โฆษกกลาโหมระบุกำหนดเวลาปล่อยตัว 4 ลูกเรือไทยยังไม่ชัดเจน อ้างอยู่ในกระบวนการทางกฎหมายของเมียนมา เผยผลการเจรจาประสานงานระดับท้องถิ่นล้มเหลว ต้องรอเบื้องบนสั่งการลงมาอย่างเดียว เมียไต๋เรือห่วงผัวอายุเยอะแล้ว ชี้หากต้องติดคุกพม่าอาจกระทบสุขภาพหนัก วอนภาครัฐจริงใจเร่งช่วยเหลือ ขณะที่สังคมวิจารณ์กระหึ่มกองทัพไทย ไร้อำนาจต่อรองกับประเทศเพื่อนบ้าน ไม่มีใครเกรงใจเพราะผู้มีอำนาจกลัวเสียผลประโยชน์

ครอบครัวยังมีความหวังรอการปล่อยตัวลูกเรือประมงคนไทย หลังถูกกองทัพเรือเมียนมายิงใส่เรือประมง 3 ลำขณะวางอวนหาปลาในทะเลอันดามัน ห่างเกาะพยาม จ.ระนอง 12 ไมล์ทะเล เมื่อกลางดึกคืนวันที่ 30 พ.ย. ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 ศพ และบาดเจ็บ 2 ราย พร้อมยึดเรือประมง ส.เจริญชัย 8 และลูกเรืออีก 31 คน กลับไปฝั่งเมียนมา เป็นคนไทย 4 คน ทราบชื่อนายสุนันท์ มงกุฎทอง อายุ 68 ปี ไต๋เรือ นายสมปอง วิวัฒน์ อายุ 61 ปี ช่างเครื่อง นายถาวร พรหมนิมิต อายุ 64 ปี ช่างเครื่อง และนายวิโรจน์ สะพานทอง ณ นคร อายุ 69 ปี เจ้าของเรือ ส่วนอีก 27 คนเป็นชาวเมียนมา หลังเกิดเหตุรัฐบาลไทยอ้างว่าได้ประสานรัฐบาลทหารเมียนมา ให้ปล่อยตัวลูกเรือคนไทยโดยเร็ว และเตรียมรับตัวกลับมาตุภูมิวันที่ 6 ธ.ค. แต่เมื่อถึงเวลา ฝ่ายไทยต้องรอเก้อ ฝ่ายเมียนมาบิดพริ้วไม่ยอมปล่อยตัว 4 ลูกเรือไทย

ความคืบหน้าเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 7 ธ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ลูกเรือทั้งหมดถูกส่งตัวให้กับเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองเกาะสอง เขตชุมชนบุเรงนอง อ.เกาะสอง จ.เกาะสอง ประเทศเมียนมา นำไปควบคุมไว้ที่เรือนจำเกาะสอง (MM 492133) บ้านเก้าไมล์ อ.เกาะสอง ส่วนการปล่อยตัว 4 คนไทย ฝ่ายเมียนมาอ้างเหตุผลว่ายังไม่มีคำสั่งจากหน่วยเหนือ และต้องสอบสวนดำเนินคดีให้เสร็จสิ้นก่อน

จากการตรวจสอบในช่วงปี 63-66 ที่ผ่านมา มีเหตุการณ์ลักษณะนี้เกิดขึ้นมาแล้ว 3 ครั้ง ทางการเมียนมาได้กักตัวผู้รุกล้ำน่านน้ำไว้ราว 1 เดือน ปรับเงินไทยจำนวน 5,000 บาท ส่วนเรือประมงที่ยึดไปจะส่งมอบคืนให้ภายหลังทั้ง 3 เหตุการณ์ ทำให้สังคม วิพากษ์วิจารณ์การทำงานของรัฐบาลและกองทัพเรือไทย ที่ไร้อำนาจต่อรองกับประเทศเพื่อนบ้าน ไม่กล้าดำเนินการขั้นเด็ดขาดช่วยเหลือคนไทยได้อย่างทันท่วงที ปล่อยให้เวลาล่วงเลยมากว่า 1 สัปดาห์แล้ว เพราะกลัวสูญเสียผลประโยชน์ของบุคคลบางกลุ่มที่มีธุรกิจร่วมกับรัฐบาลทหารเมียนมา

...

เวลา 10.20 น. พล.ต.ธนาธิป สว่างแสง โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงความคืบหน้าการช่วยเหลือลูกเรือประมงไทยที่ถูกทางการเมียนมาควบคุมไว้ที่เกาะสอง ตรงข้าม จ.ระนอง หลังเกิดเหตุเรือรบเมียนมายิงเรือประมงไทยและจับลูกเรือไทย-เมียนมา 31 คน ตั้งแต่วันที่ 30 พ.ย.ว่า คณะกรรมการชายแดนท้องถิ่นไทย-เมียนมา หรือ TBC ฝั่งไทย ได้ประสานไปยัง TBC ฝั่งเมียนมา เพื่อขอความชัดเจนเกี่ยวกับการปล่อยตัวลูกเรือไทยทั้ง 4 คน TBC ฝั่งเมียนมา ได้แจ้งกลับมาว่า อยู่ในขั้นตอนกระบวนการทางกฎหมายในพื้นที่เกาะสอง และลูกเรือไทยทั้ง 4 คนอยู่ในพื้นที่ควบคุม ต้องรอหนังสือจากผู้บังคับบัญชาสั่งการลงมา เพื่อดำเนินการพูดคุยระหว่าง TBC ฝั่งไทย และเมียนมา ทำให้ยังไม่ชัดเจนเรื่องกำหนดเวลาในการปล่อยตัวลูกเรือไทย เพราะยังอยู่ในกระบวนการทางกฎหมายในพื้นที่เกาะสอง

