ทหารสนธิกำลังตำรวจ สกัดจับ 2 ผู้ต้องหาค้ากัญชา ขณะขนขึ้นเรือริมฝั่งโขงใส่รถปิกอัพต่อตู้ วิ่งหลบหนีเข้าเขต จ.บึงกาฬ ก่อนถูกเจ้าหน้าที่สกัดจับไว้ได้ พบ กัญชา 494 แท่ง น้ำหนัก 494 กก. มูลค่ากว่า 9.9 ล้านบาท...

เมื่อวันที่ 17 ต.ค. 58 พล.ร.ต.วราห์ แทนขำ ผู้บัญชาการหน่วยรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขงนครพนม สืบทราบว่า จะมีการลักลอบขนยาเสพติดข้ามน้ำโขงมาจาก สปป.ลาว จึงสั่งการให้ น.อ.สมชาติ อุดมนาค ผู้บังคับการ หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำน้ำโขง (นขร.) เขตหนองคาย และ ร.อ.สุเมธ วัชรจิตรกุล หัวหน้าสถานีเรือรัตนวาปี สนธิกำลังกับ พ.ต.อ.กำพล ทันตสุวรรณ ผกก.สภ.โซ่พิสัย พ.ต.ท.อนุรักษ์ เสนามาตย์ ผบ.ร้อย ตชด.244 นำกำลังวางแผนจับกุม ต่อมาพบ เรือหาปลาติดเครื่องยนต์ 2 ลำวิ่งข้ามมาจากฝั่ง สปป.ลาว จากนั้นวิ่งเข้ามาจอดริมตลิ่งบ้านต้อนใหญ่ ต.บ้านต้อน อ.รัตนวาปี มีชายประมาณ 6 คน แบกกระสอบปุ๋ยขึ้นจากเรือมาใส่รถปิกอัพ ยี่ห้ออีซูซุ รุ่นดีแมคซ์ สีน้ำตาล ทะเบียน ณม 3464 กรุงเทพมหานคร ลักษณะต่อเป็นตู้บรรทุกสินค้าที่จอดรออยู่ริมฝั่ง จึงแสดงตัวเข้าตรวจค้น แต่คนขับรถปิกอัพขับรถพุ่งออกไปอย่างรวดเร็ว ประสานให้ทุกจุดเข้าสกัด

...

รถคนร้ายได้วิ่งขึ้นถนนสาย 212 บึงกาฬ-หนองคาย ก่อนจะวิ่งเข้าไปในเขต จ.บึงกาฬ แล้วเลี้ยวขวาไปทาง อ.โซ่พิสัย เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ทหาร กกล.รส.ร้อย 1332 ตร.กก.3 บก.ปทส. และตำรวจ สภ.โซ่พิสัย ตั้งจุดสกัดอยู่ใกล้ตลาดสด พอรถคนร้ายวิ่งเข้าในเขตเทศบาลโซ่พิสัย จึงถูกเจ้าหน้าที่ขับรถยนต์ปิดหัวท้ายล็อกเอาไว้ได้ ทราบชื่อ นายธงชัย กรทอง อายุ 22 ปี ชาว ต.ไร่ขิง อ.สามพราน จ.นครปฐม คนขับ และนายไพรัช ภูศรี อายุ 30 ปี คนนั่งข้าง ตรวจสอบภายในตู้บรรทุกพบถุงปุ๋ยซ้อนทับด้วยถุงพลาสติกสีดำ จำนวน 13 ถุง ด้านในเป็นกัญชาแห้งอัดแท่งจำนวน 494 แท่งน้ำหนัก 494 กิโลกรัม มูลค่าประมาณ 9.9 ล้านบาท จึงยึดไว้เป็นของกลาง

จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ทราบว่า ได้รับการว่าจ้างเป็นเงิน 30,000 บาท ให้ขับรถยนต์ขนกัญชาไปจอดทิ้งไว้ในปั๊มน้ำมันเขต อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา แล้วจะมีคนมาขับรับช่วงไปต่อเพื่อนำกัญชาไปส่งยังภาคใต้ จากนั้นจะนำออกไปขายยังต่างประเทศ เคยทำมาแล้ว 3 ครั้ง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแจ้งข้อหาร่วมกันนำยาเสพติดให้โทษประเภท 5 (กัญชา) เข้ามาในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย ควบคุมตัวพร้อมของกลางส่ง ร.ต.ท.วิษณุ จันทะคัต ร้อยเวร สภ.โซ่พิสัย ดำเนินคดีต่อไป