การรถไฟแห่งประเทศไทย ปักหลักสู้อิทธิพลการเมือง ออกแถลงการณ์ยืนยันที่ดิน “เขากระโดง” กว่า 5 พันไร่ เป็นกรรมสิทธิ์ของ รฟท. หลังถูกนักการเมืองใหญ่นำข้าราชการลงพื้นที่ หวังปลุกม็อบชาวบ้านลุกฮือ ต้านคำพิพากษาศาลฎีกาและศาลปกครองกลาง ย้ำมีเอกสาร-ข้อมูลหนักแน่น ลั่นจะทำทุกอย่างเพื่อทวงคืนที่ดินผืนงามกลับมาเป็น สมบัติของแผ่นดิน ระบุกรมที่ดินมีหน้าที่เพิกถอน โฉนดที่ออกโดยมิชอบ รฟท.ไม่ต้องยื่นเอกสารอะไรเพิ่มเติมอีกแล้ว

ยังเป็นปัญหาคาราคาซัง กรณีที่ดินบริเวณเขากระโดง ต.อิสาณ และ ต.เสม็ด อ.เมืองบุรีรัมย์ เนื้อที่กว่า 5 พันไร่ ที่การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ยืนยันว่าเป็นกรรมสิทธิ์ของ รฟท. แต่ถูกชาวบ้านและผู้มีอิทธิพลยึดถือครอบครอง นำไปออกเอกสารสิทธิจากกรมที่ดินโดยมิชอบ ด้านกรมที่ดินให้ข้อมูลว่า รฟท. ไม่มีหลักฐานยืนยันแน่ชัดว่าที่ดินผืนดังกล่าว เป็นกรรมสิทธิ์ของ รฟท. ทำให้เกิดข้อพิพาทระหว่างหน่วยงานรัฐ และกลายเป็นคดีฟ้องร้องถึงชั้นศาลฎีกา กระทั่งศาลมีคำสั่งให้ที่ดินเขากระโดงที่มีปัญหา ตกเป็นกรรมสิทธิ์ของการรถไฟฯ ส่งผลให้ผู้สูญเสียผลประโยชน์ออกมาตีโพยตีพาย พยายามใช้อิทธิพลทางการเมืองครอบครองที่ดินผืนนี้เป็นของตัวเอง และพวกพ้อง

ผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อวันที่ 23 ธ.ค. ว่า การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ได้ออกแถลงการณ์ กรณี มีผู้พาดพิงตามรายงานข่าวของสื่อมวลชนว่า นายทรงศักดิ์ ทองศรี รมช.มหาดไทย (มท.2) กำกับดูแลกรมที่ดิน นำอธิบดีกรมที่ดิน รองอธิบดีกรมที่ดิน เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดบุรีรัมย์ สส.บุรีรัมย์ พรรคภูมิใจไทย รองผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ และข้าราชการ ส่วนท้องถิ่นจังหวัดบุรีรัมย์ ลงพื้นที่พบกับราษฎรที่ครอบครองที่ดินบริเวณเขากระโดง เพื่อยืนยันสิทธิการครอบครองที่ดินของราษฎร และกล่าวพาดพิงถึง รฟท. ในทำนองว่า รฟท. จะไปก้าวล่วงสิทธิ์ของประชาชนนั้น

...

รฟท.เห็นว่า การดำเนินการข้างต้นอาจทำให้เกิดความเข้าใจผิดของประชาชนต่อการดำเนินการของ รฟท. เกี่ยวกับที่ดินเขากระโดงและส่งผลกระทบ ต่อภาพลักษณ์ รฟท.ขอชี้แจงว่า รฟท.เป็นหน่วยงาน ของรัฐ ที่ดินของ รฟท. เป็นที่ดินของรัฐ และเป็นสาธารณะ สมบัติของแผ่นดิน รฟท.มีวัตถุประสงค์เพื่อรับโอนกิจการของกรมรถไฟ บรรดาที่ดินและทรัพย์สินที่เคย เป็นของกรมรถไฟ ได้โอนมาเป็นของ รฟท. และ รฟท. มีหน้าที่ต้องดูแลที่ดินบริเวณเขากระโดง จ.บุรีรัมย์ และติดตามเอาที่ดินของ รฟท. ที่ถูกยึดถือครอบครองและออกเอกสารสิทธิโดยมิชอบให้กลับคืนมาเป็นของ รฟท. ยืนยันว่าการดำเนินการของ รฟท. เพื่อทวงคืน ที่ดินบริเวณเขากระโดงเป็นการดำเนินการโดยชอบด้วยกฎหมาย ไม่ใช่เป็นการก้าวล่วงสิทธิ์ของประชาชนแต่อย่างใด