“ขณะนี้ลูกเรือไทยทั้ง 4 คน อยู่ในสถานที่ควบคุมของเกาะสอง แยกออกมาจากลูกเรือเมียนมา 27 คน ตามกระบวนการสอบสวนของทางการเมียนมา กรณีการทำหนังสือร้องเรียนปฏิบัติการของเรือตรวจการณ์เมียนมา เรื่องนี้ดำเนินการผ่านคณะกรรมการชายแดนไทย-เมียนมา ตามขั้นตอน การตรวจสอบว่าเรือประมงไทยทั้ง 15 ลำ ได้รุกล้ำเขตแดนหรือไม่ สามารถตรวจสอบได้จากระบบติดตามเรือประมงในช่วงเวลาเกิดเหตุ” โฆษกกระทรวงกลาโหมกล่าว

วันเดียวกัน นางปริญกมร ธัญชร อายุ 63 ปี หรือป้าบ๊วย ภรรยานายวิโรจน์ สะพานทอง ณ นคร อายุ 68 ปี หรือโกสา เจ้าของเรือ ส.เจริญชัย 8 เล่าทั้ง น้ำตาว่า ก่อนหน้าโควิด ปี 62 ตนและครอบรัวมีเรือประมงหลายลำ กระทั่งสถานการณ์โควิด ทำให้ต้องขายเรือออกไปจนเหลือเพียงเรือ ส.เจริญชัย 8 ลำเดียว เมื่อวันที่ 29 พ.ย. คืนเกิดเหตุ สามีตนลงไปกับเรือด้วยพร้อมไต๋เรือ หรือกัปตันเรือ และลูกน้อง จนถูกทหารเมียนมาจับกุม เมื่อวานนี้ได้เดินทางไปที่เกาะสอง ฝั่งเมียนมา เพราะอยากรู้ว่าสามีและลูกน้องทุกคนยังอยู่สบายดีหรือเปล่า

ป้าบ๊วยกล่าวต่อว่า ตอนนี้เครียดมากที่สามีและลูกน้องยังไม่ได้รับการปล่อยตัว รู้สึกกระวนกระวายใจ ไม่รู้ว่าต้องรอถึงเมื่อไหร่ แต่ยังสบายใจอยู่บ้างเมื่อเห็นว่าสามีและทุกคนปลอดภัยดี พูดคุยทราบว่าทางเมียนมาดูแลตามสภาพของผู้ที่ถูกจับกุม อยากให้รัฐบาลไทยช่วยสามีและลูกเรือคนไทยที่ถูกจับทั้งหมดและเรือกลับคืนมา ตนลำบากกับสถานการณ์โควิดไปรอบหนึ่งแล้ว ตอนนี้เป็นหนี้สินไม่มีเงิน ทั้งไม่มีรายได้จากการทำประมง และสามีต้องติดอยู่ฝั่งเมียนมา วิงวอนให้รัฐบาลเร่งช่วยเหลือด้วย สามีอายุเยอะแล้ว หากถูกจับขังคุกเมียนมา เกรงกระทบกับสุขภาพ

ที่ อ.สำโรง จ.อุบลราชธานี นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์กรณีรัฐบาลประสานขอตัว 4 คนไทย ที่ถูกจับจากเหตุเมียนมายิงเรือประมงไทยว่า อยากฝากรัฐบาลจะเจรจาอย่างไรให้เอาคนไทยกลับบ้านได้เร็วที่สุด ตอนนี้ยังไม่สามารถเข้าใจได้ เพราะรัฐบาลยังไม่ได้บอกว่าพื้นที่ระหว่าง 2 เกาะทับซ้อนหรือไม่ หากไม่ทับซ้อนต้องเร่งให้ปล่อยตัว แต่หากทับซ้อนจะต้องไปดูว่าการตอบโต้เกินกว่าเหตุหรือไม่ มีการเตือนแล้วหรือยัง ต้องนำมาชั่งน้ำหนักดูว่าความผิดที่เกิดขึ้นต่อโทษที่ได้ จนทำให้มีทั้งผู้เสียชีวิตและถูกจับกุมตัวได้สัดส่วนกันหรือไม่ กระทรวงการต่างประเทศและกระทรวงกลาโหม ต้องมีหลักเกณฑ์ว่าเหตุการณ์แบบนี้ ต้องปฏิบัติตามขั้นตอนอย่างไรบ้าง อธิบายให้ประชาชนเข้าใจ เหตุการณ์นี้มันล่วงเลยเวลาที่จะปล่อยตัวมาแล้ว 2 วัน เราต้องนึกถึงครอบครัวของคนที่ถูกจับตัว คงกระวนกระวายใจไม่น้อย

อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่