"น้องบีม" วัย 13 ขวบ เรียนดี แต่ป่วยเป็นมะเร็งบนใบหน้า ตรงโหนกแก้มด้านขวา ต้องหยุดเรียนกลางคัน เกรงแผลจะติดเชื้อ-เพื่อนล้อ เบื้องต้นผ่าตัดมาแล้ว 4 ครั้ง แต่ยังไม่หาย ครอบครัวยากจน เงินไม่พอจุนเจือ วอนผู้ใจบุญช่วยเหลือค่ารักษาพยาบาล...

เมื่อวันที่ 10 พ.ย. 58 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านเลขที่ 79 หมู่ 4 ต.กุมภวาปี อ.กุมภวาปี จ.อุดรธานี หลังจากมีการแชร์เรื่องราวของเด็กหญิงวัย 13 ปี ที่ป่วยบริเวณใบหน้าบวมใหญ่ ปิดตาข้างขวา โดยเจ้าของเฟซบุ๊กชื่อ “เมศ เมศ เจ้าชายน้อย” เมื่อเดินทางไปถึงพบ นายศุรชัย ยะราช 49 ปี และ น.ส.ขนิษฐา วิบูลย์กูล อายุ 40 ปี พ่อแม่ของ ด.ญ.กฤติพร หรือ น้องบีม ยะราช อายุ 13 ปี ซึ่งมีอาการบวมบริเวณใบหน้า ตรงโหนกแก้มด้านขวาขนาดใหญ่ ปิดดวงตาจนมองไม่เห็น

น.ส.ขนิษฐา เล่าว่า ตนมีลูก 3 คน คนโตเป็นผู้ชายเรียนจบ ม.6 ไม่ได้เรียนต่อ ต้องไปทำงานรับจ้างทั่วไป นำเงินมาจุนเจือครอบครัว น้องบีมเป็นคนที่ 2 และ คนที่ 3 เป็นผู้ชายอายุ 6 เดือน น้องบีมเกิดมาช่วง 1-7 ขวบ มีใบหน้าปกติดีทุกอย่าง แต่เมื่ออายุ 8 ขวบ น้องบีมเรียนอยู่ชั้น ป.2 ได้ออกไปวิ่งเล่นกับเพื่อนที่สนามเด็กเล่นภายในโรงเรียน หกล้มหน้าไปชนกับเครื่องเล่นอย่างรุนแรง ทำให้แก้มขวามีรอยฟกช้ำ เมื่อกลับมาบ้านตนก็ใช้ยาทาแก้ฟกช้ำให้ ผ่านมา 1 สัปดาห์ ตนและญาติๆ ก็สังเกตว่าหน้าน้องเริ่มมีอาการเขียวช้ำบวมมากขึ้น เมื่อเอามือไปจับก็พบเป็นก้อนเท่านิ้วหัวแม่มือ และตาข้างขวาตกไม่เท่ากัน จึงพาน้องบีมรักษาโรงพยาบาลกุมภวาปี ผลเอกซเรย์ พบว่า มีก้อนเนื้ออยู่บริเวณใต้กระดูกโหนกแก้มขวา แพทย์ได้ทำเรื่องส่งตัวน้องบีมไปตรวจอย่างละเอียดที่ โรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี เพื่อผ่าตัดเอาก้อนเนื้อออกมาตรวจ พบว่าก้อนเนื้อดังกล่าวเป็นเนื้อร้าย และเริ่มบวมโตขึ้นเรื่อยๆ จนเมื่อปี 2554 น้องบีมถูกส่งตัวไปรักษาที่ โรงพยาบาลศรีนครินทร์ จ.ขอนแก่น แพทย์ได้ผ่าตัดและฉายแสงครั้งแรก

...

