“เจ๊พัช” รู้ชะตา ไม่ขอยื่นประกันตัวหลังกองปราบฯคุมฝากขังผัดแรก ศาลออกหมายขังคุมเข้าทัณฑสถานหญิงกลางทันที เผยระหว่างถูกคุมตัวจากกองปราบฯขึ้นรถไปศาล เจ้าตัวสีหน้าเรียบเฉยไม่ตอบคำถามใดๆ กับสื่อแค่ยกมือไหว้เท่านั้น ด้าน “รองเต่า” เรียกประชุมชุดสอบสวนคลี่คลายคดีคลิปเสียงตบทรัพย์ ดิ ไอคอน ทั้งหมดมี 6 คดี “เจ๊พัช” เหมาคนเดียว 4 เรื่อง ด้านดีเอสไอยังรอตรวจสอบคลิปเสียงพาดพิงรับ 10 ล. เตรียมเข้าสอบ “บอสพอล” ในเรือนจำเอาข้อมูลไปบี้ “เจ๊พัช” ส่วน “ฟิล์ม” ยื่น กกต.ไขก๊อก พปชร.แล้วตั้งแต่ 15 พ.ย. ขณะที่อดีตตัวแทนขายสินค้า ดิ ไอคอน เกือบ 40 ราย โร่ร้องตำรวจให้ปลดอายัดบัญชีธนาคาร หลังเดือดร้อนทำธุรกรรมทางการเงินไม่ได้

ภายหลังตำรวจกองปราบฯบุกจับ “เจ๊พัช-กฤษอนงค์ สุวรรณวงศ์” อายุ 47 ปี ประธานอำนวยการศูนย์ประสานงานส่งเสริมเครือข่าย-ออนไลน์ ในความผิดฐาน “กรรโชกทรัพย์” และ “เป็นตัวกลางเรียกรับสินบน” จากการแอบอ้างเรียกเงินจากกลุ่มผู้ต้องหาเครือข่ายดิ ไอคอน ตามหมายจับศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง เป็นคดีแรก จากการเรียกเงิน 7.5 แสนบาทจากบอสพอล-นายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล เจ้าของบริษัทดิ ไอคอน กรุ๊ป จำกัด อ้างเป็นค่าวิ่งเต้นจ่ายให้ตำรวจไซเบอร์ 3 แสนบาทและค่าดำเนินการส่วนตัว 4.5 แสนบาท ไม่ให้ทำคดีที่ผู้เสียหายไปแจ้งความเป็นคดีแรก ส่วนคดีเรียกรับอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นคดีเรียก 10 ล้านบาท อ้างเป็นค่าเยียวยาเหยื่อดิ ไอคอน กรุ๊ป และร่วมกับ “ฟิล์ม-รัฐภูมิ โตคงทรัพย์” เรียกอีก 20 ล้านบาท ค่าออกรายการดังช่อง 3 รวมทั้งคดีอ้างชื่อดูแล น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรียันพ่อ จนผู้ถูกพาดพิงต้องเข้าแจ้งเป็นคดีความอยู่ระหว่างการสอบสวนของตำรวจกองปราบฯ ตามที่เสนอข่าวไปนั้น

...

ป.คุม “เจ๊พัช” ไปฝากขัง

“เจ๊พัช” ไม่ยื่นประกันตัวศาลออกหมายขังส่งทัณฑสถานหญิงกลางแล้ว เมื่อเวลา 09.52 น. วันที่ 18 พ.ย. ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป. สั่งการพนักงานสอบสวน กก.3บก.ป. เบิกตัว น.ส.กฤษอนงค์ สุวรรณวงศ์ หรือเจ๊พัช ประธานอำนวยการศูนย์ประสานงานส่งเสริมเครือข่าย-ออนไลน์ ผู้ต้องหา “กรรโชกทรัพย์” และ “ตัวการเรียกรับสินบน” กรณีแอบอ้างเรียกเงินจากกลุ่มผู้ต้องหาเครือข่ายดิ ไอคอน ออกจากห้องคุมขังกองปราบฯขึ้นรถตู้ บก.ป.ไปผัดฟ้องฝากขังที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางตามขั้นตอนกฎหมาย

