให้รวมพิจารณาเป็นคดีเดียวกัน

ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานของผู้ร้องประกอบรายงานของสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนกรุงเทพมหานครแล้ว เห็นว่า พระราชบัญญัติคุ้มครองเด็กที่เกิดโดยอาศัยเทคโนโลยี ช่วยการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ พ.ศ. 2558 มาตรา 56 บัญญัติให้ผู้ที่เกิดจากการตั้งครรภ์แทนก่อนวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ สามีหรือภริยาที่ดำเนินการให้มีการตั้งครรภ์แทน มีสิทธิยื่นคำร้องขอให้ศาลสั่งให้ผู้ที่เกิดจากการตั้งครรภ์แทนเป็นบุตรโดยชอบด้วยกฎหมายของสามีและภริยาที่ดำเนินการให้มีการตั้งครรภ์แทน ไม่ว่าสามีและภริยาดังกล่าวจะเป็นสามีและภริยาที่ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่

เจตนารมณ์ของกฎหมายดังกล่าวเป็นการคุ้มครองสวัสดิภาพและประโยชน์สูงสุดของผู้ที่เกิดจากการตั้งครรภ์แทนเป็นสำคัญ ได้ความว่าผู้ร้องไม่มีภริยาแต่เป็นผู้ดำเนินการให้มีการตั้งครรภ์แทนตั้งแต่ปี 2556 โดยใช้เชื้ออสุจิของผู้ร้องปฏิสนธิกับไข่ของผู้บริจาคแล้วนำไปใส่ในโพรงมดลูกของหญิงไทยผู้รับตั้งครรภ์แทนจำนวนเก้าคน จนคลอดผู้เยาว์รวมสิบสามคนเมื่อปี 2557 อันเป็นเวลาก่อนวันที่พระราชบัญญัติคุ้มครองเด็กที่เกิดโดยอาศัยเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ พ.ศ. 2558 มีผลใช้บังคับ (วันที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ.2558)

...

ผู้ร้องจึงมีสิทธิยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งให้ผู้เยาว์ ทั้ง 13 คนเป็นบุตรโดยชอบด้วยกฎหมายของผู้ร้องได้ ประกอบกับรายงานผลการตรวจพิสูจน์ดีเอ็นเอปรากฏว่าผู้ร้องเป็นบิดาโดยสายโลหิตของผู้เยาว์ทั้ง 13 คน หลังจากผู้เยาว์ทั้ง 13 คนเกิดผู้ร้องรับอุปการะเลี้ยงดูด้วยดีตลอดมาจนกระทั่งเจ้าหน้าที่จากกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์นำตัวผู้เยาว์ทั้ง 13 คนไปเลี้ยงดูที่สถานสงเคราะห์เด็กอ่อนปากเกร็ด และสถานสงเคราะห์เด็กบ้านเวียงพิงค์ ซึ่งผู้ร้องก็มอบหมายให้บุคคลอื่นไปเยี่ยมเยียนผู้เยาว์เหล่านั้นเป็นประจำ ผู้ร้องวางแผนเตรียมความพร้อม ในการพาบุตรผู้เยาว์ไปอุปการะเลี้ยงดูที่ประเทศญี่ปุ่น โดยเตรียมสถานที่เลี้ยงดูที่มีความปลอดภัยและสะดวก มีพยาบาลวิชาชีพและพี่เลี้ยงเด็กเพียงพอ เมื่อถึงเกณฑ์ที่ผู้เยาว์จะเข้ารับการศึกษา ผู้ร้องวางแผนจะส่งเข้าศึกษาที่โรงเรียนนานาชาติใกล้ที่พักอาศัย โดยผู้ร้องและครอบครัวซื้อที่ดินและกำลังก่อสร้างที่พักอาศัยใกล้สวนสาธารณะขนาดใหญ่กลางกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น

นอกจากนี้ ผู้ร้องเปิดบัญชีกองทุนให้แก่ผู้เยาว์ทั้ง 13 คนที่ประเทศสิงคโปร์เพื่อสะสมให้ผู้เยาว์ทั้ง 13 คนในระยะยาวอีกด้วย ทั้งได้ความว่า ผู้ร้องได้นำบุตรผู้เยาว์อื่นซึ่งเกิดจากการตั้งครรภ์แทนก่อนหน้านี้ไปเลี้ยงดูที่ประเทศญี่ปุ่นและประเทศกัมพูชา ซึ่งปรากฏว่าบุตรผู้เยาว์ดังกล่าวได้รับการเลี้ยงดูเป็นอย่างดี โดยเฉพาะบุตรผู้เยาว์ที่นำไปเลี้ยงดูที่ประเทศญี่ปุ่นได้รับสัญชาติญี่ปุ่นครบถ้วนทุกคนแล้ว ผู้ร้องเป็นบุตรผู้ก่อตั้งและประธานบริหารบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ที่มีชื่อเสียงของประเทศญี่ปุ่น เป็นเจ้าของและผู้ถือหุ้นในหลายบริษัท ได้รับเงินปันผลจากบริษัทเดียวปีละกว่าร้อยล้านบาท แสดงว่าผู้ร้องมีอาชีพการงานมั่นคง มีรายได้มากเพียงพอที่จะเลี้ยงดูบุตรผู้เยาว์ได้ทุกคน 

