พ่อแม่ชาวเลยช็อก สูญเสียลูกสาวคนเล็ก เสาหลักของบ้าน เป็นพนักงานแบงก์ในกทม. เดินผ่านจุดระเบิดสี่แยกราชประสงค์เสียชีวิตหลังเลิกงาน ขณะที่เจ้าหน้าที่กู้ภัยเร่งเก็บชิ้นเนื้อตามกิ่งไม้ ส่งนิติเวชตรวจเพิ่มเติม ด้านรพ.ตร.ติดประกาศชื่อผู้เสียชีวิต...
จากกรณีเหตุระเบิดที่สี่แยกราชประสงค์ กรุงทพฯ เมื่อคืนที่ผ่านมา จนทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก โดยหนึ่งในผู้เสียชีวิต คือ น.ส.สุดชาดา นิสีดา อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 63/4 หมู่ที่ 13 บ้านห้วยพอด ต.ธาตุ อ.เชียงคาน จ.เลย ซึ่งเป็นพนักงานธนาคารแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ เสียชีวิตขณะเดินทางผ่านจุดที่ระเบิดหลังเลิกงาน
ล่าสุดเมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 18 ส.ค. 58 ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปยังบ้านของ น.ส.สุดชาดา พบว่าเป็นบ้านไม้ชั้นเดียว มีชาวบ้านเป็นจำนวนมากเดินทางมาปลอบใจปลอบขวัญนายเหวียน นิสีดา อายุ 60 ปี และนางทองพัด นิสีดา อายุ 58 ปี พ่อแม่ของผู้เสียชีวิต และ ด.ญ.อริศรา เทศจันทร์ อายุ 8 ขวบ บุตรสาว นักเรียนชั้น ป.3 ร.ร.บ้านห้วยพอด ซึ่งอยู่ในอาการที่เศร้าโศกเสียใจต่อการสูญเสียลูกสาวที่เป็นเสาหลักของที่บ้าน จากเหตุการณ์ระเบิดที่สี่แยกราชประสงค์
...
จากการสอบถามนายเหวียน และนางทองพัด พ่อและแม่ ซึ่งอยู่ในอาการช็อกต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หลังทราบข่าวว่าบุตรสาวได้เสียชีวิตลงแล้ว เล่าด้วยน้ำตานองหน้าว่า ได้รับแจ้งจากญาติที่กรุงเทพฯ เมื่อเช้านี้ว่า บุตรสาวของตนถูกระเบิดที่สี่แยกราชประสงค์เมื่อคืนที่ผ่านมาและเสียชีวิตแล้ว เมื่อทราบข่าวถึงกับตกใจช็อกทำอะไรไม่ถูก ถามกลับว่าใช่หรือ แต่ได้รับการยืนยันว่าเป็นเรื่องจริง โดยเฉพาะแม่ของ น.ส.สุดชาดา ถึงกับเป็นลม ทางญาติต้องรีบช่วยกันปฐมพยาบาลเป็นการด่วน
นายเหวียน เล่าว่า ตนเองมีลูก 3 คน เป็นลูกสาว 2 คน ลูกชาย 1 คน น.ส.สุดชาดา เป็นลูกสาวคนเล็ก แต่งงานมีครอบครัวแล้วอยู่ที่กรุงเทพฯ และมีลูกสาว 1 คน ชื่อ ด.ญ.อริศรา เทศจันทร์ อายุ 8 ขวบ นำมาฝากเลี้ยงไว้ที่บ้าน ทราบว่าลูกสาวทำงานเป็นพนักงานธนาคารแห่งหนึ่ง แต่ไม่ทราบว่าอยู่สาขาไหน ส่วนเรื่องศพทางญาติที่กรุงเทพฯ ดำเนินการนำศพออกจากโรงพยาบาลตำรวจเมื่อช่วงเช้า อยู่ระหว่างนำร่างเดินทางกลับมาที่บ้านเกิด คาดว่าจะถึงช่วงดึกคืนนี้ เพื่อบำเพ็ญกุศลตามศาสนาต่อไป