ปิดปากไม่ตอบคำถามสื่อ

ระหว่างคุมตัวผู้ต้องหา น.ส.กฤษอนงค์สวมเสื้อคอปกสีฟ้าปกสีชมพู และเสื้อคลุมทับสีกรมท่า กางเกงยีนส์ ได้ยกมือไหว้สื่อมวลชนขณะเดินออกมาจากตัวอาคารประชาอารักษ์ ด้วยสีหน้าเรียบเฉย บางช่วงยังมีรอยยิ้มให้กับสื่อมวลชน แต่ไม่ได้กล่าวอะไร แม้สื่อมวลชนพยายามสอบถามในทุกประเด็น

เข้าเรือนจำ-เจ้าตัวไม่ยื่นประกัน

ทันทีที่ถึงศาลอาญาคดีทุจริตเเละประพฤติมิชอบกลาง ถนนเลียบทางรถไฟ ตลิ่งชัน พนักงานสอบสวน บก.ป.นำตัว น.ส.กฤษอนงค์ หรือ “เจ๊พัช” ยื่นคำร้องฝากขังต่อศาลครั้งเเรกเป็นเวลา 12 วัน ท้ายคำร้องแนบคำร้องคัดค้านการประกันตัว ปรากฏว่า น.ส.กฤษอนงค์ หรือเจ๊พัช ไม่ได้ยื่นหลักทรัพย์และคำร้องเพื่อขอปล่อยชั่วคราว ศาลออกหมายขัง นำตัวไปควบคุมไว้ที่ทัณฑสถานหญิงกลางต่อไป

ทนาย “บอสพอล” ยื่นร้องค้าน

ต่อมาผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์สัมภาษณ์นายวิฑูรย์ เก่งงาน ทนายความนายวรัตน์พล หรือบอสพอล วรัทย์วรกุล กล่าวว่า ทีมทนายความบอสพอลได้ส่งทีมทนายความมาขอยื่นคำร้องคัดค้านการประกันตัว น.ส.กฤษอนงค์ หรือเจ๊พัช เนื่องจากพฤติกรรมไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน ก่อนหน้าจับกุมประมาณ 1 สัปดาห์ น.ส.กฤษอนงค์เปิดเผยพยานฝั่งดิ ไอคอน ผ่านเฟซบุ๊ก เกรงว่าถ้าได้ประกันตัวไปจะไปยุ่งเหยิงกับพยานอีก นอกจากนี้ยังเปิดหน้าพยานในไลน์โอเพ่นแชตของตัวเอง มีการโพสต์พูดคุกคามพอสมควร ทีมทนายความเก็บหลักฐานไว้ทั้งหมดแล้ว

“รองเต่า” เรียกประชุมทำคดีต่อ

ส่วนที่กองบังคับการปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) เมื่อเวลา 11.30 น. วันเดียวกัน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป. พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องประชุมติดตามหารือ 6 เรื่อง

