ชุมพร คนร้ายบุกสังหารโหด 2 ผัวเมีย ดับคาที่นอนภายในบ้านพัก ขณะนอนเล่นดูทีวี กระทั่งลูกชายมาเจอ ตร.มุ่งปมแค้นส่วนตัว ฆ่าล้างหนี้ เร่งสอบ

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 13 พ.ย. 59 ตำรวจ สภ.เมืองชุมพร จ.ชุมพร เตรียมสอบปากคำพยาน และผู้ที่เกี่ยวข้อง หลังเมื่อเวลา 20.00 น. วันที่ 12 พฤศจิกายน 2559 ร.ต.ท.นรินทร์ รอดชู รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองชุมพร จ.ชุมพร ได้รับแจ้งเหตุคนถูกยิงเสียชีวิต 2 ราย ภายในบ้านเลขที่ 192 หมู่ 9 ตำบลตากแดด อำเภอเมืองชุมพร จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย พ.ต.อ.ธงชัย นุ้ยเจริญ ผกก. พ.ต.ท.วัชระ เผือกจันทร์ สวป.ชุดสืบสวน เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์โรงพยาบาลชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ และหน่วยกู้ภัยชุมพรการกุศลสงเคราะห์

ที่เกิดเหตุ เป็นบ้านไม้ชั้นเดียวอยู่ในชุมชนวัดสุบรรณนิมิตร ริมแม่น้ำท่าตะเภาหัวสะพานปูน ภายในบ้านพบศพผู้เสียชีวิต 2 ราย คือ นายเกรียงไกร อินทนาคม หรือ ดำ อายุ 59 ปี ถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด .38 เข้าบริเวณเบ้าตาซ้ายทะลุท้ายทอย นอนหงายจมกองเลือดอยู่บนที่นอน ใกล้กันพบศพ นางสุทัศน์ อินทนาคม หรือ เจ้หม่ำ อายุ 55 ปี ถูกยิงด้วยอาวุธปืนชนิดเดียวกันเข้าบริเวณหน้าอกทะลุปอด นอนเสียชีวิตอยู่บนโซฟา ทั้งคู่เป็นสามี-ภรรยา ตรวจสอบในที่เกิดเหตุ พบกระสุนขนาด .38 จำนวน 1 นัด และโทรศัพท์มือถือตกอยู่ใกล้ๆ ร่างนางสุทัศน์ และทีวีกำลังเปิดอยู่

...

สอบสวนเบื้องต้นทราบว่า เมื่อตอนหัวค่ำชาวบ้านในละแวกใกล้เคียงได้ยินเสียงดังคล้ายประทัด จำนวน 2 ครั้งติดกัน แต่ไม่มีใครสนใจ จนกระทั่งลูกชายผู้ตายมาพบศพดังกล่าว

ต่อมา เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 13 พ.ย. 59 พ.ต.อ.ธงชัย นุ้ยเจริญ ผกก.สภ.เมืองชุมพร เผยว่า เมื่อคืนที่ผ่านมาตำรวจได้สอบปากคำพยานและผู้เกี่ยวข้องไปแล้วส่วนหนึ่ง 2-3 ปาก แต่ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ เนื่องจากเกรงว่าจะกระทบต่อรูปคดี เพราะจากหลักฐานในที่เกิดเหตุเชื่อได้ว่า ขณะเกิดเหตุ นางสุทัศน์ กำลังคุยโทรศัพท์อยู่ และคนร้ายเข้ามาในบ้านได้อย่างง่ายดาย โดยที่ผู้ตายทั้งคู่ยังนอนเล่นและโทรศัพท์อยู่ จึงอาจจะเป็นคนที่รู้จักกันเป็นอย่างดี ทั้งนี้ ตั้งประเด็นในการสังหารโหดในครั้งนี้ในเรื่องความแค้นส่วนตัว เพราะจากแนวการสืบสวนทราบว่า ไม่นานมานี้ผู้ตายได้เกิดทะเลาะวิวาทกับชายวัยรุ่นคนหนึ่ง ซึ่งอยู่ในชุมชนเดียวกัน แต่ก็ได้มีการขอโทษกันแล้ว หรือประเด็นที่คนตายปล่อยเงินกู้ ซึ่งอาจจะมีลูกหนี้มาสังหารเพื่อล้างหนี้ หรือธุรกิจบางอย่างที่ไม่เปิดเผย ส่วนสาเหตุที่แท้จริงยังอยู่ระหว่างการสอบสวน

(ภาพจาก : ทีมข่าวในพื้นที่)