ผวจ.น่าน เสนอใช้ ม.44 ห้ามพ่นสารเคมี หลังมีผลวิจัยออกมาว่าในพื้นที่ที่มีการใช้สารเคมีด้านการเกษตรมีปริมาณสูงถึงปีละ 2.4 ล้านกิโลกรัม พบการปนเปื้อนเกินมาตรฐานในปลาแม่น้ำ เผยรัฐยังเปิดเสรีให้มีการนำเข้ายาฆ่าหญ้า...
วันที่ 14 ก.ค ผู้สื่อข่าวรายงานจากกการเปิดเผยของ นายสุวัฒน์ พรมสุวรรณ ผวจ.น่าน และ พล.ต.ชัยณรงค์ แกล้วกล้า ผู้บัญชาการมณฑลทหารที่ 38 ว่า หลัง รศ.ดร.พวงรัตน์ ขจิตวิชยานุกูล อาจารย์คณะวิศวรรกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร เปิดเผยถึงผลวิจัยว่า จ.น่าน มีการใช้สารเคมีด้านการเกษตรมีปริมาณสูงถึงปีละ 2,400,000 กิโลกรัมต่อปี และจากการสุ่มตรวจปลาในแม่น้ำ พบสารเคมีไกรโฟเซต ที่เป็นยาฆ่าหญ้าชนิดดูดซึม พบมีปริมาณสูงกว่า 10,000 ไมโครกรัมต่อกิโลกรัม ซึ่งเป็นปริมาณความเข้มข้นที่เกินค่ามาตรฐานของสำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ และมาตรฐานสากล ของ Codex ที่ต้องไม่เกิน 50 ไมโครกรัมต่อกิโลกรัม
นอกจากนี้ ยังพบสารเคมีที่ใช้ในการเกษตร 4 ชนิด ได้แก่ ไกรโฟเซต, อาทราซีน, พาราควอต และคลอร์ไพริฟอส ปนเปื้อนในน้ำประปาหมู่บ้าน และโรงผลิตน้ำดื่มทั่วทั้ง จ.น่าน ทำให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพของประชาชน
นายสุวัฒน์ พรมสุวรรณ ผวจ.น่าน กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาตั้งคณะทำงานบริหารจัดการปัญหาการใช้เคมีในภาคการเกษตร และเคยเสนอให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ใช้มาตรา 44 ประกาศห้ามใช้ยาฆ่าหญ้าในพื้นที่ป่าต้นน้ำ แต่มีข้อจำกัด เนื่องจากนโยบายรัฐยังเปิดเสรีทางการค้าระหว่างประเทศ จึงยังนำเข้ายาฆ่าหญ้าต่อเนื่อง จึงขอความร่วมมือไปทางคณะวิจัยมหาวิทยาลัยนเรศวร สำรวจตรวจค่าระดับความรุนแรงของสารเคมีที่พบในปลา เนื้อสัตว์และน้ำประปา น้ำดื่มอย่างเร่งด่วน หากพบมีสารเคมีอยู่ในระดับอันตรายต่อสุขภาพประชาชน จะเสนอให้ประกาศเป็นพื้นที่ภัยพิบัติสารเคมีต่อไป.
...