คดี “เจ๊พัช” ปาเข้าไป 4 เรื่อง

พล.ต.ต.จรูญเกียรติเผยว่า วันนี้มีการประชุม 6 เรื่อง ประกอบด้วยเรื่องของ น.ส.กฤษอนงค์ สุวรรณวงศ์ 4 เรื่อง มีเรื่องของการเรียกรับ 300,000 กับ 450,000 บาท จนถูกออกหมายจับไปแล้ว เรื่องที่ 2 เรื่องนายภูดิท กำเนิดพลอย หรือหนุ่ม กรรชัย ที่แจ้งความข้อหาหมิ่นประมาทกับ น.ส.กฤษอนงค์ และฟิล์ม-รัฐภูมิ โตคงทรัพย์ เรื่องที่ 3 เป็นเรื่อง น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายก รัฐมนตรี ที่แจ้งความเอาผิด น.ส.กฤษอนงค์ ในเรื่องหมิ่นประมาท เรื่องที่ 4 เรื่องที่ น.ส.กฤษอนงค์ และฟิล์ม-รัฐภูมิ เรียกรับเงินจากบอสพอล กับ น.ส.ปัญจรัศม์ กนกรักษ์ธนพร หรือบอสปัน 20 ล้าน ในคดีนี้ผู้เสียหายจะมอบอำนาจให้ทนายความมาแจ้งความในวันพรุ่งนี้ (19 พ.ย.)

คดี “ฟิล์ม-เจ๊พัช” ป.ขอ 10 วัน

ด้าน พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป.กล่าวว่า ในส่วนคดีฟิล์ม กับ น.ส.กฤษอนงค์ กับคดีอื่นของ น.ส.กฤษอนงค์ ขอเวลาทำงาน 10 วัน เพราะต้องเก็บพยาน สอบปากคำพยานและบุคคลที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติมอีกหลายปาก ในส่วนที่เป็นคดีของบอส ดิ ไอคอน นั้น หากมีใบมอบอำนาจมาแจ้งความเจ้าหน้าที่ สามารถดำเนินการได้เลย ในส่วนนี้หากแจ้งความ อาจจะเป็นในส่วนของนิติบุคคลในนามบริษัทดิไอคอน กรุ๊ป ต้องถอดคลิปเสียงแล้วต้องมาพิจารณา หากพบว่าเป็นการหลอกให้โอนเงิน 20 ล้านบาท จะเข้าข่ายข้อหาพยายามฉ้อโกง แต่หากพบว่ามีการพูดข่มขู่จะเข้าข่ายข้อหากรรโชกทรัพย์ ส่วนจะเป็นหมายเรียกหรือหมายจับต้องอยู่ในดุลพินิจการพิจารณากันอีกครั้ง

...

ตัวแทนขายร้องเลิกอายัด บช.

สำหรับบรรยากาศช่วงเช้า ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) นายจิราวัจน์ ขวัญแจ่ม อายุ 50 ปี และนางสมหญิง รีฟวส์ อายุ 54 ปี พร้อมอดีตตัวแทนจำหน่ายของบริษัท ดิ ไอคอน กรุ๊ป เกือบ 40 คน เข้าร้องขอความเป็นธรรมจาก พ.ต.ท.ราเชน แสงหมี รอง ผกก. (สอบสวน) กก.1 บก.ปคบ. ให้ปลดอายัดบัญชี

เดือดร้อนไม่มีเงินใช้จ่าย

นายจิราวัจน์เผยว่า วันนี้มีตัวแทนดิ ไอคอน กรุ๊ป เกือบ 40 ราย มาร้องขอให้ พ.ต.ท.ราเชน ปลดอายัดบัญชีธนาคารให้ เนื่องจากเดือดร้อนไม่สามารถทำธุรกรรมทางการเงินได้ ตนโดนอายัดบัญชี 2 บัญชี ได้รับผลกระทบอย่างหนักถึงขั้นต้องไปยืมเงินแม่มาใช้จ่าย ตนเป็นเพียงตัวแทนซื้อมาขายไป รวมทั้งเลิกทำมาได้ 2 ปีแล้ว ที่ผ่านมาได้ติดต่อไปหา พ.ต.ท.ราเชน แล้วตอบกลับมาว่าจะมีการตั้งคณะสืบสวนแล้วเรื่องเงียบหายไปจึงเดินทางมาร้องขออีกครั้งในวันนี้ ขณะที่นางสมหญิงกล่าวทั้งน้ำตาว่า มาจากพัทยา จ.ชลบุรี ร่วมขายสินค้าเปิดดีลเลอร์อยู่ประมาณ 1 ปี หลังจากเปิดประเทศได้นำสินค้ากาแฟมาขายที่หน้าร้าน ขายได้เพราะมีลูกค้าเดิม หลังจากขายสินค้าหมดไม่ได้รับมาขายต่อ ตอนนี้เลิกทำธุรกิจนี้มา 3 ปี กลับถูกอายัด 9 บัญชีจาก 3 ธนาคาร มีเงินอยู่บัญชีละ 30,000-40,000 บาท ทำให้เดือดร้อนมาก เงินสดที่มีไม่พอใช้จ่าย ทั้งค่าบ้าน ค่ารถ และค่าจ้างลูกน้อง

