นายอิทธิ ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวในโอกาสลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าโครงการพัฒนาลุ่มน้ำห้วยหลวงตอนล่าง จังหวัดหนองคาย ตลอดจนติดตามการขับเคลื่อนนโยบายด้านการเกษตรในพื้นที่จังหวัดหนองคาย โดยมีผู้บริหารกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ หัวหน้าส่วนราชการ เข้าร่วม ณ สถานีสูบน้ำบ้านแดนเมือง โครงการพัฒนาลุ่มน้ำห้วยหลวงตอนล่าง อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย ว่า ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์) ได้มุ่งเน้นเรื่องบริหารจัดการน้ำให้เกิดประสิทธิภาพเพื่อการเกษตร จึงได้กำชับให้กรมชลประทานเร่งรัดดำเนินโครงการดังกล่าวให้แล้วเสร็จตามแผนงานที่กำหนดไว้ เพื่อช่วยบรรเทาอุทกภัยในพื้นที่ และยังเป็นแหล่งกักเก็บน้ำสำรองในช่วงฤดูแล้ง และเป็นการบริหารจัดการน้ำ สนับสนุนน้ำเพื่อการอุปโภค บริโภคและการเกษตรในระยะยาว
ทั้งนี้ โครงการพัฒนาลุ่มน้ำห้วยหลวงตอนล่าง คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติให้ดำเนินโครงการเมื่อวันที่ 24 เมษายน 2561 มีแผนงานโครงการ 9 ปี (พ.ศ.2561 - 2569) เป้าหมายเพื่อเพิ่มแหล่งน้ำต้นทุนในการอุปโภค บริโภค และทำการเกษตร รวมถึงบรรเทาอุทกภัย ในเขต จ.หนองคาย และอุดรธานี โดยมี 7 โครงการสำคัญที่จะเพิ่มศักยภาพในการบริหารจัดการน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งงานก่อสร้างสถานีสูบน้ำบ้านแดนเมือง ถือเป็น 1 ในแผนงานโครงการพัฒนาลุ่มน้ำห้วยหลวงตอนล่าง เป็นสถานีสูบน้ำ ติดตั้งเครื่องสูบน้ำ ขนาด 15 ลบ.ม./วินาที จำนวน 10 เครื่อง อัตราการสูบน้ำสูงสุด 150 ลบ.ม./วินาที พร้อมด้วยคลองชักน้ำ ความยาว 1,344 เมตร และประตูระบายน้ำ อัตราการระบายน้ำ 395 ลบ.ม./วินาที หากโครงการดังกล่าวก่อสร้างแล้วเสร็จทั้งหมด จะสามารถช่วยบรรเทาอุทกภัยในเขต จ.หนองคาย และ จ.อุดรธานี ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งน้ำให้กับพื้นที่ชลประทานเดิม 15,000 ไร่ และเพิ่มพื้นที่ชลประทานใหม่อีก 300,195 ไร่ ครอบคลุมพื้นที่ 284 หมู่บ้าน 37 ตำบล 7 อำเภอ ของจังหวัดหนองคายและอุดรธานี โดยมีครัวเรือนที่ได้รับผลประโยชน์ 29,835 ครัวเรือน อีกทั้งยังเป็นแหล่งน้ำต้นทุนสำคัญที่จะช่วยขยายพื้นที่ชลประทานให้กับพื้นที่ใกล้เคียงได้ในอนาคต เสริมสร้างรายได้ขยายอาชีพ และพัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชนในพื้นที่ให้ดียิ่งขึ้น
นอกจากนี้ รมช.อิทธิ ยังได้ติดตามความคืบหน้าการขับเคลื่อนนโยบายด้านการเกษตรในพื้นที่จังหวัดหนองคาย ในประเด็นต่าง ๆ ที่สำคัญ อาทิ 1) ขอให้เร่งรัดดำเนินการออกเอกสารสิทธิ์ การเปลี่ยน ส.ป.ก. 4-01 เป็นโฉนดที่ดินเพื่อการเกษตร เพื่อใช้พื้นที่ ส.ป.ก.ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ปัจจุบันได้ดำเนินการออกโฉนดเพื่อการเกษตรให้กับเกษตรกรแล้วเสร็จ 3,417 แปลง อยู่ระหว่างจัดทำ 1,909 แปลง และมีแผนการออกโฉนดเพื่อการเกษตรประจำปีงบประมาณ 2568 จำนวน 15,770 แปลง 2) การส่งเสริมและพัฒนาอาชีพการปลูกหม่อนเลี้ยงไหม 3) การบริหารจัดการน้ำแก้ปัญหาขาดแคลนน้ำในพื้นที่อำเภอเฝ้าไร่ โดยการขุดลอกหนองฝายบ้าน เพื่อกักเก็บน้ำฝนไว้เป็นแหล่งน้ำสำรองสำหรับใช้อุปโภคบริโภคและทำการเกษตร และ 4) ส่งเสริมการสร้างแหล่งน้ำในไร่นานอกเขตชลประทาน (บ่อจิ๋ว) เป็นต้น ทั้งนี้ได้กำชับให้หน่วยงานในสังกัดเร่งแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องเกษตรกร ยกระดับคุณภาพสินค้าเกษตรไทย เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในประเทศคู่ค้า พร้อมเพิ่มช่องทางการค้าใหม่ ๆ ตามแนวทาง “ตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้” เพื่อสร้างเศรษฐกิจในพื้นที่ให้ดีขึ้น
สำหรับสถานการณ์อุทกภัยจังหวัดหนองคาย ขณะนี้เริ่มเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว โดยอยู่ระหว่างการสำรวจความเสียหายเพื่อให้การช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยกรณีฉุกเฉิน พ.ศ.2562 และได้มอบหมายให้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เร่งเข้าไปช่วยเหลือฟื้นฟูพี่น้องเกษตรกรโดยเร็วที่สุด