แถลงการณ์ระบุอีกว่า ที่ดินบริเวณเขากระโดงได้รับการพิสูจน์และยืนยันผ่านกระบวนการทางศาล และความเห็นของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจนเป็นที่ยุติแล้วว่า ที่ดินประมาณ 5,000 ไร่เศษ บริเวณ ต.อิสาณ และ ต.เสม็ด อ.เมืองบุรีรัมย์ เป็นที่ดินกรรมสิทธิ์ของ รฟท. ศาลปกครองได้วินิจฉัยอ้างถึง คำพิพากษาศาลฎีกาทั้งสองเรื่องข้างต้นแล้วสรุปว่า ที่ดินบริเวณพิพาทเป็นกรรมสิทธิ์ของ รฟท. คำพิพากษา ของศาลปกครองกลาง ยังระบุด้วยว่า กรมที่ดินมีหน้าที่ เพิกถอนเอกสารสิทธิที่ออกโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย การรถไฟฯ ไม่จำต้องไปฟ้องต่อศาลเพื่อให้มีคำพิพากษา ทุกแปลง ดังนั้น เป็นหน้าที่ของกรมที่ดินต้องดำเนินการ เพิกถอนเอกสารแสดงสิทธิในที่ดินที่ออกทับที่ดินของ รฟท. เป็นการออกโดยคลาดเคลื่อนและไม่ชอบ ด้วยกฎหมาย อีกทั้งไม่ได้เป็นการก้าวล่วงสิทธิ์ของประชาชนตามที่กล่าวอ้างแต่อย่างใด

ส่วนกรณีมีคำถามว่า เหตุใด รฟท.ไม่ยื่นเอกสารแผนที่แสดงแนวเขตที่ดินชุดเดียวกับที่ยื่นต่อศาลฎีกา แสดงถึงเขตที่ดินของการรถไฟฯที่ครบถ้วน และที่ดินเป็นกรรมสิทธิ์ของการรถไฟฯ เพื่อให้คณะกรรมการสอบสวนของกรมที่ดินพิจารณานั้น ขอชี้แจงว่า รฟท. ยื่นเอกสารแสดงถึงการได้มาของที่ดินรถไฟ รวมถึงเอกสารที่เกี่ยวข้องให้กับคณะกรรมการสอบสวนทั้งหมด และเป็นเอกสารชุดเดียวกันกับที่ยื่นต่อศาลยุติธรรมด้วย

ปัญหาการออกเอกสารทับซ้อนที่ดินของ รฟท.นั้น หน่วยงานที่เป็นผู้ออกเอกสารสิทธิในที่ดิน คือ กรมที่ดินและสำนักงานที่ดินจังหวัดบุรีรัมย์ อยู่ภายใต้การ กำกับของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เมื่อข้อเท็จจริงปรากฏว่า มีการออกเอกสารแสดงสิทธิในที่ดิน โดยคลาดเคลื่อนหรือไม่ชอบด้วยกฎหมาย ถือเป็นหน้าที่ของกระทรวงมหาดไทย และกรมที่ดิน จะต้องแก้ไขหรือดำเนินการให้ถูกต้องตามกฎหมายด้วยการดำเนินการตามขั้นตอนในการเพิกถอนเอกสาร แสดงสิทธิในที่ดินทั้งหมด

แถลงการณ์ระบุต่อไปว่า รฟท.ยืนยันว่า สิทธิในความเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดินของ รฟท. บริเวณแยกเขากระโดง อันเป็นที่ดินของรัฐ รฟท.จะดำเนินการ ทุกอย่างภายในกรอบของกฎหมาย เพื่อให้ที่ดินดังกล่าวกลับคืนมาเป็นที่ดินของ รฟท. เพื่อสงวนไว้ เป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน อันเป็นไปเพื่อประโยชน์ โดยรวมของประชาชนทุกคนต่อไป

การแก้ปัญหาที่ดินเขากระโดงไม่ใช่เรื่องยาก หากกรมที่ดินที่เป็นผู้ออกเอกสารแสดงสิทธิในที่ดินได้ร่วมมือกับ รฟท. ดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมาย และคำพิพากษาของศาลฎีกาและศาลปกครองกลาง และไม่ควรอย่างยิ่งที่จะมีฝ่ายใดนำเอาปัญหาที่ดินเขากระโดงไปเชื่อมโยงเพื่อเป็นประเด็นการเมือง เพียงหวังเรื่องคะแนนนิยมทางการเมือง เพราะจะทำให้การแก้ปัญหามีความยุ่งยากซับซ้อนขึ้นไปอีก

อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่