บอร์ดสลากเตรียมดัดหลังผู้ค้าสลากรายย่อยตั้งตัวเป็นยี่ปั๊ว กว้านซื้อสลากมาขายต่อจนราคาพุ่งขาย ตามที่กำหนดได้ยาก “เสธ.แดง” สั่งเปลี่ยนโควตาขายของสลากลงมาเหลือตั้งแต่ 1 เล่มคู่ แต่ไม่เกิน 15 เล่มคู่ แล้วส่งชื่อผู้ค้าแสบให้กรมสรรพากรตรวจสอบภาษีย้อนหลัง พร้อมขู่ไม่ปิดสำนักงานสลากฯ แต่จะเพิ่มยอดพิมพ์อีกเท่าตัว

สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลปรับกลยุทธ์แก้ปัญหากระจายสลากฯ โดยเมื่อวันที่ 9 พ.ย. พล.ท.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ประธานกรรมการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดเผยว่า ผลการประชุมคณะกรรมการสำนักงานสลากฯ (บอร์ด) มีมติปรับเปลี่ยนยอดการจำหน่ายสลากฯ จากเดิมกำหนดให้ประชาชนและผู้ค้าสลากซื้อตรงและจองซื้อได้คนละไม่เกิน 15 เล่มคู่ หรือ 3,000 คู่ เป็นไม่ถึง 15 เล่มคู่ แต่จะกี่เล่มคู่นั้น ยังไม่สามารถบอกได้ หลังจากที่สำนักงานสลากฯ เปิดให้จองซื้อและซื้อตรงสลากไปแล้ว 3 งวด พบว่ายังมีผู้ค้าสลากบางรายที่มีเงินทุนหนา กว้านซื้อสลากจากผู้ค้ารายย่อย ทำให้มีสลากบางจุดมีราคาขายปลีกเกินกว่าคู่ละ 80 บาท

“ตลอดระยะเวลา 5 เดือนที่ผ่านมา สำนักงานสลากฯ ปรับปรุงวิธีการจำหน่าย และการจัดสรรโควตา แต่จนถึงวันนี้ ยังพบว่ามีผู้ค้าสลากรายย่อยที่มีเงินทุนพอสมควรตั้งตัวเป็นยี่ปั๊ว อาจจะมีจำนวนสูง 500-1,000 ราย ไม่ใช่ยี่ปั๊วรายใหญ่ 5-6 ราย ไปกว้านซื้อสลากจากรายย่อยที่ไม่ต้องขายสลากด้วยตนเอง แล้วนำมาขายต่อในราคาสูงตั้งแต่คู่ละ 77-78 บาท จากที่สำนักงานสลากฯ ขายในราคา 70.40 บาท ทำให้ผู้ค้าสลากรายย่อยตัวจริงได้รับผลกระทบจนไม่สามารถขายในราคาที่สำนักงานสลากฯ กำหนดได้” พล.ท.อภิรัชต์กล่าว และว่าดังนั้น สลากที่จะเปิดให้ซื้อตรงและจองซื้อในงวดหน้า จะต้องมีการเปลี่ยนแปลงเพื่อปรับปรุงวิธีการขายของสำนักงานสลากฯ เพื่อลดปัญหาดังกล่าว ซึ่งจากสถิติของสำนักงานสลากฯ พบว่า ในงวดแรกที่เปิดให้ซื้อตรง งวด 16 ต.ค.58 และจองซื้องวด 1 พ.ย.58 จำนวนคนละ 5-50 เล่มคู่ มียอดซื้อตรงและจองซื้อ 14,294 ราย คิดเป็น 148,900 เล่มคู่ จากจำนวนลงทะเบียนทั้งหมด 77,163 ราย งวดที่ 2 ซื้อตรงงวด 1 พ.ย.และจองซื้องวด 16 พ.ย.จำนวน 5-15 เล่มคู่ มียอดซื้อตรงและจองซื้อ 15,871 ราย หรือ 149,480 เล่มคู่ จากจำนวนที่ลงทะเบียนทั้งหมด 82,768 ราย และงวดล่าสุดคือ ซื้อตรง 16 พ.ย.58 และจองซื้อ 1 ธ.ค.58 มียอดซื้อตรงและจองซื้อ 13,286 ราย หรือ 130,000 เล่มคู่ จากจำนวนที่ลงทะเบียนทั้งหมด 95,352 ราย และจนถึงวันที่ 9 พ.ย. มีคนลงทะเบียนกับสำนักงานสลากฯ เกือบ 100,000 คน

...

พล.ท.อภิรัชต์กล่าวด้วยว่า จากที่สำนักงานสลากฯ เก็บสถิติ พบว่าปริมาณสลากฯ ที่เปิดขายตรง ได้รับความสนใจจากประชาชนมากขึ้น และมีการกระจายไปถึงมือรายย่อยมากขึ้น แต่ในงวดที่ 3 มีข้อสังเกตว่ามีการซื้อตรงและจองซื้อสลากเต็มเพดานที่กำหนดคือ ไม่เกินคนละ 15 เล่มมากขึ้น ในจำนวนนี้ ตรวจสอบได้ยากว่าเป็นผู้ซื้อตัวจริงหรือไม่ แต่ยอมรับว่าผู้ซื้อสลากบางรายนำสลากที่ซื้อมาไปขายต่อให้แก่ยี่ปั๊ว สำนักงานสลากฯ จะเร่งจัดการกับกลุ่มที่กว้านซื้อสลากโดยเร็ว ล่าสุดทีมเฉพาะกิจไปจับกุมพ่อค้าสลากจำนวน 38 ราย และซัดทอดไปถึงยี่ปั๊วรายใหญ่ส่งเงินมาให้ประมาณ 200 ล้านบาท เพื่อตั้งโต๊ะรับซื้อสลากจากชาวบ้านในราคา 77-78 บาท ทำให้เกิดการขายสลากหลายทอดจนนำไปสู่การขายสลากเกินกว่าคู่ละ 80 บาท สำนักงานสลากฯ ส่งรายชื่อทั้งหมดไปให้กรมสรรพากรตรวจสอบภาษีย้อนหลังเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ทั้งนี้ พล.ท.อภิรัชต์ กล่าวว่า อยากขอร้องให้ประชาชนรอการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นในเรื่องการปรับโครงสร้างสลากใหม่ เพราะสลากในงวดวันที่ 17 ม.ค.59 ปริมาณสลากระหว่างผู้ค้าสลากที่ได้รับโควตาแบบเดิมอยู่ที่ 25 ล้านเล่มคู่ และสำนักงานสลากฯ ขายเองอีก 25 ล้านเล่มคู่ รวมเป็น 50 ล้านเล่มคู่ หรือ 100 ล้านฉบับ จะทำให้กลไกตลาดระหว่างความต้องการที่แท้จริงกับปริมาณเกิดความสมดุล แต่ขอเตือนว่า ระบบการพิมพ์สลากของสำนักงานสลากฯ มีความทันสมัยมาก เพราะสามารถเพิ่มปริมาณการพิมพ์จาก 100 ล้านฉบับขึ้นไปได้อีก 1 เท่าตัวหรือ 200 ล้านฉบับ การแก้ไขทั้งหมดคือ ความพยายามของบอร์ดที่ไม่ต้องปิดสำนักงานสลากฯ และหยุดการจำหน่ายสำนักงานสลากฯ 4-5 งวดตามคำแนะนำของนายกรัฐมนตรี