ตร.เชียงใหม่ แกะรอยวงจรปิด ตามรวบ 2 หนุ่มคนงานก่อสร้าง ก่อเหตุขี่รถจักรยานยนต์ ประกบเหยื่อสาว ก่อนถีบล้ม พาไปข่มขืน-ชิงทรัพย์ รอผลดีเอ็นเอ หาความเชื่อมโยงอีก 5 คดีก่อนหน้า ...

กรณีคนร้ายใช้จักรยานยนต์ ขี่ตระเวนไปตามถนนวงแหวนรอบ 3 พื้นที่ช่วงติดต่อ อ.สันทราย อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ ก่อเหตุถีบจักรยานยนต์เหยื่อสาว ที่มาคนเดียว ในเวลากลางคืน จากนั้นจะลากไปข่มขืน ก่อนชิงทรัพย์ โดยมีผู้เสียหายแล้ว 6 ราย

ความคืบหน้า เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 23 ส.ค.นี้ ที่ห้องประชุมกองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 5 อ.เมือง จ.เชียงใหม่ พล.ต.ต.ปชา รัตนพันธ์ รอง ผบช.ภ.5 พล.ต.ต.มนตรี สัมบุณณานนท์ ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ และ พ.ต.อ.ธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย ผกก.สส.1 บก.สส.ภ.5 ได้แถลงข่าวการจับกุมตัว นายสาธิต มะโนแปง อายุ 30 ปี และ นายสุทิน ใจนาม อายุ 28 ปี ชาว จ.เชียงราย ทั้งสองมีอาชีพก่อสร้างทั่วไป พร้อมของกลางเสื้อยืดคอปกสีขาวแถบเขียว ที่ผู้ต้องหาคนหนึ่งใช้ใส่วันก่อเหตุ และโทรศัพท์มือถือ จำนวน 1 เครื่อง โดยกล่าวหา ร่วมกันข่มขืนใจโดยใช้กำลังประทุษร้าย, พาไปเพื่อการอนาจารโดยใช้กำลังประทุษร้าย, กระทำอนาจารแก่บุคคลอายุกว่าสิบห้าปี โดยขู่เข็ญโดยใช้กำลังประทุษร้าย และลักทรัพย์ในเวลากลางคืน เหตุเกิดที่บริเวณซอยทางเข้าบ้านแม่ก๊ะเหนือ ต.ตลาดใหญ่ อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ เกิดเมื่อคืนวันที่ 20 ก.ค. 2558 เวลา 23.30 น.

พล.ต.ต.ปชา รัตนพันธ์ รอง ผบช.ภ.5 เผยว่า กรณีโจรโรคจิตออกอาละวาดไล่ถีบรถหญิงสาวที่ขี่รถมาตามลำพังบนถนนวงแหวนรอบ 3 ในพื้นที่ อ.ดอยสะเก็ด อ.สันทราย อ.สันกำแพง และ อ.เมืองเชียงใหม่ โดยจุดประสงค์ต้องการข่มขืนหญิงสาว ซึ่งทำมาแล้วถึง 6 ราย และที่ไม่แจ้งความอีกก็มีหลายราย ทางตำรวจ ได้พยายามล่าติดตามตัว โดยระดมกำลังตำรวจทั้งสืบสวนภาค 5 สืบสวนจังหวัด และสืบสวนของพื้นที่อำเภอที่เกิดเหตุ เข้าร่วมกันติดตามไล่ล่าคนร้ายรายนี้ จนได้เบาะแสจากผู้เสียหายรายล่าสุด จากนั้นจึงได้เช็กกล้องวงจรปิดโครงการโปลิศอาย ก็พบคนร้ายที่ก่อเหตุ ทางตำรวจ จึงได้รวบรวมหลักฐาน ขอหมายจับต่อศาลจังหวัดเชียงใหม่ และติดตามจับกุมผู้ต้องหาทั้งสองได้ที่บ้านพัก

เบื้องต้นผู้ต้องหาทั้งสองให้การรับสารภาพว่า ทำไปเพราะความเมาสุรา เห็นเหยื่อทะเลาะกับแฟนและเดินออกมาคนเดียว จึงฉุดขึ้นรถจักรยานยนต์ นำตัวไปทำอนาจารและข่มขืน ที่ป่าละเมาะข้างถนนสายเปลี่ยว แต่สำหรับ 5 คดีก่อนหน้านั้น ผู้ต้องหาไม่รับสารภาพ โดยบอกว่าทำคดีนี้เพียงคดีเดียว ซึ่งทางตำรวจจะได้ทำการตรวจดีเอ็นเอ เพื่อเป็นหลักฐานในการดำเนินคดี อย่างไรก็ตาม เมื่อผู้ต้องหาปฏิเสธในอีก 5 คดี แต่ทางตำรวจก็ยังสันนิษฐานไว้ก่อนว่า อาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องกัน จึงต้องรอผลพิสูจน์หลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่เกิดขึ้นกับหญิงสาวทั้ง 5 รายก่อนหน้านี้.

...