ลงตัวโผ “นายพล” รอง ผบ.ตร.-ผบก. ประจำปี 2559 ที่มี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี นั่งแท่นประธาน ก.ตร. เป็นการจัดทำคำสั่งแบบมืออาชีพ ยึดรูปแบบเหล่าทัพ ไม่มีชื่อหลุดรอดออกมา มีแค่ข่าวลือปล่อยข่าวกันเอง ไม่มีแรงกระเพื่อม ไม่มีวิ่งเต้นล็อบบี้ตำแหน่งเหมือนในยุคอดีตที่ผ่านมา
เป็นปีทองตำรวจ มีตำแหน่งนายพลที่ว่างเป็นจำนวนมาก เปิดโอกาสให้ตำรวจได้มีการขยับเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้น รอง ผบ.ตร.ว่าง 6 ตำแหน่ง ผู้ช่วย ผบ.ตร.ว่าง 13 ตำแหน่ง ผบช.ว่าง 24 ตำแหน่ง รอง ผบช.ว่าง 53 ตำแหน่ง รอง ผบช.ว่าง 53 ตำแหน่ง และ ผบก.ว่าง 100 ตำแหน่ง มีการโยกย้ายตำรวจ 321 ตำแหน่ง
ภาพรวมคำสั่งโยกย้ายสลับสับเปลี่ยนเป็นไปตามนโยบาย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม และ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. โฟกัสที่ปัญหาหลักๆของชาติ เรื่องค้ามนุษย์ ปัญหาการจราจรติดขัด สถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ การปราบปรามยาเสพติด การปราบปรามผู้ประกอบการเอารัดเอาเปรียบนักท่องเที่ยว
...
จัดวางกำลัง ผบช. และ ผบก.ที่เป็นมือทำงาน มีประสบการณ์ มารับผิดชอบหน่วยหลักที่รัฐบาลขับเคลื่อนและแก้ไขปัญหา รอง ผบ.ตร.และที่ปรึกษา (สบ 10) เทียบเท่า รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.ปัญญา มาเม่น ผู้ช่วย ผบ.ตร. นรต.รุ่น 32 เป็น จตช. พล.ต.อ.เดชณรงค์ สุทธิชาญบัญชา โฆษก ตร. นรต.รุ่น 33 ขยับเป็น รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.สุเทพ เดชรักษา ที่ปรึกษา (สบ 10) เทียบเท่ารอง ผบ.ตร. มือปราบมือดี เป็น รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.รุ่งโรจน์ แสงคร้าม ผู้ช่วย ผบ.ตร. นรต.รุ่น 34 อดีต ผบช.สกพ.และ ผบช.ภ.6 มือบริหารงานที่น่าจับตา ขยับเป็น รอง ผบ.ตร.ไว้ขับเคลื่อน “ปฏิรูปตำรวจ” พล.ต.ท.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. นรต.รุ่น 36 หัวหน้าทีมสืบสวน ตร.ที่สมัครใจทำงานในพื้นที่ชายแดนภาคใต้ เป็นที่ปรึกษา (สบ 10) เทียบเท่า รอง ผบ.ตร. ช่วยงานสืบสวนคดีสำคัญ
ผู้ช่วย ผบ.ตร.ที่น่าจับตา พล.ต.ท.ธนิตศักดิ์ ธีระสวัสดิ์ ผบช.ภ.5 นรต.รุ่น 34 พล.ต.ท.มนู เมฆหมอก ผบช.สพฐ. นรต.รุ่น 38 พล.ต.ท.ชัยวัฒน์ เกตุวรชัย ผบช.ภ.1นรต.รุ่น 36 เพื่อนร่วมรุ่น พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. เป็น ผู้ช่วย ผบ.ตร. เป็นคนรุ่นใหม่ มือไม้ช่วยงาน ผบ.ตร.
ระดับ ผบช.ที่วางตัวลงมาคุมหน่วยหลัก ส่วนใหญ่ นรต.รุ่น 36 เพื่อนร่วมรุ่น พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. แต่ละคนมีชื่อชั้นไม่ธรรมดา ชีวิตเติบโตแวดวงนักสืบสวนปราบปราม เป็นมือไม้มือปราบรุ่นใหญ่ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง อดีต รอง ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.ภาณุพงศ์ สิงหรา ณ อยุธยา อดีต รอง ผบ.ตร.
