จากกรณีนายดี จันทคลักษณ์ ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนผลิตอาหารสัตว์ 4 ตำบล มี ต.แม่เหียะ ต.สุเทพ อ.เมือง และ ต.หนองควาย ต.บ้านปง อ.หางดง จ.เชียงใหม่ พร้อมสมาชิกยื่นหนังสือถึงนายปวิณ ชำนิประศาสน์ ผวจ.เชียงใหม่ และร้องศูนย์ดำรงธรรมขอให้ช่วยเหลือเนื่องจากเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีจะเลิกสั่งซื้ออาหารสัตว์จากกลุ่มวิสาหกิจชุมชน ส่งผลกระทบต่อชาวบ้านในพื้นที่กว่า 500 ครอบครัวนั้น เมื่อวันที่ 5 ต.ค. นายศราวุฒิ ศรีศกุน ผอ.เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี เปิดเผยว่า เมื่อปี 2553 ซึ่งตนได้มาดำรงตำแหน่ง ทราบว่าเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีได้ซื้ออาหารสัตว์จากอำไพการเกษตร จึงได้เชิญอำไพการเกษตรมาพบกับนายดี ประธานวิสาหกิจชุมชนเจรจาว่า อาหารเม็ดกับไก่ให้อำไพการเกษตรทำ เพราะวิสาหกิจชุมชนทำไม่ได้ และอยากให้มีการแข่งขันประมูล หากเป็นพืชผักผลไม้ยังซื้อด้วยวิธีพิเศษกับวิสาหกิจชุมชนเหมือนเดิม
ต่อมาต้นปี 2559 ทางสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ได้เตือนเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีว่า ใบทะเบียนวิสาหกิจชุมชนนั้นหมดอายุ ควรจะแจ้งให้วิสาหกิจชุมชนไปแจ้งจดให้เรียบร้อย เพราะการที่วิสาหกิจฯจัดซื้อด้วยวิธีพิเศษทาง สตง.ไม่เห็นด้วย แต่หากจดทะเบียนแล้วก็สามารถซื้อต่อได้ โดยกำหนดให้เริ่มทำตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.2559 มิฉะนั้น สตง.จะดำเนินการกับเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี และได้ชี้แจงนายดี และเชิญมาพูดคุยชี้แจงเมื่อ 2 เดือนที่ผ่านมา แต่ปรากฏว่า วันที่ 22 ก.ย.2559 กลุ่มวิสาหกิจชุมชนฯ ได้ยื่นหนังสือต่อศูนย์ดำรงธรรมว่า เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีจะยกเลิกซึ่งไม่ถูกต้อง ไม่เป็นไปตามข้อเท็จจริง ตลอดระยะเวลา 6 ปี ในช่วงที่ตนอยู่ในตำแหน่งได้ให้การสนับสนับสนุนวิสาหกิจชุมชนเสมอมา
“ได้ปรึกษา สตง.ประเด็นอาหารเม็ดและเนื้อสัตว์ควรยื่นซองประกวดราคา เพื่อให้เกิดการแข่งขัน พร้อมกับเปิดประมูล ส่วนเรื่องพืชผัก ผลไม้ยังสามารถใช้วิธีพิเศษ ด้วยการรับซื้อกับทางวิสาหกิจชุมชน ส่วนเรื่องที่วิสาหกิจชุมชนจะไปฟ้องร้องก็ให้ดำเนินไป ทั้งหมดได้มีการหารือกับ สตง.เพื่อรักษาผลประโยชน์ของ รัฐ” นายศราวุฒิ ศรีศกุน กล่าวในที่สุด.
...