วันอาทิตย์ที่ 13 ตุลาคม 2567 ตรงกับวันคล้ายวันสวรรคตของพระบาทสมเด็จ พระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดช มหาราช บรมนาถบพิตร มหากษัตริย์รัชกาลที่ 9 แห่งพระบรมราชวงศ์จักรี

ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ซึ่งมี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน มีมติให้วันที่ 13 ตุลาคมของทุกปีเป็นวันหยุดราชการ และต่อมามีมติเพิ่มเติมในรัฐบาล ของนายกรัฐมนตรี เศรษฐา ทวีสิน ให้กำหนดชื่อวันนี้ว่า “วันนวมินทรมหาราช” ลงประกาศในราชกิจจา นุเบกษา เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2566

พร้อมนี้รัฐบาลทั้ง 2 รัฐบาลดังกล่าวยังได้มีมติให้จัดกิจกรรมต่างๆเนื่องในวัน “นวมินทรมหาราช” 13 ตุลาคมของทุกๆ ปี ดังนี้

1.จัดพิธีสวดพระพุทธมนต์และทำบุญตักบาตรถวายพระราชกุศลส่วนกลาง ณ ท้องสนามหลวง โดยมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน และในส่วนภูมิภาคทุกจังหวัดจัดพิธี ณ ศาลากลางจังหวัดหรือสถานที่ที่เหมาะสม โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน รวมทั้งในต่างประเทศให้สถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลจัดพิธีตามที่เห็นสมควรและเหมาะสม

2.ให้สถานที่ราชการต่างๆจัดตั้งโต๊ะหมู่ประดิษฐานพระบรมฉายาลักษณ์พระบาท สมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดช มหาราช บรมนาถบพิตร พร้อมเครื่องราชสักการะในพื้นที่อาคารที่เหมาะสม ระหว่างวันที่ 1-31 ตุลาคมของทุกปี และให้เชิญชวนภาคเอกชนต่างๆร่วมดำเนินการด้วย

3.จัดกิจกรรมเทิดพระเกียรติและถวายเป็นพระราชกุศลตามที่เห็นสมควร และเหมาะสมโดยเชิญชวนภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชนเข้าร่วมกิจกรรม หรือจัดกิจกรรมขึ้นในส่วนของภาคประชาชนเพื่อเป็นการเทิดพระเกียรติ

นอกเหนือจากพิธีต่างๆดังกล่าวข้างต้นแล้ว ในช่วงหลังๆนี้ยังมีอีกพิธีการหนึ่งซึ่งเกิดจากการริเริ่มของภาครัฐบาล และประชาชนส่วนใหญ่ก็เห็นด้วย พากันปฏิบัติตามด้วยการเดินทางไปถวายพวงมาลา และแสดงความเคารพ ณ พระบรม ราชานุสาวรีย์ในหลวงรัชกาลที่ 9 ซึ่งประดิษฐานอยู่ ณ อุทยานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จ พระบรมชนกาธิเบศรฯ ณ บริเวณสนามม้านางเลิ้งเก่า...อย่างเนืองแน่น

...

มีการตั้งแถวอัญเชิญพวงมาลาเข้าถวาย บังคมหน้าพระบรมราชานุสาวรีย์ตั้งแต่เช้า และยังมีต่อในภาคกลางคืนถึงเที่ยงคืนเลยทีเดียว

สำหรับปีนี้เนื่องในโอกาส “วันนวมินทรมหาราช พุทธศักราช 2567” ทางสำนักพระ ราชวังก็ได้แจ้งกำหนดการวางพวงมาลาออกมาแล้ว ด้วยข้อความดังต่อไปนี้

“สำนักพระราชวังขอแจ้งการวางพวงมาลาถวายบังคมพระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพล อดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เนื่องใน “วันนวมินทรมหาราช” พุทธศักราช 2567 ในวันอาทิตย์ที่ 13 ตุลาคม 2567...ดังนี้

- วันเสาร์ ที่ 12 ตุลาคม 2567 รับลงทะเบียนวางพวงมาลาตั้งแต่เวลา 08.00 น. ถึงเวลา 18.00 น.”