ส่วนเก้าอี้หลัก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี วางใจ พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผบช.น. มือทำงานที่ทุ่มเทเสียสละแก้ไขปัญหาให้คนเมืองหลวงเข้าตา อยู่ที่เดิม พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผบช.ก. ปิดคดี “กิมเฮง” คดีลวงโลก อยู่ที่เดิม พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช ผบช.ภ.7 นรต.รุ่น 36 สายตรง ที่เป็นตัวเต็งเบียดเก้าอี้ ผบช.น.ขยับเป็น ผบช.ภ.1 พล.ต.ท.จิตติ รอดบางยาง ผบช.ประจำ สง.ผบ.ตร. คนสนิทนายกฯ เป็น ผบช.ภ.2 พล.ต.ท.ชนสิษฎ์ วัฒนวรางกูร ผบช.ภ.6 โยกเป็น ผบช.ภ.3 สลับ พล.ต.ท.ทวิชชาติ พละศักดิ์ ผบช.ภ.3 นรต.รุ่น 34 เป็น ผบช.ภ.6 พล.ต.ต.จตุพล ปานรักษา รอง ผบช.ภ.4 เป็น ผบช.ภ.4 พล.ต.ต.พูลทรัพย์ ประเสริฐศักดิ์ รอง ผบช.น. นรต.รุ่น 35 เป็น ผบช.ภ.5 ส่วนนักสืบมือดี พล.ต.ต.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น รอง ผบช.ภ.7 นรต.36 เพื่อนร่วมรุ่น ผบ.ตร. เป็น ผบช.ภ.7 พล.ต.ท.เทศา ศิริวาโท ผบช.ภ.8 นรต.รุ่น 32 อยู่ที่เดิม
...
พล.ต.ต.สาคร ทองมุณี รอง ผบช.ศชต. เติบโตอยู่ในพื้นที่ภาคใต้ เป็น ผบช.ภ.9 ส่วนตำแหน่งสำคัญ ผบช.ศชต.รับผิดชอบพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ พล.ต.ต.รณศิลป์ ภู่สาระ รอง ผบช.ภ.1 นรต.รุ่น 36 มือสืบสวนนครบาล ที่สมัครใจตาม พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว อดีต ผบ.ตร. ไปคลี่คลายสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ตั้งแต่ปี 2547 ถูกวางตัวเป็น ผบช.ศชต. พล.ต.ต.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รอง ผบช.น. นรต.รุ่น 36 เพื่อนร่วมรุ่น พล.ต.อ.จักรทิพย์ที่ไว้วางใจให้รับผิดชอบสืบสวนคดีสำคัญนับไม่ถ้วนขึ้นเป็น ผบช.ส. พล.ต.ท.ปิยะ อุทาโย ผบช.กตร. นรต.รุ่น 38 ที่เป็นอาจารย์เป็นที่ยอมรับเข้ามาช่วยงานพัฒนาศักยภาพของเหล่านักเรียนนายร้อยตำรวจ เป็น ผบช.รร.นรต.
พล.ต.ท.ณัฐธร เพราะสุนทร ผบช.สตม. นรต.รุ่น 37 ที่เติบโตในหน่วยงาน สตม. ได้ปรับระบบเครื่องมือเทคโนโลยีที่สมัยเข้าช่วยคัดกรองคนต่างชาติที่เป็นภัยต่อความมั่นคงในราชอาณาจักรไทย พล.ต.ต.สมหมาย กองวิสัยสุข รอง ผบช.ก. นรต.34 เพื่อนสนิท พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผบช.ก. และ พล.ต.อ.ชัยยะ ศิริอำพันธ์กุล เลขาปปง. ที่ชีวิตเติบโตพื้นที่อีสานภาคเหนือ เป็นตำรวจที่ได้รับการยอมรับขึ้นเป็น ผบช.ปส. สานต่อนโยบาย พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม ที่เน้นสกัดกั้นต้นตอยาเสพติดในภาคเหนือต่อจาก พล.ต.ท.เรวัช กลิ่นเกษร ที่ลุยงานยาเสพติดชนิดถึงลูกถึงคน
...
