ราชกิจจาฯ ประกาศ กฎ ก.ตร. แก้ไขคุณสมบัติและลักษณะต้องห้าม ของการเป็นข้าราชการตำรวจ เกี่ยวกับ "บุคคลล้มละลาย" ที่ไม่ใช่การทุจริต หรือเกิดจากการกระทำของตัวเอง ให้รับราชการต่อได้
วันที่ 10 ต.ค. 67 ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ กฎ ก.ตร. ว่าด้วยคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของการเป็นข้าราชการตำรวจ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2567 ที่ลงนามโดย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ประธานกรรมการข้าราชการตำรวจ เป็นการสมควรแก้ไขเพิ่มเติมกฎ ก.ตร. ว่าด้วยคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของการเป็นข้าราชการตำรวจ อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 23 (2) มาตรา 71 (5) และมาตรา 136 (3) แห่งพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2565 และมติ ก.ตร. ในการประชุมครั้งที่ 6/2567 เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม 2567 จึงออกกฎ ก.ตร. ไว้ ดังต่อไปนี้
ข้อ 1 กฎ ก.ตร. นี้ ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
ข้อ 2 ให้ยกเลิกความใน (1) ของข้อ 4 แห่งกฎ ก.ตร.ว่าด้วยคุณสมบัติและลักษณะต้องห้าม ของการเป็นข้าราชการตำรวจ พ.ศ. 2566 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
"(1) เป็นผู้ต้องคำพิพากษาของศาลถึงที่สุดให้เป็นบุคคลล้มละลายทุจริต ตามกฎหมายว่าด้วยล้มละลาย"
ข้อ 3 การใดอยู่ระหว่างดำเนินการตามกฎ ก.ตร.ว่าด้วยคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของการเป็นข้าราชการตำรวจ พ.ศ. 2566 ก่อนวันที่กฎ ก.ตร. นี้มีผลใช้บังคับ การดำเนินการต่อไปสำหรับการนั้น ให้เป็นไปตามที่กำหนดไว้ในกฎ ก.ตร. นี้
ให้ไว้ ณ วันที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2567
โดยเหตุผลในการประกาศใช้กฎ ก.ตร. ฉบับนี้ คือ โดยที่มติคณะรัฐมนตรี เมื่อ 26 กรกฎาคม 2565 เห็นชอบในการแก้ไขหลักการว่าการกำหนดข้อจำกัดในการดำรงตำแหน่ง หรือการประกอบอาชีพของบุคคลล้มละลายในกฎหมายปัจจุบันหลายฉบับ ส่งผลเป็นการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของประชาชน และทำให้สูญเสียบุคลากรสำคัญ ผู้มีความรู้ความสามารถ ซึ่งการเป็นบุคคลล้มละลายไม่ได้ส่งผลต่อความสามารถในการทำงาน และเจ้าหนี้จะได้รับประโยชน์จากการที่ลูกหนี้มีรายได้ ดังนั้น หากเป็นบุคคลล้มละลายที่ไม่ใช่กรณีทุจริต รวมทั้งที่ไม่ได้เกิดจากการกระทำผิดของตัวเอง เช่น เป็นผู้ค้ำประกัน ก็ควรให้รับราชการต่อไปได้
แต่หากเป็นบุคคลล้มละลายทุจริต ตามคำนิยามของพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 ที่หมายความว่า บุคคลล้มละลายที่ถูกศาลพิพากษาว่ามีความผิดตามมาตรา 163 ถึงมาตรา 170 แห่งพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 นี้หรือเป็นบุคคลล้มละลายอันเนื่องมาจากหรือเกี่ยวเนื่องกับการกระทำความผิดฐานยักยอก หรือฉ้อโกง ตามประมวลกฎหมายอาญาหรือการกระทำความผิดอันมีลักษณะเป็นการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน ตามกฎหมายว่าด้วยการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน ก็ควรสั่งให้ออกจากราชการ จึงเป็นการสมควรแก้ไขเพิ่มเติมบทบัญญัติของกฎ ก.ตร. ดังกล่าว เพื่อให้สอดคล้องและเป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อ 26 กรกฎาคม 2565 จึงจำเป็นต้องออกกฎ ก.ตร. นี้
...