อธิบดีกรมกิจการเด็กในฐานะผู้กำกับดูแลหน่วยงาน ที่เลี้ยงดูผู้เยาว์ทั้งสิบสามคนมีหนังสือไม่คัดค้านการที่ผู้ร้องยื่นคำร้องต่อศาล ทั้งไม่ปรากฏว่าผู้ร้องมีพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์ ผู้ร้องเป็นผู้ดำเนินการให้ผู้เยาว์ทั้งสิบสามคนถือกำเนิดมาจึงต้องรับผิดชอบในการอุปการะเลี้ยงดูผู้เยาว์ดังกล่าว เมื่อคำนึงถึงความผาสุก สวัสดิภาพและโอกาสของผู้เยาว์ทั้ง 13 คน อันพึงจะได้รับการอุปการะเลี้ยงดูจากบิดาที่แท้จริงที่ย่อมต้องมีความรักใคร่ผูกพันต่อบุตรโดยสายเลือดของตนเอง และเป็นผู้มีความใกล้ชิดกับผู้เยาว์มากที่สุด ทั้งไม่ปรากฏว่าผู้ร้องมีความประพฤติบกพร่องเสียหายประการใด

จึงเห็นสมควรมีคำสั่งให้ผู้เยาว์ทั้ง 13 คนที่เกิดจากการตั้งครรภ์แทนเป็นบุตรโดยชอบด้วยกฎหมายของผู้ร้องนับแต่วันที่ผู้เยาว์นั้นเกิด และเมื่อได้ความว่าหญิงผู้รับตั้งครรภ์แทนมิได้มีความสัมพันธ์ทางสายเลือดกับผู้เยาว์แต่อย่างใด และทุกคนต่างทำบันทึกยอมสละอำนาจปกครองแล้ว จึงเห็นควรให้ผู้ร้องใช้อำนาจปกครองผู้เยาว์ทั้ง 13 คนแต่เพียงฝ่ายเดียว จึงมีคำสั่งว่า ผู้เยาว์ทั้ง 13 คนเป็นบุตรโดยชอบด้วยกฎหมายของผู้ร้องนับแต่วันที่ผู้เยาว์ทั้ง 13 คนเกิดตามพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็กที่เกิดโดยอาศัยเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ พ.ศ. 2558 มาตรา 56 กับให้ผู้ร้องเป็นผู้ใช้อำนาจปกครองผู้เยาว์ทั้ง 13 คนแต่เพียงฝ่ายเดียว ค่าฤชาธรรมเนียมให้เป็นพับ

ภายหลังนายก้อง สุริยมลฑล ทนายความนายมิตสุโตกิ กล่าวว่า ขอกราบขอบพระคุณผู้พิพากษาที่ให้ความเป็นธรรมกับนายมิตสุโตกิ โดยคำนึงถึงประโยชน์สูงสุดของเด็กเป็นสำคัญจากคำพิพากษา พยานหลักฐานที่ทางผู้ร้องนำสื่อประกอบกับที่ท่านแสวงหาตรวจสอบด้วยตนเองข้อเท็จจริงที่ว่าได้นายมิตสุโตกิไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์หรือคดีอาญาใด มีความเหมาะสมและต้องการอุปการะเลี้ยงดูบุตรทุกคนจริงๆ ขั้นตอนต่อไปจะประสานกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เพื่อขอรับตัวเด็ก กลับไปอยู่ในความอุปการะเลี้ยงดูทั้ง 13 คนด้วยจะดำเนินการให้เร็วที่สุด ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับตัวเด็กด้วยเพราะไม่ต้องการให้มีความเปลี่ยนแปลงโดยเร็ว เนื่องจากขณะนี้เด็กมีอายุ 4 ปี อาจจะมีความสัมพันธ์กับพี่เลี้ยงซึ่งมีความเป็นไปได้ว่าจะต้องนำตัวพี่เลี้ยงเดินทางไปด้วย ทั้งนี้จะรายงานผลคำพิพากษาให้นายมิตสุโตกิทราบต่อไป เชื่อว่าจะต้องดูแลเด็กอีกระยะหนึ่งกระทั่งเด็กมีความพร้อมก่อนนำตัวกลับ

...

ผู้สื่อข่าวถามว่าเพราะอะไรนายมิตสุโตกิ ถึงอยากมีลูกจำนวนมากขนาดนี้ นายก้องกล่าวยืนยันว่า นายมิตสุโตกิต้องการมีลูก และที่ต้องการมีลูกมากเป็นเหตุผลส่วนตัว เนื่องจากเขาเป็นครอบครัวใหญ่ ทั้งนี้ตลอดเวลา 3 ปีครึ่งที่ผ่านมา นายมิตสุโตกิมีความเป็นห่วงลูกในขณะที่กระทรวงพัฒนาความมั่นคงของมนุษย์ก็ไม่ได้คัดค้าน ทำให้คำพิพากษานี้ถึงที่สุดแล้ว.