พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงห่วงใยพสกนิกร พระราชทานสิ่งของช่วยผู้ประสบภัย โดยเฉพาะสำหรับเด็กเสร็จเรียบร้อย พร้อมพระราชทานเครื่องฉีดน้ำแรงดันสูงฟื้นฟูบ้านเรือนจากดินโคลน ขณะที่สถานการณ์น้ำท่วมเชียงใหม่วิกฤติหนัก แม่น้ำปิงทะลักเข้าพื้นที่เศรษฐกิจถนนช้างคลาน แฟลตตำรวจจมบาดาล ที่แม่ฮ่องสอนน้ำป่าไหลบ่าท่วมรีสอร์ต เจ้าหน้าที่รุดช่วยนักท่องเที่ยวต่างชาติโกลาหล ส่วนเชียงรายฝนกระหน่ำดินถล่มทับทางไปชมทุ่งดอกบัวตองบานแม่สลองใน ขณะที่สุโขทัยแม่น้ำยมซัดพนังแตก กู้ภัยฝ่าน้ำเชี่ยวพาชาวบ้านหนีน้ำ ด้านนายกฯ “อิ๊งค์” ได้ฤกษ์ลุยตรวจน้ำเชียงใหม่-เชียงราย
น้ำท่วมภาคเหนือยังวิกฤติ หลังฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง น้ำป่าไหลบ่าหลายจังหวัด โดยเฉพาะ จ.เชียงใหม่ แม่น้ำปิงทะลักเข้าพื้นที่เศรษฐกิจในตัวเมืองเชียงใหม่ได้รับความเสียหาย ขณะที่สถาน การณ์ยังน่าเป็นห่วง หลังจากกรมอุตุนิยมวิทยายังประกาศเตือนฝนตกทั่วทุกภาค
ในหลวงทรงห่วงใยผู้ประสบภัย
เมื่อวันที่ 25 ก.ย. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้องคมนตรี ผู้ว่าราชการจังหวัด ร่วมกับหน่วยราชการในพระองค์ มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าให้ความช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนทุกข์ยากของราษฎร โดยนำสิ่งของพระราชทานโดยเฉพาะสำหรับเด็กที่ทรงบรรจุใส่ถุงยังชีพเสร็จเรียบร้อย ไปช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยอย่างเร่งด่วนในพื้นที่จังหวัดเชียงราย เชียงใหม่ น่าน พะเยา แพร่ ตาก พิษณุโลก หนองคายและเลย อีกทั้งยังทรง พระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้จัดตั้งโรงครัวพระราชทาน จัดรถครัวสนามปรุงอาหารแก่ประชาชนผู้ได้รับความเดือดร้อนในพื้นที่ที่ประสบภัยต่างๆอย่างต่อเนื่อง
...
