เจออีกขยะอิเล็กทรอนิกส์หนักกว่า 256 ตัน ลอบนำเข้าท่าเรือแหลมฉบัง พบพิรุธข้อมูลแสดงใบขนสินค้าเป็นเศษโลหะและโลหะเก่าใช้แล้วถึง 10 ตู้คอนเทนเนอร์ หวังตบตาเจ้าหน้าที่ ตรวจสอบต้นทางจากญี่ปุ่น 9ตู้ และฮ่องกงอีก 1 ตู้ ด้านโฆษกกรมศุลกากรเผยหลายประเทศเริ่มมีขยะเครื่องใช้ไฟฟ้าสูง ต้นทุนทำลายแพง เลยหาช่องเอาไปทิ้งทั่วโลก ชี้ช่วง 3 เดือนกว่าจับขยะพิษทะลักเข้าไทยไปแล้ว 25 คดี หนักกว่า 579 ตัน
กรมศุลกากรสกัดจับขยะอิเล็กทรอนิกส์ลอบนำเข้าทางท่าเรือแหลมฉบังถึง 10 ตู้คอนเทนเนอร์ น้ำหนักกว่า 256 ตัน เปิดเผยเมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 15 ม.ค. ที่สำนักงานศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี นายพันธ์ทอง ลอยกุลนันท์ ที่ปรึกษาด้านการพัฒนาและบริหารการจัดเก็บภาษี ในฐานะโฆษกกรมศุลกากร พร้อมด้วยนายจักกฤช อุเทนสุต รองอธิบดีกรมศุลกากร ร่วมกันแถลงจับขยะอิเล็กทรอนิกส์ลักลอบนำเข้าทางท่าเรือแหลมฉบังจำนวน 10 ตู้คอนเทนเนอร์ น้ำหนักกว่า 256 ตัน
นายพันธ์ทอง ลอยกุลนันท์ โฆษกกรมศุลกากร เปิดเผยว่า นายธีรัชย์ อัตนวานิช อธิบดีกรมศุลกากรกำชับเจ้าหน้าที่ศุลกากรเฝ้าระวังการลักลอบนำเข้าขยะอิเล็กทรอนิกส์ ตามนโยบายของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่ให้ความสำคัญกับการป้องกันปราบปรามการนำเข้าขยะอิเล็กทรอนิกส์เพื่อความปลอดภัยด้านสุขภาพของประชาชน จากการคุมเข้มมาตลอดพบว่าขยะอิเล็กทรอนิกส์จะลักลอบนำเข้าผ่านมาทางท่าเรือ พร้อมสั่งการให้เจ้าหน้าที่เฝ้าระวังเป็นพิเศษ ล่าสุดวันที่ 3 ม.ค. และ 6 ม.ค.ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่กองสืบสวนและปราบปรามร่วมกับสำนักงานศุลกากรท่าเรือแหลมฉบังตรวจสอบตู้สินค้าต้องสงสัยจำนวน 10 ตู้คอนเทนเนอร์ บริเวณท่าเรือแหลมฉบัง พบว่ามีการแสดงข้อมูลในใบขนสินค้าเป็นเศษโลหะและโลหะเก่าใช้แล้ว เพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่ จึงสั่งอายัดตู้สินค้าดังกล่าวไว้ตรวจสอบโดยละเอียด ผลการตรวจสอบพบว่าสินค้ามีต้นกำเนิดมาจากประเทศญี่ปุ่น 9 ตู้ และฮ่องกงอีก 1 ตู้ ภายในตู้คอนเทนเนอร์พบเศษชิ้นส่วนอุปกรณ์หรือส่วนประกอบของเครื่องใช้ไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์ที่ใช้ไม่ได้ สภาพเป็นเศษขยะอิเล็กทรอนิกส์กว่า 256,320 กก.
...
โฆษกกรมศุลกากรกล่าวอีกว่า สินค้าดังกล่าวถือเป็นวัตถุอันตรายชนิดที่ 3 ต้องได้รับอนุญาตนำเข้าจากกรมโรงงานอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม และการนำเข้าสินค้าดังกล่าวต้องปฏิบัติตามอนุสัญญาบาเซลว่าด้วยการควบคุมการเคลื่อนย้ายและการกำจัดของเสียอันตรายข้ามแดน เป็นความผิดตามมาตรา 202 มาตรา 244 ประกอบมาตรา 252 มาตรา 243 แห่งพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ.2560 และพระราช บัญญัติวัตถุอันตราย พ.ศ.2535 มาตรา 5 วรรคสอง มาตรา 18 วรรคสอง มาตรา 23 และมาตรา 73 ประกอบประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม เรื่องบัญชีรายชื่อวัตถุอันตราย พ.ศ. 2556 บัญชีที่ 5.2 ของเสียเคมีวัตถุ ลำดับที่ 2.18 ชิ้นส่วนอุปกรณ์ไฟฟ้าและ อิเล็กทรอนิกส์หรือเศษชิ้นส่วนอุปกรณ์หรือส่วนประกอบของเครื่องใช้ไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์ที่ใช้ไม่ได้ และอนุสัญญาบาเซลว่าด้วยการควบคุมการเคลื่อนย้ายและการกำจัดของเสียอันตรายข้ามแดน
นายพันธ์ทองกล่าวด้วยว่าสถิติการจับกุมของเสียอันตรายตามอนุสัญญาบาเซล รวมถึงขยะอิเล็กทรอนิกส์เศษพลาสติกในปีงบประมาณ 2568 (1 ต.ค.2567-14 ม.ค.2568) ได้แก่ของเสียอันตรายตามอนุสัญญาบาเซล รวมถึงขยะอิเล็กทรอนิกส์จำนวน 19 คดี น้ำหนัก 256,643 กก. เและเศษพลาสติก 6 คดี น้ำหนัก 322,980 กก. รวมทั้งหมด 25 คดีจำนวน 579,623 กก. นอกจากขยะอิเล็กทรอนิกส์แล้วกรมศุลกากรยังเฝ้าระวังสินค้าที่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม สุขภาพและสุขอนามัยของประชาชนอื่นๆ เช่น เศษพลาสติก เป็นไปตามประกาศของกระทรวงพาณิชย์ที่ห้ามนำเข้าเศษพลาสติกตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.ที่ผ่านมา หลายประเทศทั่วโลกเริ่มมีขยะจากเครื่องใช้ไฟฟ้าสูงขึ้น แต่มีต้นทุนการทำลายแพง จึงหาช่องทางส่งมาลักลอบส่งไปทิ้งยังประเทศอื่นทั่วโลก
อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่