“ทนายกรรชัย” นำข้อมูลให้ ตร.เพิ่ม

ต่อมาเวลา 12.45 น.วันเดียวกัน นายพรศักดิ์ วิภาสอาภานนท์ ทนายความนายภูดิท กำเนิดพลอย หรือหนุ่ม กรรชัย พิธีกรรายการโหนกระแส รับมอบอำนาจมาให้ปากคำเพิ่มเติมเรื่องที่เคยแจ้งร่วมกันหมิ่นประมาทกับ น.ส.กฤษอนงค์ หรือเจ๊พัช สุวรรณวงศ์ และนายรัฐภูมิ หรือฟิล์ม โตคงทรัพย์ โดยนายพรศักดิ์เผยว่า มาเพิ่มเติมในบางประเด็นที่ยังไม่ครบถ้วน โดยนำหลักฐานการโทรศัพท์ระหว่างหนุ่ม-กรรชัย และฟิล์ม-รัฐภูมิ 3 ครั้ง มามอบให้พนักงานสอบสวน เป็นการยืนยันว่าโทร.คุยกันจริงตามที่หนุ่มกรรชัยเคยให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนไปก่อนหน้านี้ หลังจากที่นำไฟล์เสียงที่นำชื่อหนุ่ม-กรรชัยและรายการไปแอบอ้าง และเรียกรับเงินจากบอสดิ ไอคอน 20 ล้าน มอบให้กับพนักงานสอบสวนแล้วในครั้งก่อน

...

รอออกหมายเรียก “ฟิล์ม”

นายพรศักดิ์กล่าวต่อว่า ในวันนี้จะเป็นการถอดคลิปไฟล์เสียงอย่างละเอียดอีกครั้ง ขณะนี้คาดว่าจะเป็นการสอบปากคำเพิ่มเติมจากฝั่งหนุ่มกรรชัยเป็นครั้งสุดท้าย หลังจากนี้พนักงานสอบสวนถึงจะเข้าไปสอบปากคำ น.ส.ปัญจรัศม์ กนกรักษ์ธนพร หรือบอสปัน ให้เจ้าตัวยืนยันเรื่องคลิปเสียงอีกครั้ง ส่วนขั้นตอนต่อไปพนักงานสอบสวนจะนำคลิปเสียงส่งไปตรวจที่กองพิสูจน์หลักฐานว่าเป็นคลิปจริงหรือตัดต่อหรือไม่ หากทำตามครบขั้นตอนแล้วคาดว่าจะออกหมายเรียกได้ เนื่องจากคดีนี้ไม่ได้มีความซับซ้อน

พิธีกรดังยันไม่ยอมความ

ส่วนเรื่องค่าเสียหาย หนุ่ม-กรรชัย ยังไม่ได้มีการเรียกร้องแต่ต้องมาพิจารณาดูกันอีกครั้งว่าจะเรียกค่าเสียหายเอง หรือต้องรอเป็นไปตามสำนวนคดี ทั้งนี้ หลังที่หนุ่ม-กรรชัยแจ้งความ ฟิล์ม-รัฐภูมิ ก็ไม่ได้ติดต่อมาหาหนุ่ม-กรรชัยอีก ยืนยันว่าจะดำเนินคดีถึงที่สุดและไม่มีการยอมความแต่อย่างใด

“ดีเอสไอ” รอตรวจสอบคลิป 10 ล.