พระราชทานเครื่องฉีดน้ำแรงดันสูง
เมื่อสถานการณ์น้ำท่วมเริ่มคลี่คลาย แต่ยังมีความจำเป็นในการฟื้นฟูและทำความสะอาดบ้านเรือนที่ได้รับผลกระทบ เนื่องจากมีดินโคลนที่มากับน้ำจำนวนมากทับถมอยู่ พระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานเครื่องฉีดน้ำแรงดันสูง พร้อมอุปกรณ์ประกอบแก่กองบัญชาการกองทัพไทย โดยหน่วยบัญชาการทหารพัฒนาให้นำไปช่วยเหลือราษฎร เป็นอุปกรณ์สำคัญที่ช่วยทุ่นแรงในการทำความสะอาด ฟื้นฟูบ้านเรือน ที่สาธารณ ประโยชน์ วัด ถนน สถานที่ราชการ บรรเทาความเดือดร้อนและช่วยให้สถานการณ์อุทกภัยกลับสู่สภาวะปกติโดยเร็ว
ทรงรับจิตอาสาบาดเจ็บเป็นคนไข้
นอกจากนั้นพระมหากรุณาธิคุณยังครอบคลุมถึงกลุ่มบุคคลที่ร่วมปฏิบัติหน้าที่ในการให้ความช่วยเหลือประชาชนด้วยจิตสาธารณะ ตามที่ปรากฏเป็นข่าวว่ามีเจ้าหน้าที่และจิตอาสาเสียชีวิตระหว่างการปฏิบัติงาน ในการนี้ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพวงมาลาไปวางที่หน้าหีบศพผู้ใหญ่บ้านที่เสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่ที่ อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ พระราชทานพระบรมราชานุเคราะห์ในการศพแก่จิตอาสาที่เสียชีวิต พระราชทานทุนการศึกษาแก่บุตรของผู้เสียชีวิต รวมทั้งทรงรับจิตอาสาที่ได้รับบาดเจ็บไว้เป็นคนไข้ในพระบรมราชานุเคราะห์อีกด้วย
ถนนช้างคลานจมมิดทั้งสาย
ส่วนสถานการณ์น้ำท่วม จ.เชียงใหม่ ตั้งแต่เมื่อคืนวันที่ 25 ก.ย. ช่วงเวลา 03.00 น. แม่น้ำปิงที่สถานีตรวจวัดน้ำจุด P.1 เชิงสะพานนวรัฐ อ.เมืองเชียงใหม่ เพิ่มขึ้นสูง 4.45 เมตร เลยจุดวิกฤติ 4.20 เมตร เอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำทั้งสองฝั่ง รวมถึงจวนผู้ว่าราชการจังหวัดที่อยู่ริมน้ำเชิงสะพานนวรัฐฝั่งตะวันตก ขณะที่ถนนช้างคลาน เป็นย่านเศรษฐกิจสำคัญของเมืองเชียงใหม่ถูกน้ำท่วมตลอดสายตั้งแต่หน้าโรงแรมแชงกรี-ลาเชียงใหม่ โรงเรียนมงฟอร์ตวิทยาลัย โรงเรียนเรยีนาเชลีวิทยาลัย ที่ทำการสำนักองค์การบริหารป่าไม้ที่ 16 และจุดต่ำสุดบริเวณสี่แยกโรงแรมบัวระวงน้ำสูงเกือบ 1 เมตร รถเล็กสัญจรไม่ได้ น้ำยังทะลักบ้านเรือนประชาชนสองฝั่งแม่น้ำเดือดร้อนหลายหลังคาเรือน
อพยพคนป่วย-ผู้พิการหนีน้ำ
ส่วนถนนเจริญประเทศตั้งแต่หน้าสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 1 น้ำท่วมสูงยาวไปถึงบริเวณสะพานเม็งราย ชาวบ้านขนย้ายข้าวของอพยพหนีน้ำกันตั้งแต่เมื่อคืน ขณะที่จังหวัดตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ร่วมกับเทศบาลนครเชียงใหม่ รวมถึงจัดตั้งศูนย์ระดมทรัพยากรช่วยเหลือและอพยพกลุ่มเปราะบางผู้ป่วยติดเตียง ผู้สูงอายุ คนพิการ สตรีและเด็กออกจากหมู่บ้านต่างๆอย่างเร่งด่วน พร้อมกับระดมทหารและตำรวจกว่า 200 นายร่วมกับจิตอาสาช่วยบรรจุกระสอบทรายนำไปทำพนังกั้นน้ำ อีกทั้งจัดกำลังตรวจสอบทรัพย์สินและรถยนต์ของประชาชนที่หนีน้ำมาจอดบนถนนที่น้ำท่วมไม่ถึงหลายจุด โดยเฉพาะบนถนนมหิดล มีชาวบ้านที่อาศัยในที่ลุ่มแม่น้ำปิง ชุมชนป่าพร้าวนอกและป่าพร้าวใน ต.ป่าแดด นำรถมาจอดเรียงรายจำนวนมาก
