"น้องหมูเด้ง" โผล่ผนังวิหาร "หลวงพ่อรวย" วัดสังฆาราม ขณะคาบดอกบัวถวายพระ เป็นภาพลักษณะสามมิติเหมือนเด้งออกมาจากฝาผนัง หวังดึงคนรุ่นใหม่เข้าวัด

วันที่ 19 ต.ค. 2567 พระครูพิธานวรกิจ เจ้าอาวาสวัดสังฆาราม ตำบลเที่ยงแท้ อำเภอสรรคบุรี จังหวัดชัยนาท บูรณะวิหารหลวงพ่อรวย โดยว่าจ้างจิตรกรนักวาดภาพฝาผนังโบสถ์มาวาดผนังวิหารหลวงพ่อรวย โดยออกแบบภาพตามพุทธประวัติของพระพุทธรูปปางมารวิชัย และมีภาพที่ศิลปินออกแบบเพิ่มเติมขึ้นให้เข้ากับยุคสมัยนั้นๆ คือ "หมูเด้ง" ลูกฮิปโปแคระที่อยู่ที่สวนสัตว์เขาเขียว ชลบุรี ซึ่งกำลังโด่งดังเป็นไวรัลไปทั่วโลก เป็นภาพลักษณะหมูเด้งคาบดอกบัวถวายพระ หวังดึงเด็กๆ และคนรุ่นใหม่เข้าวัด

นายณรงค์รัฐ มาวิมล จิตรกรนักวาดภาพฝาผนังโบสถ์ เผยว่า มีครูเกษียณเข้ามาปิดทองหลวงพ่อปลื้ม เขาหันมาเห็นว่ามีตรงนี้ด้วย (เป็นวิหารเก่าที่เคยประดิษฐานหลวงพ่อปลื้ม) จึงเดินมาปิดทองพระพุทธรูปที่วิหารนี้ แต่แผ่นทองหมดแล้ว เขาเดินมาไหว้แต่จู่ๆ มีแผ่นทองปลิวมาจากไหนไม่รู้ เขาทำท่าจะคว้าแต่แผ่นทองนั้นมาตกลงในมือเขาพอดี จึงทำให้เขามีทองอีกแผ่นปิดที่พระพุทธรูปองค์นี้ จึงเป็นสิ่งบันดาลใจให้เขาอยากบูรณะ จึงมาหาตนแล้วขอให้ช่วยออกแบบภาพวาดให้ แต่ตอนนี้ได้เพียงผนังเดียว

...

สำหรับพระพุทธรูปองค์นี้มีลักษณะปางมารวิชัย พระอิริยาบถที่ทรงชี้พระหัตถ์ขวาลงไปที่พระแม่ธรณี เพื่อขอให้เป็นพยานในบุญบารมีที่พระองค์ได้สั่งสมมาตลอดระยะเวลาอันยาวนานนับอนันตชาติ จนพระแม่ธรณีได้บีบมวยผมหลั่งน้ำที่ทรงกรวดอุทิศที่มีจำนวนมากมายมหาศาลไหลท่วมท้นเหล่ามารจนแพ้ไปนั้น จึงเป็นที่มาของภาพที่แสดงถึงบารมี ซึ่งประกอบด้วยเทพเทวดา 2 องค์ด้านบน น้ำ ดอกบัว นี่เป็นภาพหลัก แต่จิตรกรรมไทยโบราณเรียกว่าภาพกากหรือเรื่องรองคือหมูเด้ง ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 4 เป็นต้นมา เขานิยมเขียนกัน เรื่องราววิถีชีวิตในแต่ละสมัย เช่น การเสพสังวาส การเล่นพนัน สมัยรัตนโกสินทร์ เช่นที่วัดพระแก้ว เรื่องรามเกียรติ์ เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันมีหมูเด้ง ลูกฮิปโปแคระ เป็นเรื่องราวที่น่ารักๆ ดังๆ นำมาใส่เพื่อดึงดูดคน สร้างความน่าสนใจ บันทึกช่วงเวลาว่า ณ เวลานี้เป็นยุคของหมูเด้งนานๆ ไปอาจมีคนมาขุดประวัติเจอว่าภาพนี้เกิดขึ้นในยุคของหมูเด้ง ถ้าเด็กๆ หรือผู้คนสนใจกันเยอะจะทำให้เขาเข้าวัดกัน ทั้งเด็กๆ และคนรุ่นใหม่มาดูหมูเด้งๆ ซนๆ คาบดอกบัวมาไหว้พระ เป็นภาพลักษณะสามมิติ ให้ดูเหมือนเด้งออกมาจากฝาผนัง.