- วันอาทิตย์ ที่ 13 ตุลาคม 2567 วางพวงมาลาและถวายสักการะ ช่วงที่ 1 ตั้งแต่เวลา 06.00 น. ถึงเวลา 12.00 น. ช่วงที่ 2 ตั้งแต่เวลา 17.00 น. ถึง 24.00 น.”

ทั้งนี้ ได้มี หมายเหตุ ไว้ว่าสำหรับผู้ประสงค์จะวางพวงมาลากรุณาลงทะเบียนด้วยเพื่อเจ้าหน้าที่จะได้อำนวยความสะดวกสถานที่ตั้งพวงมาลาให้แก่ผู้ลงทะเบียนทุกๆกลุ่ม, องค์กร ฯลฯ หรือคณะบุคคล

อนึ่ง จากการสังเกตของทีมงานซอกแซกเองพบว่าเมื่อปีที่แล้วมีประชาชนจำนวนมากที่มิได้ลงทะเบียนล่วงหน้า แต่เมื่อไปถึงบริเวณหน้าประตูอุทยานด้านถนนศรีอยุธยาแล้ว เจ้าหน้าที่ก็อำนวยความสะดวกให้เข้าถวายบังคม และถวายดอกไม้โดยไม่มีปัญหาและอุปสรรคใดๆ

สำหรับอุทยานเฉลิมพระเกียรติในหลวงรัชกาลที่ 9 ซึ่งจะมีขนาดเนื้อที่กว่า 297 ไร่ และเต็มไปด้วยหมู่ไม้สระน้ำลำธารที่เป็นฐานเรียนรู้ต่างๆตามแนวทางพระราชดำรินั้นยังอยู่ในระหว่างเร่งรัดการก่อสร้างอย่างเต็มที่

จากการไปสำรวจเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว พบว่าในทุกๆจุดของอุทยานยังมีการก่อสร้างและการตกแต่งอย่างขะมักเขม้น ซึ่งเจ้าหน้าที่ให้ความเห็นว่าอาจเสร็จสมบูรณ์ในปีหน้า 2568

วันใดที่อุทยานแห่งนี้แล้วเสร็จก็จะเป็น ปอดใหญ่ที่สุดอีกปอดหนึ่งของชาวเมืองหลวง อีกทั้งยังจะเป็นที่เรียนรู้ในหลักเศรษฐกิจพอเพียงตลอดจนตัวอย่างของโครงการในพระราช ดำริต่างๆที่ในหลวง ร.9 และพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ทรงริเริ่มไว้ ซึ่งปัจจุบัน พระบาท สมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 ได้มีพระราชปณิธานที่จะ สืบสาน รักษา และ ต่อยอด ให้อยู่ยั้งยืนยงและยั่งยืนสืบต่อไป

เนื่องใน “วันนวมินทรมหาราช” ในวันนี้ (13 ตุลาคม 2567) ท่านที่อยู่ใน กทม. หรือแม้จะอยู่ต่างจังหวัดที่เดินทางมา กทม.ในช่วงนี้ หากสะดวกจะเดินทางไปถวายพวงมาลาเพื่อสักการะองค์พระบรมราชานุสาวรีย์ในหลวงรัชกาลที่ 9 ณ อุทยานเฉลิมพระเกียรติฯ ก็ขอเชิญนะครับ

แต่หากไม่สะดวกก็ไม่เป็นไร...ในหลวง ร.9 สถิตอยู่เหนือเกล้าฯพวกเราชาวไทยอยู่แล้ว ...ขอเพียงพนมมือหลับตารำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณอันยิ่งใหญ่ไพศาลของพระองค์ท่าน ณ สถานที่ใดก็ได้ทั่วประเทศไทย พร้อมเจริญรอยตามพระราชดำรัสที่ทรงขอให้พวกเราเป็นคนดีขยันหมั่นเพียร รู้รักสามัคคีช่วยกันพัฒนาชาติบ้านเมืองคนละมือคนละไม้ ฯลฯ

นี่คือการถวายพวงมาลาที่แท้จริงจากใจของพวกเราชาวไทยครับ.


“ซูม”

คลิกอ่านคอลัมน์ “ซูมซอกแซก” เพิ่มเติม