"หลังจากนั้น 1 ปี ก็เริ่มมีอาการก้อนเนื้อบริเวณโหนกแก้มที่เดิมปูดบวมมากขึ้น แพทย์จึงตรวจ และพบว่าก้อนเนื้อร้ายนั้นได้กัดกินกระดูกโหนกแก้ม เหงือก และฟันด้านบน รวมถึงเนื้อเยื่อเพดานปากด้านขวาเป็นรูกว้าง หมอจึงต้องรักษาโดยการผ่าตัดอีกครั้งเป็นครั้งที่ 2 โดยการใช้อุปกรณ์ชื่อพาเลสใส่ไว้ใต้ตาเพื่อป้องกันตาเคลื่อน ซึ่งครั้งนี้ต้องใช้เงิน 2-3 หมื่นบาท เนื่องจากอยู่นอกรายการสิทธิ์บัตรทอง ต่อมาเดือนธันวาคม ปี 2555 แพทย์ได้นัดผ่าตัดครั้งที่ 3 เพื่อเอากระดูกบริเวณท่อนขาขวาด้านล่างประมาณ 1 นิ้ว มาเสริมที่โหนกแก้ม และช่วงฟันกรามด้านขวา ภายในเดือนเดียวกัน ได้ผ่าตัดครั้งที่ 4 โดยการนำหนังที่หน้าขาด้านขวาไปใส่ช่องปาก เพื่อทำเป็นเพดานเพื่อให้น้องสามารถพูดได้ชัดขึ้น"

อย่างไรก็ตาม หลังจากผ่าตัดมาน้องบีมก็สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ และเรียนหนังสือจนจบชั้น ป.6 ก็จะมีอาการปวดที่บริเวณเนื้อที่บวมบ้าง ปัจจุบันหน้าน้องบีมยังมีอาการปูดบวมปิดตาขวา จนไม่สามารถมองเห็นได้ ฟันกรามด้านบนก็ไม่มี

ขณะนี้ น้องบีมยังเรียนอยู่ชั้น ม.1 โรงเรียนบ้านดงเมือง ต.กุมภวาปี อ.กุมภวาปี มีนิสัยร่าเริง เรียนเก่งสอบได้ลำดับที่ 1 มาตลอด แต่ทางบ้านได้ให้น้องบีมหยุดเรียนไปก่อน เพราะกลัวว่าแผลจะติดเชื้อ และกลัวเพื่อนล้อ อยากจะรักษาลูกให้หาย แต่มีฐานะอยากจน สามีทำงานเป็นลูกจ้างชั่วคราว สำนักงานเกษตรอำเภอกุมภวาปี เงินเดือน 6,000 บาท ส่วนตนเป็นแม่บ้าน ไม่ได้ทำงาน เพราะต้องดูแลน้องบีมอย่างใกล้ชิด เงินเดือนที่ นายศุรชัย ได้รับก็แทบจะไม่พอใช้จ่ายภายในครอบครัว

“ค่ารักษาตั้งแต่เริ่มนั้น ก็ได้ใช้สิทธิ์บัตรทอง ในส่วนค่าอุปกรณ์ที่นอกรายการ และค่าเดินทางไปโรงพยาบาล ตนต้องไปกู้ยืมมาเพื่อนำเงินทุนมารักษาน้องบีม ตอนนี้ก้อนเนื้อที่ใบหน้าเริ่มใหญ่ขึ้นอีก ตนอยากพาน้องบีมไปหาหมอ เพื่อทำการรักษาแต่ก็ไม่มีเงิน ปัจจุบันนี้ก็มีเพียงซื้อยาแก้ปวด และอุปกรณ์ทำความสะอาดแผลให้น้องบีมเท่านั้น ตนสงสารลูกคิดหาวิธีเพื่อรักษาลูก จึงได้นำเรื่องนี้ไปคุยกับเพื่อนๆ แล้วนำภาพน้องโพสต์ในสื่อออนไลน์เพื่อให้ผู้ใจบุญได้ให้การช่วยเหลือ”

สำหรับผู้ใจบุญต้องการช่วยเหลือน้องบีม สามารถสนับสนุนค่ารักษาพยาบาลได้ที่ หมายเลขบัญชี 982-4-87168-3 ธนาคารกรุงไทย สาขากุมภวาปี เมืองใหม่ ชื่อบัญชี น.ส.ขนิษฐา วิบูลย์กุล และสามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เบอร์ 061-2528564