รอง ผบช. และ ผบก. มีมือทำงานหลายคนได้ขยับ พล.ต.ต.มนตรี ยิ้มแย้ม ผบก.น.8รต.รุ่น 38 มือทำงานหลายเรื่อง เป็น รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ภาณุรัตน์ หลักบุญ ผบก.สปพ. นรต.รุ่น 41 นักสืบคนดัง ขยับเป็น รอง ผบช.น. พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล ผบก.ทท. นรต.รุ่น 47 มือทำงานคดี “ทัวร์ศูนย์เหรียญ” ที่โชว์ผลงานปราบปราม “นอมินีต่างชาติ” การเอารัดเอาเปรียบนักท่องเที่ยวและผู้ประกอบการคนไทย ซึ่งในอดีตไม่มีใครกล้าทำเพราะเป็นขุมทรัพย์มหาศาล แต่ พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ ประสานทุกหน่วยทลายเครือข่ายจนสิ้นซาก เข้าตานายกรัฐมนตรี วางตัวเป็น ผบก.สปพ. เข้ามาแก้ไขปัญหาคดีอาชญากรรมในพื้นที่กรุงเทพฯ พล.ต.ต.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ ผบก.ภ.จ.ยะลา นรต.รุ่น 43 มือทำงานอีกคนของ พล.ต.อ.จักรทิพย์ เป็น ผบก.ศสส.บช.น.
พล.ต.ต.จีระสันต์แก้วแสงเอก ผบก.รฟ. นรต.รุ่น 40 อดีต ผบก.จร. โยกมาเป็น ผบก.จร. เข้ามาช่วยแก้ปัญหาการจราจรในพื้นที่นครบาล พล.ต.ต.สุทิน ทรัพย์พ่วง ผบก.ปทส. นรต.รุ่น 37 ที่เติบโตเป็นลูกหม้อกองปราบปราม ได้แรงดัน พล.ต.ท.ฐิติราช ขยับเป็น ผบก.ป. แทน พล.ต.ต.อัคราเดช พิมลศรี ผบก.ป. โยกไปเป็น ผบก.ศฝร.ภ.7 พล.ต.ต.ปิยะพันธ์ ปิงเมือง ผบก.ปอศ. นรต.รุ่น 36 อยู่ที่เดิม พล.ต.ต.สุรพล ถนอมจิตร รอง ผบก.ภ.จ.นนทบุรี มือทำงานเป็น ผบก.รฟ. พ.ต.อ.ประเสริฐ เงินยวง รอง ผบก.ทท. นรต.รุ่น 37 มือทำงานที่ไว้ใจได้เป็น ผบก.ทท. สานต่องานสลายทัวร์เถื่อนต่างชาติ ที่จำเป็นต้องได้คนที่เด็ดขาด ตรงไปตรงมา เข้ามาทำ
จังหวัดชายแดนภาคใต้ ขยับคนในพื้นที่สูงขึ้น และโยกคนเก่ามีประสบการณ์ลงไปทำงาน พล.ต.ต.มณฑล เงินวัฒนะ รอง ผบช.สก. เป็น รอง ผบช.ศชต. พล.ต.ต.ทนงศักดิ์ วังสุภา ผบก.ภ.จ.ปัตตานี เป็น รอง ผบช.ศชต. พล.ต.ต.พัฒนวุธ อังคะนาวิน ผบก.ภ.จ.นราธิวาส เป็น รอง ผบช.ศชต. พล.ต.ต.มนัส ศิกษมัด ผบก.กองคดีอาญา เป็น ผบก.ภ.จ.นราธิวาส พ.ต.อ.กฤษฎา แก้วจันดี รอง ผบก.ภ.จ.ยะลา เป็น ผบก.ภ.จ.ยะลา พ.ต.อ.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี รอง ผบก.ภ.จ.ยะลา เป็น ผบก.ภ.จ.ปัตตานี
...
แต่วังวนคำสั่งโยกย้ายตำรวจ ย่อมมีเด็กฝาก เส้นสาย มียี้ เข้ามา แต่ภาพรวมถือว่ารัฐบาลใจกว้างเปิดโอกาส พล.ต.อ.จักรทิพย์ วางคนที่เหมาะสม มีประสบการณ์ คุ้นเคยลงไปแก้ไขปัญหาในพื้นที่สำคัญ
ไม่ปล่อยให้บานปลายขยายเป็นจุดอ่อนของรัฐบาล.
ทีมข่าวอาชญากรรม