มะรืนนี้ (เสาร์ที่ 11 มกราคม) แล้วนะครับจะถึงวันสำคัญที่สุดวันหนึ่งของประเทศไทย ใน พ.ศ.นี้ นั่นก็คือ “วันเด็กแห่งชาติ” ประจำปี 2568 หรือวันเสาร์ที่สองของเดือนมกราคมที่คณะรัฐมนตรี เมื่อปี 2507 ได้กำหนดไว้

จริงๆแล้วประเทศไทยของเรามี “วันเด็ก” ครั้งแรก เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม พ.ศ.2498 สอดคล้องกับประเทศต่างๆทั่วโลก ที่พร้อมใจกันจัดงานขึ้นในปีดังกล่าว ภายหลังองค์การสหประชาชาติ นำปัญหา เรื่องเด็กมาร่างเป็นปฏิญญาว่าด้วยสิทธิของเด็กก่อนหน้านั้น

จากปี 2498 ถึงปี 2568 รวมแล้ว 70 ปีพอดี...ผ่านไปอย่างว่องไวเหมือนโกหกแบบสำนวนนักพากย์หนังยุคโน้นอย่างไรอย่างนั้น ...ผมเองจากเด็กวัยทีนอายุ 14-15 ปี ที่เคยสนุกมากในวันเด็กก็ กลายเป็นคนแก่เดินข้ามสะพานพระราม 8 (อายุเกิน 80ปี)ไปเรียบร้อย

ต้องขอบคุณรัฐบาลทุกสมัย จากนั้นมา...ไม่ว่ารัฐบาลประชาธิปไตย หรือรัฐบาลเผด็จการ ล้วนให้ความสำคัญแก่ “วันเด็ก” ทั้งสิ้น และยังคงสนับสนุนให้มีการจัดงานวันเด็กมาจนถึงวันนี้

ที่ผมเขียนถึงเด็กๆและ “วันเด็กแห่งชาติ” บ่อยๆมากในช่วง 10 ปีที่ผ่านมานี้ รวมทั้งปีนี้ด้วย ก็เขียนถึงวันเด็กไปแบบเต็มคอลัมน์เมื่อ 2 วันก่อน...นอกจากจะเล็งเห็นความสำคัญของเด็กๆที่จะเติบโตมาเป็นทรัพยากรหลักของชาติแล้ว...ยังถือเป็นการ “ไถ่บาป” บางประการของผมไปด้วย

เหตุเพราะเมื่อรัฐบาลไทยประกาศใช้นโยบายวางแผนครอบครัว เพื่อลดอัตราเพิ่มของประชากรไทยเมื่อ พ.ศ.2513 และลงมือปฏิบัติอย่างจริงจังในแผนพัฒนาฉบับที่ 3 พ.ศ.2515-2519 นั้น

ผมและคอลัมน์นี้ได้ร่วมรณรงค์กับรัฐบาลอย่างเต็มที่ เขียนถึงสโลแกน “ลูกมากยากจน” บ่อยๆ นับว่ามีส่วนไม่มากก็น้อยที่ทำให้ประชากรไทยลดลงจนเกิดเป็นปัญหาอย่างเช่นทุกวันนี้

...

และเมื่อไม่กี่วันนี้เอง สถาบันวิจัยประชากรและสังคม ของมหาวิทยาลัยมหิดลก็เปิดเผยตัวเลขที่ชวน “ช็อก” ออกมาตัวเลขหนึ่งว่า...ในปี 2567 ที่เพิ่งผ่านไปหยกๆ มีเด็กไทยเกิดใหม่เพียง 461,421 คนเท่านั้น

นับเป็นปีแรกในรอบ 70 ปีที่ผ่านมา ที่จำนวนเด็กไทยเกิดใหม่ต่ำกว่าหลัก 500,000 รายต่อปี

จาก พ.ศ.2506-2526 จำนวนเด็กไทยเกิดใหม่จะพุ่งเกิน 1 ล้านคนทุกปี โดยเฉพาะปี 2514 ทำสถิติไว้ถึง 1,221,228 คน

แต่จากปี 2527 เรื่อยมาจำนวนเด็กเกิดใหม่ก็เริ่มต่ำกว่า 1 ล้าน จนมาถึงหลักต่ำกว่า 600,000 ราย นับแต่ปี 2562 ซึ่งก็ถือว่าช็อกแล้ว ปรากฏว่าปี 2567 ที่ผ่านไปกลับช็อกยิ่งกว่าคือต่ำกว่า 500,000 ราย เป็นครั้งแรกดังกล่าว

เด็กเกิดน้อยลง คนแก่เพิ่มเยอะขึ้น มีผลเสียต่อประเทศชาติอย่างไร ผมคงไม่ต้องอธิบายท่านผู้อ่านก็คงทราบดีอยู่แล้ว...เป็นเหตุให้ผมต้องหันมาให้ความร่วมมือกับนโยบายใหม่ของรัฐบาลที่ต้องการจะเพิ่มประชากรอยู่ในขณะนี้อย่างเต็มที่

จริงๆแล้วผมเองก็เขียนไถ่บาปมาตลอดในช่วงเกือบ 10 ปีหลังนี้ เมื่อรู้ว่าปัญหาเด็กเกิดน้อยกำลังเป็นปัญหาใหญ่ของประเทศขึ้นทุกขณะ

แต่ยิ่งเขียนก็ดูเหมือนจะยิ่งทำให้เด็กเกิดน้อยลงไปอีก ดังเช่นตัวเลขที่หยิบยกมาเมื่อสักครู่นี้จนรู้สึกท้อถอยอยู่เหมือนกัน

สำหรับวันนี้ผมก็ขอเรียนว่าไหนๆเด็กๆของเราก็มีจำนวนน้อยลงอย่างนี้แล้ว ผมขอฝากให้คนไทยเราทะนุถนอม เลี้ยงดู เอาใจใส่เด็กๆที่ต่อไปนี้จะเกิดตํ่ากว่าปีละ 5 แสนไปเรื่อยๆให้ดีที่สุด

ให้ถือเสมือนหนึ่งว่าเด็กๆเหล่านี้คือ ทรัพยากรที่มีคุณค่าสูงสุดของประเทศชาติ ที่จะเติบใหญ่มาเป็นกำลังสำคัญมากของประเทศไทยเราในอนาคตจึงต้องดูแลอย่างสุดความสามารถ

พร้อมกับขอร้องครอบครัวรุ่นใหม่ตลอดจนเด็กหนุ่มเด็กสาวรุุ่นใหม่ หรือผู้ที่พร้อมจะก่อร่างสร้างครอบครัวใหม่ จงพร้อมใจกันมีลูก และผลิตเด็กๆให้มากขึ้นนับแต่นี้เป็นต้นไป

ช่วยกันเพิ่มตัวเลขเด็กเกิดใหม่ตั้งแต่ปีนี้ให้เกินปีละ 5 แสนคน ให้ได้นะครับ!

“ซูม”

คลิกอ่านคอลัมน์ “เหะหะพาที” เพิ่มเติม