อีกด้านหนึ่ง ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ รรท.อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ กล่าวถึงความคืบหน้าปมสอบคลิปเสียงอ้างจ่าย 10 ล้านบาท พาดพิงหน่วยงาน ว่า หลังมอบหมายให้ผู้เชี่ยวชาญซึ่งอยู่ในคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงทำหนังสือประสานไปยังสำนักข่าวที่นำเสนอคลิปเสียงสนทนาดังกล่าว ขณะนี้อยู่ระหว่างงานธุรการ แต่เท่าที่ได้ตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าเป็นเรื่องเมื่อ 10 ปีที่แล้ว ส่วนกระบวนการตรวจพิสูจน์ หากได้รับคลิปเสียงมาแล้วจะตรวจสอบว่าเป็นคลิปเสียงสนทนาจริงหรือพบว่ามีการตัดต่อในช่วงใดหรือไม่ และจะต้องสอบปากคำบุคคลที่เชื่อว่าเป็นเจ้าของเสียงประกอบด้วย ต้องดูว่าใช่เสียงของเขาจริงหรือไม่ มีมูลความจริง มีความหมายอย่างไร รวมทั้งระบุว่ามีตัวกลางนั้น ต้องดูต่อว่าตัวกลางคนนี้ได้มาพบเจ้าหน้าที่จริงหรือไม่

...

จ่อสอบ “บอสพอล” บี้ “เจ๊พัช”

พ.ต.ต.ยุทธนากล่าวต่อว่า ในคลิปเสียงดังกล่าวมีบุคคลที่ดีเอสไอจะต้องเข้าไปสอบปากคำในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ คือ นายวรัตน์พล หรือบอสพอล วรัทย์วรกุล จะเร่งดำเนินการให้เร็วที่สุด หากนายวรัตน์พลให้ข้อมูลเกี่ยวกับคลิปเสียง ดีเอสไอจะได้นำข้อมูลมาใช้สำหรับสอบถาม น.ส.กฤษอนงค์ด้วยเช่นกันว่ากรณีดังกล่าวได้เข้ามาพบเจ้าหน้าที่ด้วยตนเองหรือไม่ หรือให้ตัวกลางบุคคลใดมาแทนสำหรับประเด็นที่ทาง น.ส.กฤษอนงค์ ได้ชี้แจงว่าตัวกลางดังกล่าวเสียชีวิตไปแล้วนั้น ต้องตรวจสอบว่าเสียชีวิตจริงหรือไม่ หลักการพิสูจน์ให้ได้มาซึ่งข้อเท็จจริงอย่างรอบด้านนั้นเน้นไปที่พยานหลักฐานว่า หากมีการจ่ายเงินจริงจ่ายด้วยวิธีการใด จะดำเนินการตรงไปตรงมา ถ้าพบหลักฐานที่ยืนยันได้จะต้องดำเนินคดีทั้งทางวินัยและอาญา

จ่อยื่นฝากขัง 18 บอสผัด 4

พ.ต.ต.ยุทธนากล่าวต่อว่า สำหรับการฝากขังบรรดา 18 บอสดิ ไอคอน ขณะนี้เข้าสู่การเตรียมยื่นฝากขังต่อศาลอาญา ผัดที่ 4 คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษจะยื่นคำร้องฝากขังต่อศาลอาญา อีกทั้งตามกรอบเวลาการฝากขังในคดีฉ้อโกงประชาชนสามารถดำเนินการได้ถึง 7 ฝาก พนักงานสอบสวนจะคัดค้านการประกันตัวเหมือนเดิม เพราะยังไม่มีเหตุเปลี่ยนแปลง

