เกษตรกรนครสวรรค์ขาดทุนหนัก จำใจปล่อยทิ้งต้นแตงกวาให้แห้งตาย เหตุแล้งจัด ต้นแตงไม่โต ซ้ำโรคระบาดคุกคาม ขณะที่แสงแดดร้อนจัด ส่งผลผักชีใบไหม้ต้องเพิ่มความหนาของผ้าคลุมเพื่อช่วยลดแสง

วันที่ 8 พ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากสภาพความแห้งแล้งและร้อนจัด ที่คุกคามขยายวงกว้าง อย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้เกษตรกรในจังหวัดนครสวรรค์ ต้องประสบกับปัญหาพืชผลทางการเกษตรเหี่ยวแห้ง เพราะขาดน้ำกันเป็นจำนวนมาก

จากการเปิดเผยของ นายบุญเรือง โยชาลี เกษตรกรพื้นที่ ม.8 ต.ปางสวรรค์ อ.ชุมตาบง จ.นครสวรรค์ บอกว่า ในขณะนี้แตงกวาที่ตนปลูกไว้เป็นอาชีพหลัก จำนวน 4 ไร่ ต้องประสบกับปัญหาภัยแล้งคุกคามอย่างหนัก เนื่องจากต้นแตงที่ปลูกไว้แคระแกรน ไม่ยอมโต ผลคดงอและมีสีเหลือง ซึ่งปกติแตงกวาที่ปลูก เถาจะพันขึ้นไปจนสุดค้าง แต่ตอนนี้โตยังไม่เต็มที่ก็เหี่ยวแห้ง จนต้องทิ้งต้นแตงกวาที่ปลูกทั้งหมดให้ยืนต้นตาย เพราะสู้กับสภาพของความแห้งแล้งไม่ไหว ในขณะเดียวกัน ปัญหาแมลงศัตรูพืช ทั้งเพลี้ยและแมลงก็ระบาดเพิ่มมากขึ้น ส่วนพืชชนิดอื่นๆ ที่ปลูกไว้ เริ่มเหี่ยวเฉาจนต้องคอยให้น้ำตลอดเวลา ทั้งเช้าและเย็น ป้องกันขาดทุนที่เพิ่มขึ้นตามมา

ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า เกษตรกรตำบลบางม่วง อ.เมือง จ.นครสวรรค์ ต้องเร่งซ่อมแซมและเพิ่มความหนาของผ้าคลุมให้กับผักชีที่ปลูกไว้ หลังจากสภาพอากาศที่แล้งและร้อนจัดของจังหวัดนครสวรรค์ ส่งผลให้ผักชีในพื้นที่ เกิดอาการใบเหลืองไหม้เป็นจุด ต้นแคระแกรน โตช้า

โดยเกษตรกรหมู่ 6 ต.บางม่วง อ.เมือง จ.นครสวรรค์ รายหนึ่ง ระบุว่า ในช่วงนี้สภาพแสงแดดแรงและร้อนจัด ส่งผลให้ผักชีที่ปลูกในพื้นที่นับพันไร่ มีลักษณะใบเป็นจุดไหม้ แห้งกรอบ และโตช้า ทำให้ระยะเวลาการเก็บเกี่ยวผลผลิตต้องเลื่อนออกไปอีก เพราะต้องรอให้ผักชี ผลัดใบก่อน

...

เบื้องต้นเกษตรกรในพื้นที่ต้องคลุมผ้าให้ความร่มเงาและซ่อมแซมส่วนของผ้าที่ขาด เป็นการกรองแสงแดดที่ส่องลงมาให้น้อยลง เพื่อช่วยบรรเทาความร้อนให้กับต้นผักชี และป้องกันความเสียหายที่เพิ่มขึ้น