สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯให้ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี เป็นผู้แทนพระองค์ ประกอบพิธีอัญเชิญ “นพปฎลมหาเศวตฉัตร” ลงจากยอดพระเมรุมาศ ก่อนทำการรื้อถอนและย้ายพระเมรุมาศออกจากท้องสนามหลวง เพื่อไปเก็บรักษาไว้ให้คนรุ่นหลังได้ศึกษาต่อ ทั้งที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ และอาคารจัดแสดงนิทรรศการที่ จ.ปทุมธานี ด้านอธิบดีกรมศิลปากร คาดใช้เวลารื้อและย้ายราว 2 เดือน 15 มี.ค. ส่งมอบพื้นที่สนามหลวงทั้งหมดให้ กทม.ปรับภูมิทัศน์
เริ่มแล้วการรื้อถอนและย้ายพระเมรุมาศ ในพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ออกจากมณฑลพิธีท้องสนามหลวง ตามแผนของรัฐบาลที่จะนำสถาปัตยกรรมโบราณที่ตราตรึงในจิตใจคนไทยที่สุดในรอบศตวรรษ ไปเก็บรักษาไว้ให้อนุชนคนรุ่นหลังได้ศึกษาต่อ ทั้งนี้ เมื่อเวลา 07.30 น. วันที่ 11 ม.ค. ที่พระเมรุมาศ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง มีการจัดพิธีทำบุญอุทิศถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โดยมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานฝ่ายฆราวาส สมเด็จพระวันรัต วัดบวรนิเวศ วิหาร เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ พร้อมด้วยคณะกรรมการอำนวยการ คณะกรรมการฝ่ายต่างๆ ในงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ คณะรัฐมนตรี ผบ. เหล่าทัพ ผู้บริหารกระทรวงวัฒนธรรม ข้าราชการกรมศิลปากร ฯลฯ เข้าร่วมพิธีประกอบด้วยการถวายเครื่องไทยธรรม และทอดผ้าไตร จำนวน 10 ไตร พระสงฆ์ 10 รูป สดับปกรณ์ จากนั้นนายกรัฐมนตรี และผู้ร่วมในการจัดพระราชพิธีทั้งหมดได้ร่วมกันทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ 89 รูป เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล
...
เวลา 10.10 น. สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระ กรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี เป็นผู้แทนพระองค์ประกอบพิธีอัญเชิญนพปฎลมหาเศวตฉัตรลงจากยอดพระเมรุมาศ โดยมี พล.อ.ประยุทธ์กล่าวรายงานว่า พระราชพิธี ถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทร มหาภูมิพลอดุลยเดช ได้เสร็จสิ้นลุล่วงทุกประการแล้วนั้น ในการนี้สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้ทรงพระกรุณา โปรดเกล้าฯให้ประกอบพิธีเชิญนพปฎลมหาเศวตฉัตรลงจากยอดพระเมรุมาศและรื้อถอนพระเมรุมาศกับอาคารประกอบทั้งปวงโดยลำดับต่อไป กระทั่งเวลา 10.19 น. ซึ่งเป็นมงคลฤกษ์การบวงสรวงรื้อถอนพระเมรุมาศและสิ่งปลูกสร้าง เจ้าหน้าที่นำรถเครนยกผู้ประกอบพิธีขึ้นกระเช้า ไปเทียบยังนพปฎลมหา เศวตฉัตร เหนือยอดพระเมรุมาศ โหรพราหมณ์ สั่นฆ้องชัย สังข์ บัณเฑาะว์ หัวหน้าพราหมณ์ กล่าวโองการทำพิธีบวงสรวงการรื้อถอนและย้ายพระเมรุมาศ เจ้าหน้าที่ที่อยู่กระเช้าด้านบนจึงถอด ประกอบนพปฎลมหาเศวตฉัตร พร้อมอัญเชิญลงจากยอดพระเมรุมาศอย่างราบรื่นเป็นอันสิ้นสุดพิธี
นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รมว.วัฒนธรรม กล่าวว่า แผนการย้ายพระเมรุมาศ ประกอบด้วย บุษบก โครงสร้างเหล็ก ลิฟต์ นำไปจัดเก็บที่อุทยานประวัติศาสตร์ พระนครศรีอยุธยา งานประติมากรรมประกอบพระเมรุมาศทั้งหมด เคลื่อนย้ายไปจัดเก็บยังอาคารประติมากรรม สำนักช่างสิบหมู่ ต.ศาลายา อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม พระจิตกาธาน และพระ โกศจันทน์ นำไปจัดแสดงที่โรงราชรถ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนคร พระที่นั่งทรงธรรมบางส่วน นำไปก่อสร้างเป็นอาคารจัดแสดงนิทรรศการงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระ ปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่ อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ศาลาลูกขุน 1 จำนวน 4 หลัง จะถอดย้าย ไปก่อสร้างใหม่ ที่สำนักช่างสิบหมู่ ส่วนศาลาลูกขุน 2 และทับเกษตร จำนวน 2 หลัง นำไปก่อสร้างบริเวณอาคารจัดแสดงนิทรรศการ
“ส่วนนิทรรศการที่จัดแสดงบนพระที่นั่งทรงธรรม ประกอบด้วยโซนที่ 1 เมื่อเสด็จอวตาร โซน 2 รัชกาลที่ร่มเย็น และโซน 4 นำพระราชไมตรี รวม 46 บอร์ด นำไปมอบให้พระราชวังพญาไท โซน 3 เพ็ญพระราชธรรม จำนวน 10 บอร์ด มอบให้หอวชิราวุธานุสรณ์ ส่วนโซน 5 พระจักรีนิวัติฟ้า 5 บอร์ด มอบกรมศิลปากร นำไปจัดแสดงที่หอจดหมายเหตุเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระ ปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี และนิทรรศการภายในศาลาลูกขุนทั้ง 6 หลัง จัดเก็บที่สำนักช่างสิบหมู่” รมว.วัฒนธรรม กล่าว
...
ด้านนายอนันต์ ชูโชติ อธิบดีกรมศิลปากร กล่าวว่า กรมศิลปากรจะอัญเชิญนพปฎลมหาเศวตฉัตร ไปประดิษฐานยังกองพระราชพิธี สำนักพระราชวัง สำหรับพระจิตกาธานและพระโกศจันทน์ รวมถึงฉากบังเพลิง ที่ไปเก็บไว้ที่โรงราชรถ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนครนั้นจะมีการจัดแสดงให้ได้ชมเป็นเวลา 2 ปี เพื่อรอให้อาคารนิทรรศการที่ จ.ปทุมธานี ก่อสร้างเสร็จแล้วจึงย้ายไปเก็บรักษาที่ จ.ปทุมธานี ทั้งนี้ การรื้อถอนและย้ายพระเมรุมาศ กำหนดระยะเวลาไว้ 60 วัน คาดว่าจะสามารถส่งมอบพื้นที่ให้แก่กรุงเทพมหานคร ทำการปรับภูมิทัศน์รอบท้องสนามหลวง ในวันที่ 15 มี.ค.