กระทรวงศึกษาธิการ สั่ง สพฐ. เร่งผลักดันการเรียนรู้แบบ Active Learning ให้ครอบคลุมทุกโรงเรียน ส่งเสริมให้นักเรียนตั้งคำถามและหาคำตอบเองแทนการท่องจำ เน้นพัฒนาศักยภาพด้วยกิจกรรมปฏิบัติ

มีรายงานว่า นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงศึกษาธิการ ได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการปฏิรูปการเรียนการสอน เป็นการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ในรูปแบบที่มุ่งเสริมสร้างความเข้าใจ และการมีส่วนร่วมของนักเรียน โดยมุ่งเน้นแนวทางการเรียนรู้เชิงปฏิบัติ หรือ Active Learning โดยใช้กระบวนการคิดขั้นสูงเชิงระบบ ซึ่งเป็นการเรียนรู้ที่ส่งเสริมให้นักเรียนตั้งคำถาม และหาคำตอบด้วยตนเอง แทนที่จะเน้นการท่องจำแบบเดิมที่ไม่ได้ส่งเสริมความเข้าใจในเนื้อหาสาระอย่างแท้จริง

โดยแนวทางดังกล่าว ได้รับการผลักดันจากนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งได้ระบุถึงปัญหาการท่องจำแบบนกแก้วนกขุนทองในอดีต ที่เน้นการท่องจำโดยไม่เข้าใจความหมาย อย่างไรก็ตาม ปัจจุบัน แนวคิดการเรียนรู้แบบ Active Learning ด้วยกระบวนการคิดขั้นสูงเชิงระบบ ได้ถูกนำมาใช้เป็นแนวทางใหม่ เพื่อให้การเรียนรู้ของเด็กเป็นกระบวนการ ที่ทำให้เกิดความเข้าใจในเนื้อหาอย่างลึกซึ้งและยั่งยืนมากขึ้น

Active Learning ด้วยกระบวนการคิดขั้นสูงเชิงระบบ เป็นรูปแบบการเรียนรู้ที่เน้นกิจกรรมกลุ่ม และการลงมือปฏิบัติ เพื่อให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมอย่างเต็มที่ในกระบวนการเรียนรู้ ไม่ว่าจะเป็นการสืบค้นข้อมูล การคิดวิเคราะห์ เชื่อมโยงคุณธรรมค่านิยม การลงมือปฏิบัติจริงการแก้ปัญหาจนเกิดผลผลิตและนวัตกรรม อันเป็นการสร้างทักษะที่จำเป็นสำหรับชีวิตในศตวรรษที่ 21 ซึ่งเป็นทักษะสำคัญที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตในสังคมที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ยังได้ย้ำถึงความท้าทายในการนำ Active Learning โดยใช้กระบวนการคิดขั้นสูงเชิงระบบมาใช้ในระบบการศึกษาไทยว่า การเปลี่ยนแปลงต้องเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องและทั่วถึงทั้งระบบ โดยเฉพาะการฝึกอบรมครูในทักษะการสอนแบบ Active Learning โดยใช้กระบวนการคิดขั้นสูงเชิงระบบ ซึ่งครูบางกลุ่มยังขาดความเข้าใจ หรือไม่ได้รับการอบรมที่เพียงพอในแนวทางนี้

...

นอกจากนี้ การปรับเปลี่ยนบุคลากรครูอย่างต่อเนื่องในหลายพื้นที่ ก็เป็นอีกหนึ่งอุปสรรคที่ต้องแก้ไขเพื่อให้การเรียนรู้แบบ Active Learning โดยใช้กระบวนการคิดขั้นสูงเชิงระบบ สามารถขยายผลและเป็นระบบที่ยั่งยืนส่งผลให้ผู้เรียนเกิดเป็นนวัตกร

สำหรับ นโยบาย 1 อำเภอ 1 โรงเรียนคุณภาพ : ยกระดับคุณภาพการศึกษาไทยในปัจจุบัน กระทรวงศึกษาธิการได้ดำเนินโครงการ "1 อำเภอ 1 โรงเรียนคุณภาพ" ซึ่งเป็นนโยบายที่เน้นย้ำการพัฒนาโรงเรียนในแต่ละพื้นที่ให้มีมาตรฐานที่ดีขึ้น และพร้อมในการรับการเรียนการสอนในรูปแบบ Active Learning โดยใช้กระบวนการคิดขั้นสูงเชิงระบบ ทั้งนี้ โรงเรียนคุณภาพจะได้รับการสนับสนุนจากครูแม่ข่าย และนำแบบแผนไปใช้กับการพัฒนาเทคโนโลยีการสอนเพื่อให้เด็กนักเรียนสามารถเรียนรู้ได้อย่างเต็มศักยภาพ

การปฏิรูปการเรียนการสอนในรูปแบบ Active Learning โดยใช้กระบวนการคิดขั้นสูงเชิงระบบ เป็นสิ่งที่กระทรวงศึกษาธิการตั้งเป้าหมายไว้ว่าจะขยายผลให้ครอบคลุมทั่วประเทศ แม้ว่างบประมาณที่มีอยู่ยังจำกัดจะเป็นอุปสรรค แต่ทางกระทรวงก็ได้พยายามผลักดันให้โครงการนี้ไปถึงทุกภูมิภาค โดยเฉพาะในพื้นที่ที่ยังขาดโอกาส และประสบปัญหาความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาอย่างภาคอีสานและภาคใต้ และต้องการผลักดันให้เข้าถึงทุกๆภาคอย่างจริงจัง หลังการลงพื้นที่อบรมครูหลายจังหวัดภาคกลาง เห็นผลการพัฒนาชัดเจน ภาคอื่นๆตรงไหนพร้อม หรืออีกทั้งถ้าโรงเรียนไหนเร่งพัฒนาให้รีบแจ้งมา เพื่อเข้าร่วมในการพัฒนาขับเคลื่อนได้ทันที กระทรวงศึกษาธิการพร้อมสนับสนุน ซึ่งถ้าโรงเรียนพร้อมทำได้ ก็ถือว่าสุดยอด

อย่างไรก็ตาม การนำเทคโนโลยีมาผสานกับการเรียนรู้แบบ Active Learning ด้วยกระบวนการคิดขั้นสูงเชิงระบบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการเชื่อมั่นว่าแนวทางนี้จะเป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้การศึกษาไทยก้าวไปข้างหน้าได้อย่างยั่งยืนแน่นอน และตรงนี้เองจะสร้างเด็กไทยสู่การเป็นนวัตกรที่ดีได้สมบูรณ์แบบ.