ชาวบ้านที่สุโขทัยออกมาโวย ซื้อฟองเต้าหู้ไปทำไหว้สารทจีน แช่น้ำ 2 ชั่วโมง นำไปต้ม ยังแข็งกระด้างเหมือนเดิม แถมลองจุดไฟปรากฏว่า ติดไฟ มีกลิ่นเหมือนยางไหม้ จึงสงสัยฟองเต้าหู้หรือว่ายางเทียม ล่าสุดจนท.สสจ.ออกเก็บตัวอย่างส่งตรวจแล้ว

จากที่ก่อนหน้านี้ได้มีชาวบ้านหลายรายซื้อฟองเต้าหู้จากร้านค้าแห่งหนึ่งในตลาดสดเทศบาลเมืองสุโขทัยธานี ต.ธานี อ.เมือง จ.สุโขทัย เพื่อนำไปทำอาหารไหว้สารทจีน แต่พบว่าฟองเต้าหู้ที่ซื้อมานั้น มีลักษณะคล้ายยางเทียม แม้จะแช่น้ำทิ้งไว้กว่า 2 ชั่วโมง เมื่อนำไปต้มน้ำเดือด ก็ยังคงรูปร่างและแข็งกระด้างเหมือนเดิม แถมเมื่อนำไปลองจุดไฟก็ติดไฟ และมีกลิ่นคล้ายยางไหม้อีกด้วย

เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 29 ส.ค. นายสมคิด ตันติไวทยพันธ์ นักวิชาการสาธารณสุขเชี่ยวชาญ ดูแลคุ้มครองผู้บริโภค สำนักงานสาธารณสุข จ.สุโขทัย และ นายอธิราช วรรณา รองนายกเทศมนตรีเมืองสุโขทัยธานี ได้นำเจ้าหน้าที่ออกสำรวจร้านค้า ประเภทขายอาหารแห้ง พบว่ามีอยู่ 2 ร้านที่จำหน่ายฟองเต้าหู้ คือ ร้านเจ๊ขวัญตา ตั้งอยู่ริมฟุตปาท ถ.ทัศนาพานิช 3 ต.ธานี และร้านเจ๊อุ่ย อยู่ภายในตลาดสด 2 ชั้น โดยฟองเต้าหู้ทั้งหมด ทั้ง 2 ร้าน ให้การตรงกันว่า สั่งซื้อมาจากยี่ปั๊วรายหนึ่งที่ตลาดเยาวราช กรุงเทพฯ ข้างกล่องบรรจุระบุยี่ห้อ บริษัทผู้ผลิต อยู่ในย่านสุขสวัสดิ์ เขตจอมทอง กรุงเทพฯ

...

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่สาธารณสุข ได้เก็บตัวอย่างฟองเต้าหู้จากทั้ง 2 ร้านเพื่อส่งตรวจที่ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ จ.พิษณุโลก ซึ่งจะทราบผลประมาณ 7-10 วัน

จาการสอบถาม น.ส. ขวัญตา ปรีชามานิตกุล อายุ 50 ปี เจ้าของร้านเจ๊ขวัญตา กล่าวว่า ก่อนหน้านี้มีลูกค้าที่ซื้อฟองเต้าหู้ไปจากร้าน ก็กลับมาต่อว่าเช่นกัน ซึ่งตนได้อธิบายไปว่า เป็นเพียงผู้ขายเท่านั้น ไม่ทราบว่าฟองเต้าหู้กลายเป็นยางเทียมไปได้อย่างไร จากนี้คงต้องเก็บฟองเต้าหู้ที่เหลือทั้งหมดไว้ก่อน จนกว่าผลการตรวจพิสูจน์จะออกมา

ส่วนที่ร้านเจ๊อุ่ย ตลาดสด 2 ชั้น มีนายจรัล พาต่อ อายุ 37 ปี เป็นผู้ดูแลร้าน บอกว่าเพิ่งทราบเรื่องเช่นกัน แต่ยังไม่มีลูกค้ามาต่อว่า ซึ่งทั้ง 2 ร้านทางเจ้าหน้าที่ได้ขอความร่วมมือให้เก็บฟองเต้าหู้ดังกล่าวไว้ก่อน อย่านำมาวางขายจนกว่าผลการตรวจจะออกมา.