ปิด 12 จุด-การสัญจรอัมพาต
ขณะที่ตำรวจแจ้งปิดการสัญจรชั่วคราวบนถนนในเมืองเชียงใหม่ 12 จุด จุดแรกถนนมหิดล บริเวณจุดกลับรถสะพานป่าแดด ปิดกั้น 2 ฝั่ง จุดที่ 2 ถนนเจริญเมืองจากถนนซุปเปอร์ไฮเวย์เข้ามาผ่านสะพานนวรัฐไปถนนท่าแพ จุดที่ 3 ถนนเจริญราษฎร์จากสะพานนวรัฐไปทางสะพานนครพิงค์ ปิดกั้น 2 จุดบริเวณสะพาน ร.9 ตะวันออกไปขัวสะหลีเวียงพิงค์ และขัวสะหลีเวียงพิงค์ จุดที่ 4 ถนนวังสิงห์คำ ไปทางสะพานป่าตันปิดกั้นทั้ง 2 ฝั่ง จุดที่ 5 ตลาดเมืองใหม่ จุดที่ 6 ซอยลาบป่าตัน ถนนมหิดล จุดที่ 7 ถนนช้างคลาน ตั้งแต่หน้าโรงแรมแชงกรี-ลาถึงหมู่บ้านเชียงใหม่แลนด์ จุดที่ 8 ถนนเจริญประเทศ ติดแม่น้ำปิงตั้งแต่สะพานเม็งรายหน้าโรงเรียนมงฟอร์ต จุดที่ 9 ถนนเชียงใหม่-ลำพูน สายเก่าตั้งแต่หน้าค่ายกาวิละไปถึงสี่แยกหนองหอย จุดที่ 10 ถนนบำรุงราษฎร์ จุดที่ 11 จุดตัดไฟทางข้ามหน้าโรงเรียนพหฤทัย และจุดที่ 12 กาดก้อม
ย้ายตำรวจหนีน้ำท่วมแฟลต
...
ด้าน พล.ต.ท.กฤตธาพล ยี่สาคร ผบช.ภ. 5 นำเจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลือครอบครัวตำรวจภูธรภาค 5 หลังจากแม่น้ำปิงไหลท่วมแฟลตที่พักตรงข้ามกับสำนักงานตำรวจภูธรภาค 5 ตั้งแต่เมื่อคืนวันที่ 24 ก.ย.ที่ผ่านมา ส่งผลให้ตำรวจและสมาชิกในครอบครัวที่อาศัยอยู่กว่า 1,000 ชีวิตได้รับความเดือดร้อน ขณะที่น้ำยังท่วมสำนักงานตำรวจภูธรภาค 5 เช่นเดียวกัน เบื้องต้นได้ขนย้ายสิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็นออกจากแฟลตไปอยู่ในที่ปลอดภัย เหลืออยู่ประมาณ 200 คนที่ยังพักอยู่ในแฟลต เจ้าหน้าที่นำข้าวกล่องไปแจกจ่ายถึงบันไดทางขึ้นแฟลต
มท.1 ขับเจ็ตดูน้ำเชียงใหม่
บ่ายวันเดียวกัน นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย ยกเลิกภารกิจขับเครื่องบินเจ็ตส่วนตัวจากกรุงเทพฯไป จ.เชียงใหม่ นำผู้บริหารระดับสูง กระทรวงมหาดไทย ไปตรวจเยี่ยมให้กำลังใจผู้ประสบอุทกภัย หลังแม่น้ำปิงเอ่อล้นตลิ่ง ก่อนลงพื้นที่ 5 จุดเริ่มตั้งแต่จุดวัดระดับน้ำ P.1 สะพานนวรัฐ สะพานพญาเม็งราย เยี่ยมผู้ประสบอุทกภัยน้ำปิงเอ่อล้น จุดระดมทรัพยากรแขวงกาวิละ เทศบาลนครเชียงใหม่ และถนนช้างคลาน นายอนุทินกล่าวว่า เดินทางลงพื้นที่ตรวจดูสถานการณ์และให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน รัฐบาลเน้นย้ำเรื่องอาหาร และสิ่งบรรเทาทุกข์ห้ามขาด
