ตำรวจ กก.สส.บก.น. 6 รวบตีนแมวแสบ ชาวพม่าเชื้อสายมอญ หลังแฝงตัวเข้าไปแอบในห้างมาบุญครอง ก่อเหตุลักโทรศัพท์มือถือ 55 เครื่อง ตามร้านในช่วงห้างปิด ก่อนนำไปขายให้ร้านค้าใน กรุงเทพฯและปริมณฑล กระทั่งถูกจับตัว เผยเคยเปิดร้านขายมือถือย่าน อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ แตกคอกับหุ้นส่วนถึงขั้นเผาร้าน ไม่มีรายได้เลยริเป็นโจร สารภาพก่อเหตุมา 3 ครั้ง ติดคุก 1 ครั้ง

รวบตีนแมวแสบชาวพม่า เปิดเผยเมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 12 ม.ค. พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผบช.น. พล.ต.ต.วิสูตร ฉัตรชัยเดช ผบก.น.6 พ.ต.อ.กิตติกร บุญสม รอง ผบก.น.6 พ.ต.อ.นพสิทธิ์ มิตรภักดี ผกก.สส.บก.น.6 พ.ต.ท. เขมรินทร์ พิศมัย สว.กก.สส.บก.น.6 แถลงข่าวจับกุมนายติง ซอ อู หรือใหม่ ชาวพม่าเชื้อสายมอญ อายุ 28 ปี ตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่ จ.9/2558 ลงวันที่ 10 ม.ค.58 ข้อหาลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์ ของกลางโทรศัพท์มือถือ 12 เครื่อง ไอแพด 1 เครื่อง จับกุมที่ กก.สส.บก.น.6 หลังเชิญตัวมาจากอพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่งย่าน อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี มาสอบสวนแล้วรับสารภาพว่าก่อเหตุจริง

สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 26 ธ.ค.57 ผู้ต้องหาซ่อนตัวอยู่ในห้างเอ็มบีเค เซ็นเตอร์ หรือห้างมาบุญครอง แขวงวังใหม่ เขตปทุมวัน กทม. ตอนห้างใกล้ปิดทำการ ก่อนก่อเหตุลักทรัพย์โทรศัพท์มือถือจาก 3 ร้าน บริเวณชั้น 4 จำนวน 55 เครื่อง กระทั่งถึงเวลาห้างเปิดตอนเช้าแฝงตัวปะปนกับผู้คนหลบหนีออกจากห้าง นำโทรศัพท์ที่ลักมาไปตระเวนขายตามร้านค้าในห้างสรรพสินค้า 9 แห่ง ทั้ง กทม. และ จ.ปทุมธานี จำนวน 21 ร้านค้า ขายไปได้ 34 เครื่อง ตรวจสอบพบโทรศัพท์ที่เสียหายทิ้งไว้ในห้างมาบุญครอง 10 เครื่อง และอีก 10 เครื่อง ทิ้งไว้ในห้องเช่ารายวันใกล้ห้างเดอะมอลล์ ท่าพระ โดยตำรวจสืบสวนยึดโทรศัพท์คืนได้ 13 เครื่อง อยู่ระหว่างติดตามคืนมาทั้งหมด

...

พ.ต.ท.เขมรินทร์ พิศมัย สว.กก.สส.บก.น.6 เผยว่า ผู้ต้องหารายนี้เข้ามาอยู่ในประเทศไทยได้ 15 ปีแล้ว สามารถเก็บเงินเปิดร้านขายโทรศัพท์มือถือที่ อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ มีความรู้เกี่ยวกับโทรศัพท์ เป็นอย่างดี ต่อมาทะเลาะกับหุ้นส่วนที่เป็นเพื่อนชาวพม่า จึงเผาร้านโทรศัพท์ทิ้งทำให้ไม่มีรายได้ ครั้งแรกก่อเหตุลักทรัพย์โทรศัพท์มือถือภายในห้างบิ๊กซี สะพานควาย เมื่อวันที่ 4 มี.ค.57 ถูกตำรวจสน.บางซื่อจับกุม ศาลตัดสินจำคุก 8 เดือน เมื่อออกจากคุกเดือน ต.ค.57 ได้ก่อเหตุลักทรัพย์ในห้องพักของเพื่อนชาวพม่า เมื่อวันที่ 1 ธ.ค.57 ที่ตลาดสี่มุมเมือง ได้ทรัพย์สินเป็นเงินสด 16,000 บาท โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง หนังสือเดินทาง สำเนาเอกสารแรงงานต่างด้าวของผู้เสียหาย นำมาใช้เป็นเอกสารอำพรางแสดงตัวในการขายโทรศัพท์ที่ขโมยมา ต่อมาเมื่อวันที่ 11 ธ.ค.57 ผู้ต้องหาก่อเหตุแบบ เดียวกันที่ห้างบิ๊กซี พระราม 2 ท้องที่ สน.ท่าข้าม ได้ทรัพย์สินคอมพิวเตอร์แบบพกพา 2 ตัว โทรศัพท์มือถือ 5 เครื่อง

สอบสวนผู้ต้องหาทราบว่า ก่อเหตุมาแล้ว 3 ครั้ง ติดคุก 1 ครั้ง ประมาณ 8 เดือน นำไอโฟนไปขายเครื่องละ 4,000-5,000 บาท โดยใช้วิธีหลบซ่อนอยู่ในร้านขายโทรศัพท์ที่มีผ้าคลุมตู้กระจกทำให้มองไม่เห็น ก่อนก่อเหตุจะไปดูลาดเลา 3 ครั้ง ระหว่างก่อเหตุใส่รองเท้าผ้าใบพื้นยางที่เวลาเดินจะไม่มีเสียง

ด้าน น.ส.เจน เพ็งพุฒ อายุ 30 ปี เจ้าของร้านมือถือ 1 ในผู้เสียหาย ให้ข้อมูลว่า เมื่อประมาณวันที่ 27 ธ.ค. นายติง ซอ อู ผู้ต้องหานำโทรศัพท์มือถือมาขายให้ที่ร้าน สังเกตเห็นว่านายติง ซอ อู ลักษณะคล้ายกับคนร้ายที่ขโมยมือถือมาขายที่ถูกแชร์ภาพผ่านเฟซบุ๊ก จึงแจ้งให้ตำรวจ กก.สส.บก.น.6 เฝ้าติดตาม กระทั่งผู้ต้องหาเดินทางมาขายมือถือให้กับหลายร้านที่ใกล้เคียงร้านตนอีกครั้งในวันที่ 2 ม.ค.จึงนำโทรศัพท์มือถือบันทึกภาพคนร้ายและนำข้อมูลแจ้งกับตำรวจจนสามารถจับกุมตัวได้