ไขก๊อกพ้น พปชร.แล้ว

อีกด้านหนึ่ง นายไพบูลย์ นิติตะวัน เลขาธิการ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เผยว่า เจ้าหน้าที่พรรค พปชร.ได้ตรวจสอบในระบบพบว่านายรัฐภูมิ หรือฟิล์ม โตคงทรัพย์ อดีตรองโฆษกพรรค พปชร. ได้ยื่นลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรค พปชร.ต่อนายทะเบียนพรรคการเมือง สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ตั้งแต่วันที่ 15 พ.ย. และ กกต. ได้ถอดรายชื่อจากการเป็นสมาชิกพรรค พปชร.แล้ว ตอนนี้ไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคแล้ว เมื่อถามว่าเรื่องนี้กระทบต่อภาพลักษณ์พรรค พปชร.หรือไม่ เพราะเกิดเรื่องกับพรรคในลักษณะนี้ต่อเนื่อง นายไพบูลย์กล่าวว่า เป็นเรื่องส่วนตัวที่ยังไม่รู้ว่าเขาผิดหรือถูก เพราะเราไม่เกี่ยวข้องจึงไม่กระทบภาพลักษณ์พรรค ไม่ทำให้เรามีปัญหา ทุกอย่างยังปกติ ไม่ได้เป็นประเด็น ใหญ่เหมือนบางพรรคที่มีการหลบหนีคดี มีประเด็นที่รุนแรงกว่าอย่างเรื่องตากใบ

เหยื่อร้องแชร์ลูกโซ่พัน “เจ๊ ก.”

วันเดียวกัน ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ นายเกรียงไกรมาศ พจนสุนทร หรือเคนโด้ พาตัวแทนผู้เสียหาย 20 คนเข้ายื่นหนังสือถึง พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. ให้เร่งรัดติดตามคดีกรณีแชร์ลูกโซ่หลอกลงทุนอสังหาริมทรัพย์ พบผู้เสียหายทั่วประเทศกว่า 8 พันคน เสียหายกว่า 1 พันล้านบาท มีความเชื่อมโยงนักร้องเรียนหญิงคนดังอักษรย่อ ก.ไก่ มีผู้เสียหายบางรายเครียดจนล้มป่วยเสียชีวิตเพราะหาทางออกไม่ได้ มี พ.ต.อ.ชัยพร ออฟูวงศ์ รอง ผบก.ผก.นายตำรวจเวรอำนวยการเป็นตัวแทนรับหนังสือร้องเรียน

บางรายล่มจมถึงขั้นฆ่าตัว

นายเกรียงไกรมาศเปิดเผยว่า อยากให้บริษัทแห่งหนึ่งใน จ.เชียงใหม่ ที่ชื่อขึ้นต้นด้วย “สยาม...โร่” ออกมาชี้แจง เพราะความเสียหายทะลุ 1,000 ล้านบาท ผู้เสียหายลงทุนตั้งแต่หลักแสนไปจนถึงหลักสิบล้าน บางคนสิ้นเนื้อประดาตัวต้องฆ่าตัวตาย วันนี้เหล่าผู้เสียหาย ร่วมจุดธูป 1 ดอก แสดงออกเชิงสัญลักษณ์ไว้อาลัยให้ผู้เสียชีวิตด้วย สาเหตุที่คนหลงเชื่อเป็นจำนวนมาก เพราะบริษัทดังกล่าว แอบอ้างบริษัทอสังหาริมทรัพย์ชื่อดังรายใหญ่ถือหุ้นในบริษัท ทำให้ผู้เสียหายหลงเชื่อและโอนเงินลงทุนจำนวนมาก อยากให้บริษัทใหญ่ออกมาฟ้องบริษัทที่แอบอ้างด้วย นอกจากนี้ ยังมีพฤติกรรมให้ผู้เสียหายนำโฉนดที่ดิน บ้าน ไปฝากเพื่อทำกำไร แต่ผลสุดท้ายไม่ได้รับเงินซ้ำบ้านถูกยึดและนำไปขายทอดตลาดตกไปอยู่ในมือ บุคคลอื่น

อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่