ลุ้นน้ำขึ้นสูงแตะ 5.02 เมตร
นายเกื้อกูล มานะสัมพันธ์ ผู้อำนวยการโครงการชลประทานเชียงใหม่ กล่าวว่า จากการประเมินสถานการณ์น้ำแม่ปิงล่าสุดจะมีมวลน้ำก้อนใหญ่เฉลี่ย 642.03 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่จะทำให้ระดับน้ำที่ P1 ขึ้นสูง 5.02 เมตร เวลาประมาณ 21.00 น. ถึง 23.00 น. คืนนี้ ถ้าไม่มีฝนตกเพิ่มหรือมีปัจจัยอื่นแทรก มวลน้ำก้อนนี้จะเป็นก้อนสุดท้าย ปีนี้ถือว่าน้ำเยอะ เพราะน้ำจากแม่แตง แม่ริม แม่เตาไหไหลเข้าแม่ปิงทุกเส้นทาง สถานการณ์น้ำใกล้เคียงปี 2548 แต่น้อยกว่าปี 2554 หนักกว่าปี 2565 เบื้องต้นประเมินว่าหากระดับน้ำปิงขึ้นสูงสุดน้ำจะไหลทะลักเข้าแขวงกาวิละ เม็งราย โซน 6-7 รวมถึงไนท์บาซาร์ด้วย แต่ไม่น่ามากนัก ได้ประสานขอให้ประชาชนเคลื่อนย้ายออกแล้ว คาดว่าจะมีน้ำขังประมาณ 3 วัน ก่อนกลับเข้าสู่ภาวะปกติ
...
น้ำซัดรถนายก อบต.จมหาย
ขณะเดียวกัน นายวีระชัย แสงทองอร่าม นายก อบต.เวียงใต้ อ.ปาย ขับรถกระบะส่วนตัวออกตรวจสภาพน้ำท่วมในพื้นที่ ปรากฏว่าขณะจอดรถไว้ริมแม่น้ำปาย จู่ๆตลิ่งเกิดทรุดตัว ทำให้รถพลิกตกน้ำ นายวีระชัยรีบหนีออกมาได้หวุดหวิดก่อนถูกกระแสน้ำซัดรถจมหายไปอย่างรวดเร็ว หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่พยายามค้นหา แต่น้ำมากและไหลแรง ทำให้ค้นหาไม่พบ คาดว่ารถน่าจะลอยน้ำไปไกล
พะเยาหนักน้ำสูงกว่าทุกครั้ง
จ.พะเยา สถานการณ์น้ำท่วมยังหนัก หลังจากแม่น้ำและลำห้วยหลายสายไหลเข้ากว๊านพะเยา ทำให้ปริมาณน้ำเกินกักเก็บ เจ้าหน้าที่ชลประทานพะเยาต้องเร่งระบายลงแม่น้ำอิงใน ส่งผลให้พื้นที่ท้ายน้ำบ้านแม่ต๋ำเมืองชุม ต.แม่ต๋ำ อ.เมืองพะเยา และบ้านฝั่งหมิ่น ต.ดอกคำใต้ อ.ดอกคำใต้ ได้รับผลกระทบ น้ำเข้าท่วมถนน บ้าน วัด และเรือกสวนไร่นาเป็นบริเวณกว้าง ชาวบ้านต้องเก็บของหนีไปอยู่ในศูนย์พักพิงภายในวัดเมืองชุม ขณะที่ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากมีน้ำจากลำน้ำแม่ต๋ำไหลมาสมทบสูงถึงขอบกำแพงบ้าน น้ำท่วมรอบนี้ถือว่าหนักกว่า 5 ครั้งที่ผ่านมา
แม่น้ำลาวกัดเซาะคอสะพาน
ที่ อ.แม่สรวย จ.เชียงราย กลางดึกคืนที่ผ่านมาแม่น้ำลาวเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วไหลเซาะคอสะพานข้ามแม่น้ำจุดเชื่อมต่อ ต.ป่าแดด และ ต.ศรีถ้อย อ.แม่สรวย น้ำเซาะเป็นโพรง รถวิ่งได้แค่เลนเดียว นายศักดิ์ชัย คำเมฆ อายุ 49 ปี ผู้ใหญ่บ้านบ้านดอนสลี หมู่ 7 ต.ป่าแดด กล่าวว่า มวลน้ำไหลมาจาก อ.เวียงป่าเป้า จ.เชียงราย ไหลลงมาในพื้นที่ แม้ว่าน้ำยังไม่ท่วมหมู่บ้าน แต่สถานการณ์ยังน่าวิตก น้ำซัดคอสะพานเกือบขาด ล่าสุดทราบว่าเกิดฝนตกในพื้นที่ อ.เวียงป่าเป้า ทำให้ชาวบ้านต้องจัดเวรเฝ้าระวังระดับน้ำตลอด 24 ชม.
