ระยะนี้จะข่าวการหลอกลวง การลงทุน ถี่ยิบ ส่วนหนึ่งเกิดจากความหละหลวมของกฎหมาย บางอย่างเห็นว่าอะไรถูกอะไรผิดมีหลักฐานความเสียหายทางคดีเกิดขึ้น มีผู้เสียหายและมีผู้ได้ผลประโยชน์ กว่ากระบวนการยุติธรรมจะเข้าถึง ลีลามาเต็ม อีกส่วนมาจากความไม่รอบคอบ หลงเชื่อ และอยากได้ของผู้เสียหายเอง สมัครใจเอง เรื่องอย่างนี้ถ้าได้ประโยชน์ทุกฝ่ายก็จะไม่เป็นคดีความขึ้นมา

ที่เห็นเป็นข่าวประจำก็คือมีดารา คนบันเทิง ไอดอล ไปมีส่วนได้ส่วนเสียระหว่างการเป็นพรีเซนเตอร์กับการชักชวนให้ลงทุน ห่างกันแค่เส้นยาแดงผ่าแปด เนื่องจากได้รับผลประโยชน์ทั้งสองกรณี เพราะฉะนั้นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ แชร์ลูกโซ่ การหลอกให้ลงทุน หรือแม้แต่การพนันออนไลน์
จะไปโทษฝ่ายใด ฝ่ายหนึ่งทั้งหมดไม่ได้

ระหว่างความน่าเชื่อถือ กับความเชื่อ ต้องตีความให้ดี

ที่น่าแปลกคือการหลอกให้เชื่อ ที่ใช้สื่อออนไลน์เป็นสะพาน นอกจากจะไม่ลดลง แต่กลับเพิ่มมากขึ้น มีวิธีการและลักษณะการดำเนินการที่สามารถหลีกเลี่ยงข้อกฎหมายได้มากขึ้น แล้วก็มีคนหลงเชื่อมากขึ้นด้วย

คำว่าความน่าเชื่อถือ กับความเชื่อ ที่มีความหมายต่างกันสามารถนำมาใช้ได้กับการบริหารประเทศด้วยซ้ำ ยกตัวอย่าง ถ้าประเทศจะสร้างแรงจูงใจให้นักลงทุนเข้ามาลงทุนมากขึ้น ก็ต้องขึ้นอยู่กับความสะดวก ความโปร่งใส กฎหมายคุ้มครองนักลงทุน บุคลากรมีฝีมือมีความสามารถตามลักษณะของงาน และมีความมั่นคง ถ้าเชื่อว่า นักลงทุนจะเข้ามาลงทุนอุตสาหกรรมในบ้านเรามากขึ้นเพราะโครงสร้างพื้นฐานดีกว่าประเทศอื่น แต่ไม่มีอะไรที่เป็นรูปธรรม ก็ไม่เกิดประโยชน์ใดๆ

เช่น มาเลเซีย สิงคโปร์ ให้ทุนประชาชนคนละแสนกว่าบาท ฝึกทักษะด้านไอที เพราะเห็นความสำคัญของการเติบโตอุตสาหกรรมประเภทนี้ บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านไอที แห่กันไปลงทุนล่วงหน้า ในขณะที่บ้านเรายังต้องอาศัยแรงงานต่างด้าว เป็นต้น

...

ไม่กี่วันที่ผ่านมา กระทรวงการคลังจีนประกาศมาตรการการคลังกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยการออกพันธบัตรพิเศษ เพื่อเติมเงินทุนให้ธนาคารใหญ่ของรัฐ ชดเชยเงินกองทุนขั้นที่ 1 อนุญาตเพิ่มโควตาหนี้ของรัฐบาลท้องถิ่น ให้รัฐบาลท้องถิ่นสามารถออกพันธบัตรกู้ยืมเงินในอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำ สำหรับนำไปชำระหนี้เดิม ให้รัฐบาลท้องถิ่นออกพันธบัตรพิเศษและใช้เครื่องมือทางการเงินเพื่อสนับสนุนภาคอสังหาริมทรัพย์ โดยให้รัฐบาลท้องถิ่นไปซื้อที่อยู่อาศัยที่ขายไม่ออก รวมถึงซื้อคืนที่ดินจากผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่ยังไม่ได้ใช้ประโยชน์ที่ดิน ให้การสนับสนุนทางการเงินสำหรับนักศึกษา โดยการเพิ่มจำนวนและขนาดของทุนการศึกษา และเพิ่มวงเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา

ที่ตั้งข้อสังเกตก็คือ กระทรวงการคลังจีนไม่ประกาศตัวเลขงบประมาณที่ชัดเจน เพื่อการยืดหยุ่นในอนาคตและนอกจากจะลดภาวะเงินฝืด ลดการชะลอของกำลังซื้อในประเทศแล้วยังหันมาพัฒนาทรัพยากรบุคคลมากขึ้น ขับเคลื่อนโดยการใช้จ่ายงบประมาณมูลค่า 1-3 ล้านล้านหยวนภายในสิ้นปีนี้ ทั้งรุกทั้งรับ ไปพร้อมกัน.

หมัดเหล็ก
mudlek@thairath.co.th 

คลิกอ่านคอลัมน์ “คาบลูกคาบดอก” เพิ่มเติม