อากาศหนาวจัดในภาคอีสาน ทำให้ครูในหลาย ร.ร. พาเด็กนักเรียนอาบแดด เรียนกลางแจ้ง ก่อนเข้าห้องสอนตามปกติ ด้าน ผอ.เขตพื้นที่การศึกษาฯ กำชับครูเอาใจใส่ นร.เป็นพิเศษ ห้ามเด็กก่อไฟผิงเอง เกรงอันตรายถึงชีวิต พร้อมสั่งให้ ร.ร. หาเสื้อกันหนาวให้เด็ก

วันที่ 13 ม.ค. เวลา 09.00 น. นายไพบูลย์ ชวรุ้ง ผอ.สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุดรธานี เขต 3 (สพป.อด.3) แจ้งว่า ขณะนี้ในพื้นที่เขต 3 และทั่ว จ.อุดรธานี อากาศหนาวเย็นจัดกว่าทุกปี เพราะช่วง 2 วันที่ผ่านมา เกิดฝนตกทั้งกลางวันและกลางคืน ซึ่งตนได้แจ้งไปยังผู้บริหารโรงเรียน ในความดูแลทั้ง 5 อำเภอ ได้แก่ หนองหาน ไชยวาน บ้านดุง ทุ่งฝน พิบูลย์รักษ์ และกู่แก้ว จำนวน 2,000 โรงเรียน ให้สื่อสารกับครูผู้สอนในเรื่องการเอาใจใส่นักเรียนเพิ่มเติมช่วงสภาพอากาศที่หนาวเย็น เช่น เตือนเด็กนักเรียนไม่ให้ก่อไฟผิงเอง เพราะอาจเกิดอันตรายได้กับชีวิต หรือเกิดไฟไหม้ได้ อีกทั้งหากไม่จำเป็นจริงๆ ครูไม่ควรก่อไฟผิงให้เด็ก แต่ให้นำเด็กออกมาเรียนนอกห้องเรียน รับแสงแดดก่อนเข้าเรียนแทน

"ทั้งนี้ หากโรงเรียนใด พบนักเรียนที่ขาดแคลนชุดกันหนาวที่จะใส่มาโรงเรียน ก็ให้ผู้บริหารหาทางช่วยเหลือในเบื้องต้น หากแก้ไม่ได้ขอแจ้งเข้ามาที่ สพป.อด.3 เพื่อจะได้ช่วยเหลือนักเรียนที่ขาดแคลนเสื้อกันหนาวต่อไป" นายไพบูลย์ ระบุ

ขณะที่ นางบัวลอย วงค์คำจันทร์ หัวหน้าสายชั้นอนุบาลโรงเรียนชุมชนบ้านหนองเม็ก จ.อุดรธานี เผยว่า เช้านี้ต้องนำนักเรียนอนุบาลออกมาผิงแดดรับไออุ่น จนกว่าจะหายหนาวเย็น แล้วจึงค่อยพาเข้าชั้นเรียนตามปกติ นอกจากนี้ ได้กำชับผู้ปกครองให้หาเสื้อกันหนาวตัวหนาใส่ให้บุตรหลาน เพื่อสร้างความอบอุ่นให้แก่ร่างกาย ทั้งขณะมาโรงเรียนและอยู่ที่บ้าน

...

"ฝากเตือนผู้ปกครองในเรื่องการก่อไฟผิงอยู่ที่บ้าน ขอให้ระมัดระวังลูกหลานจะหกล้มใส่กองไฟที่ก่อด้วย" ครูจาก ร.ร.ชุมชนบ้านหนองเม็ก กล่าว

อุณหภูมิลดต่ำกว่า 18 องศาฯ ที่ จ.ศรีสะเกษ กลายเป็นอุปสรรคต่อการเรียนของนักเรียนเช่นกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เช้าวันนี้ ครูที่ ร.ร.บ้านหนองงูเหลือม (คุรุราษฎร์รัฐกิจโกศล) สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาศรีสะเกษ เขต 4 ต้องนำนักเรียนออกมาเรียนกลางสนาม เพื่อผิงแดดให้คลายหนาว จนอากาศอบอุ่นขึ้น จึงค่อยย้ายกลับไปเรียนในห้องตามปกติ