ส่วนทางด้านประกันสังคม จ.เลย แจ้งว่า น.ส.สุดชาดา เป็นผู้ประกันตน โดยจะได้รับเงินค่าทำศพ 40,000 บาท และเงินสะสม รวม 179,723 บาท โดยทาง สำนักงานประกันสังคม จ.เลย ได้เข้าชี้แจงสิทธิและเยี่ยมบิดามารดา ผู้ประสบเหตุ
มีรายงานความคืบหน้าในการเก็บอวัยวะชิ้นเนื้อมนุษย์ โดยช่วงเวลาประมาณ 13.00 น. นายสุดแดน เฉลยกลิ่น เจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง รหัส กู้ภัย 404 พร้อมคณะเดินทางเข้ามาที่สถาบันนิติเวช รพ.ตำรวจ เพื่อนำส่งเศษอวัยวะชิ้นเนื้อมนุษย์ ซึ่งเก็บได้เพิ่มเติมจากกิ่งไม้รอบศาลพระพรหม และบริเวณสระว่ายน้ำ ชั้น 5 ของโรงแรมแกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ แยกราชประสงค์
นายสุดแดน กล่าวว่า หลังจากเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน เข้าตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุซ้ำจนเป็นที่เรียบร้อย ตนพร้อมกำลังเจ้าหน้าที่มูลนิธิได้รับการประสานให้เข้ามาช่วยตรวจหาอวัยวะผู้เสียชีวิตที่ยังหลงเหลืออยู่เพิ่มเติม ใช้เวลานานประมาณ 2 ชั่วโมง สามารถรวบรวมเศษชิ้นเนื้อได้ 8 ถุง และรองเท้าผ้าใบอีก 1 คู่ ซึ่งทั้งหมดกระจัดกระจายอยู่รอบๆ จุดเกิดเหตุ จึงรีบนำมาส่งที่สถาบันนิติเวช รพ.ตำรวจ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตรวจสอบต่อไป
สำหรับรายชื่อผู้เสียชีวิตที่ทางสถาบันนิติเวช รพ.ตำรวจ ติดประกาศไว้บนบอร์ดอย่างเป็นทางการล่าสุดเมื่อเวลา 13.30 น. วันเดียวกันนี้ ประกอบด้วย ศพชาวไทย 6 ราย แบ่งเป็นหญิง 4 ราย และชาย 2 ราย คือ 1. น.ส.สุดชาดา นิสีดา 2. น.ส.วราภรณ์ ช่างทำ 3. น.ส.น้ำอ้อย แสงจัง 4. นางปรานี เร่งงาน 5. นายยุทธณรงค์ สิงห์รอ และ 6. นายสุวรรณ สัตย์มั่น เป็นศพชายชาวต่างชาติ 4 ราย คือ 1. Mr.Neoh Jaijun ชาวมาเลเซีย 2. Mr.Lee Tze Siang ชาวมาเลเซีย 3. Mr.Diwo Chengi ไม่ทราบสัญชาติ และ 4. ศพชายต่างชาติไม่ทราบชื่อและสัญชาติ
รายชื่อศพหญิงชาวต่างชาติ 8 ราย คือ 1. Mrs.Lioe Lie Tging ชาวอินโดนีเซีย 2. Miss.Pang Wan Chee Arcadia ชาวฮ่องกง 3. Mrs.Melisa Liu Rui Chum ชาวสิงคโปร์ 4. Miss.Lim Saw Sek ชาวมาเลเซีย 5. Miss.Chan Wingyan Vivian ชาวฮ่องกง 6. Mrs.Lee Going Xuan ชาวมาเลเซีย 7. Mrs.Gao Yuzhu ชาวจีน และ 8. ศพหญิงต่างชาติไม่ทราบชื่อและสัญชาติ ทั้งนี้ยังมีอีก 2 รายที่ไม่ทราบเพศเนื่องจากพบเพียงชิ้นส่วนอวัยวะลำตัวส่วนบน 1 ศพ และกะโหลกศีรษะ 1 ศพ โดยร่างผู้เสียชีวิตเหล่านี้ยังรอญาติมาติดต่อขอตรวจพิสูจน์อัตลักษณ์ ซึ่งต้องการใช้ประวัติการทำฟันและการตรวจดีเอ็นเอเพื่อยืนยันลักษณะบุคคลต่อไป.
...