ดินถล่มทับทางแม่สลองใน
ส่วน อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย นายปิยะเดช เชิงพิทักษ์กุล นายก อบต.แม่สลองใน อ.แม่ฟ้าหลวง ลงพื้นที่ตรวจสอบเหตุดินสไลด์ปิดถนนเข้าออกหมู่บ้านจากบ้านป๊อกปู่นาโก่ไปบ้านหัวแม่คำ ต.แม่สลองใน เป็นหมู่บ้านสูงที่สุดตะเข็บชายแดนไทย-เมียนมา และแหล่งท่องเที่ยวชมทุ่งดอกบัวตองบานของ จ.เชียงราย ที่ก่อนหน้านี้เคยเกิดเหตุดินถล่มเข้าบ้านทับเด็กหญิงวัย 6 ขวบ ขณะนอนหลับเสียชีวิตมาแล้ว จากการสำรวจพบจุดเกิดเหตุเป็นต้นน้ำแม่น้ำคำถูกน้ำป่าไหลลงจากดอยสูงพัดดินโคลนถล่มมาปิดทับเส้นทางพังทลายเป็นหน้าผาลึก ก่อนนำรถไถมาเกรดภูเขาอีกด้านขยายถนนให้รถยนต์วิ่งผ่านไปได้ 1 เลนให้ชาวบ้านสัญจรชั่วคราว
...
กู้ภัยลุยน้ำช่วยชาวศรีสำโรง
ที่ จ.สุโขทัย แม่น้ำยมเพิ่มสูงขึ้นเซาะแนวคันดินบริเวณใต้สะพานบ้านท่าช้าง หมู่ 6 ต.ทับผึ้ง อ.ศรีสำโรง พังทลายกว่า 20 เมตร มวลน้ำไหลทะลักเข้าบ้านเรือนประชาชน น้ำไหลท่วมถนนจรดวิถีถ่อง เส้นทางหลักขึ้นสู่ภาคเหนือบริเวณหน้าวัดศรีสังวรจนถึงสี่แยกท่าช้างระยะทางประมาณ 200 เมตร น้ำสูงประมาณ 50 ซม. รถเล็กวิ่งผ่านไม่ได้ ทีมกู้ภัยทางน้ำหน่วยกู้ภัยเมตตาธรรมกาฬสินธุ์ที่ไปช่วยผู้ประสบภัยลุยน้ำที่ไหลเชี่ยวกรากสูงกว่า 1 เมตร เข้าไปช่วยประชาชนที่ติดค้างอยู่ในชุมชนบ้านท่าช้าง ต.ทับผึ้ง ออกไปอยู่ในที่ปลอดภัย ส่วนชาวบ้านหมู่ 6 ต.วังใหญ่ อ.ศรีสำโรง ได้รับความเดือดร้อนจากพนังกั้นน้ำบริเวณสะพานสิริปัญญารัตน์ถูกแม่น้ำยมเซาะถุงบิ๊กแบ็กที่นำไปซ่อมพนังกั้นน้ำพังทลายน้ำเข้าท่วมหมู่บ้านอีกรอบ
น้ำยมท่วมชุมชนเมืองแพร่
