เหยื่อแรงงานประมงบินกลับไทยเพิ่ม อีก 6 เหยื่อครวญ ชีวิตไม่ปลอดภัย กลัวถูกเจ้าของเรือคุกคาม วอน รัฐช่วยเหลือพี่ชาย ที่ยังอยู่อินโดนีเซีย ไม่กล้าออกมาขอความช่วยเหลือ
วันที่ 2 เม.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 1 เม.ย. เวลาประมาณ 07.15น. (ตามเวลาท้องถิ่น) เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง อินโดนีเซีย ประจำเมืองอัมบน ได้พากลุ่มแรงงานประมงไทยถูกหลอกไปใช้แรงงานทาสจับปลาในน่านน้ำอินโดนีเซีย อีกจำนวน 6 คน ประกอบด้วย นายณัฐพงษ์ สิงห์ชาญ ชาว จ.อุดรธานี นายธนาวุฒิ พันธ์ที ชาว จ.เพชรบูรณ์ นายวีระศักดิ์ สิทธิกุล ชาว จ.ศรีสะเกษ นายอำนาจ จันทร์ม่วง ชาว จ.สุพรรณบุรี นายวิชาญ ชื่นคำ ชาว จ.ปทุมธานี และนายธรรมรัตน์ จันทร์ทอง ชาว จ.สุรินทร์ ซึ่ง มูลนิธิเครือข่ายส่งเสริมคุณภาพชีวิตแรงงาน (แอลพีเอ็น) ร่วมกับคณะผู้แทนจากรัฐบาลไทย และ สำนักงานตำรวจคนเข้าเมืองอัมบน ให้การช่วยเหลือเข้าสู่กระบวนการส่งกลับประเทศ เดินทางจากสนามบินอัมบน โดยสายการบินการูด้า ไปยังสนามบินซูการ์โน ฮัตตา กรุงจาการ์ตา เพื่อรอเดินกลับประเทศไทย โดยมีเจ้าหน้าที่กองคุ้มครองและดูแลผลประโยชน์คนไทยในต่างประเทศ ของสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงจาการ์ตา คอยดูแลอำนวยความสะดวก
กระทั่งเวลาประมาณ 20.15 น. คณะแรงงานไทยที่ถูกบังคับไปทำงานประมงที่เกาะอัมบน ประเทศอินโดนีเซีย 6 คน ได้เดินทางมาถึงท่าอากาศยานดอนเมือง ด้วยสายการบินแอร์เอเชีย เที่ยวบินที่ คิวแซด 252 โดยมีเจ้าหน้าที่จากส่วนช่วยเหลือและคุ้มครองผู้ตกเป็นเหยื่อการค้ามนุษย์และกลุ่มเสี่ยง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สังคมสงเคราะห์ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เจ้าหน้าที่จากกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน และเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ (ปคม.) มารอรับที่บริเวณ ประตูเครื่องบิน เพื่อนำไปดำเนินการตามกระบวนการตรวจคนเข้าเมืองของประเทศไทย และสอบปากคำคัดแยกเหยื่อค้ามนุษย์ จากนั้นก็พาแรงงานประมงทั้งหมดออกมายังจุดนัดพบ อาคารผู้โดยสารดอนเมือง ขาเข้า โดยมีครอบครัวและญาติพี่น้องของแรงงานประมงทั้ง 6 คน และเครือข่ายคนตกเรือ มาร่วมต้อนรับอย่างอบอุ่น
ทั้งนี้ นายธนาวุฒิ หนึ่งใน 6 ลูกเรือประมง กล่าวว่า ชีวิตในเรือประมงที่อินโดนีเซียลำบากมาก ต้องตากแดด ตากลม ตากฝน อดหลับ อดนอน หากปลาเต็มลำ จึงจะเข้าท่าเรือตันตุย เกาะอัมบน ตนกับพี่ชายถูกพาไปทำงานในเรือประมงที่อัมบน ได้ 2 ปีกว่าแล้ว ตนกัดฟัน อดทนทำงานมาจนถึงวันนี้ อยากจะกลับบ้าน แต่ พ่อ-แม่ก็เสียชีวิตหมดแล้ว ตอนปี 2556 พ่อโดนรถชนเสียชีวิต อยากกลับไปงานศพพ่อแต่ผมก็ไปไม่ได้ การทำงานก็หนัก ถ้าไม่พอใจไต้ก๋งบอกอยากกลับบ้านไปหาทางกลับเอง ตนเห็นแรงงานพม่าโดนเป็นประจำ ยอมรับว่า กลัวเหมือนกัน ตนจะได้กลับบ้านที่เพชรบูรณ์อย่างปลอดภัยไหม เถ้าแก่จะตามหาไหม หรือไปหาที่บ้านไหม ทุกวันนี้ พี่ชายของตนยังไม่กล้าออกมาขอความช่วยเหลือกลับประเทศ เพราะกลัวเรื่องความปลอดภัย เขายังอยู่ที่อินโดนีเซีย และอยากให้รัฐบาลไทยช่วยพี่ตนด้วย ตนไม่มีน้ำตาจะร้องไห้แล้ว.
...