ด้านนายชุติเดช มีจันทร์ ผวจ.แพร่ เรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประชุมติดตามสถานการณ์น้ำในแม่น้ำยมที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง บางจุดเอ่อท่วมบ้านในพื้นที่ลุ่มริมน้ำสูงเกือบ 2 เมตร เบื้องต้นเทศบาลเมืองแพร่นำถุงบิ๊กแบ็กมาวางกั้นน้ำบริเวณจุดเสี่ยงที่จะท่วมเขตพื้นที่เศรษฐกิจ ล่าสุดระดับน้ำที่สถานีน้ำโค้ง หรือ y1c น้ำสูงถึง 9.15 เมตร ปริมาณน้ำ 1,144 ลบ.ม. น้ำล้นขึ้นบนสะพานข้ามแม่น้ำยมจุดเชื่อมต่อเขตเทศบาลเมืองแพร่กับ ต.ป่าแมต อ.เมืองแพร่ ตำรวจนำแผงกั้นจราจรมาปิดเส้นทาง คาดว่าระดับน้ำจะสูงสุดประมาณ 9.50 เมตร เทศบาลเมืองแพร่ได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำเพิ่มเติมกรณีฉุกเฉิน และเข้าช่วยเหลือชาวชุมชนเชตวัน ชุมชนสระบ่อแก้ว ชุมชนศรีชุม และชุมชนสวรรนิเทศที่รับความเดือดร้อนจากน้ำท่วม
เนินมะปราง-บางกระทุ่มอ่วม
จ.พิษณุโลก น้ำในคลองชมพู เอ่อล้นตลิ่งท่วมบ้านเรือนประชาชน วัด และหน่วยงานราชการต่างๆใน ต.เนินกุ่ม อ.บางกระทุ่ม เจ้าหน้าที่นำกระสอบทรายกั้นตลิ่งบริเวณหลังวัดเนินกุ่มที่มีน้ำล้นตลิ่งมากที่สุด แต่ไม่สามารถต้านกระแสน้ำเชี่ยวกรากและมีปริมาณมากได้ ส่งผลให้พนังกั้นน้ำตลอดพื้นที่ 6 หมู่บ้านเกิดพังทลายแตกหลายจุด น้ำสูง 50-100 ซม. ด้านนายชำนาญ ชูเที่ยง ผู้อำนวยการโครงการชลประทานพิษณุโลก เผยว่า น้ำป่าเทือกเขาเพชรบูรณ์ที่ไหลลงสู่คลองชมพูแล้วเอ่อล้นตลิ่งท่วมบริเวณหมู่ 4บ้านซำรัง และหมู่ 5 บ้านปลวกง่าม ต.ชมพู อ.เนินมะปราง ก่อนไหลหลากเข้าท่วม ต.วัดตายม และ ต.เนินกุ่ม อ.บางกระทุ่ม ตั้งแต่ช่วงหัวค่ำวันที่ 24 ก.ย.ที่ผ่านมาได้รับความเสียหายหลายหมู่บ้าน
เซาะรั้ววัดพังจ่อท่วมพ่อยม
ขณะที่น้ำในคลองวัดตายมกัดเซาะทะลุกำแพงวัดตายม หมู่ 1 ต.วัดตายม อ.บางกระทุ่ม มวลน้ำมหาศาลทะลักเข้าท่วมบริเวณวัดอย่างรวดเร็ว ชาวบ้านพระสงฆ์และทหารกองบิน 46 ช่วยกันนำไม้ยูคาลิปตัสตอกทำแนวรั้วก่อนนำกระสอบทรายปิดกั้นชะลอความแรงของน้ำ พร้อมกับวิดน้ำออกจากวิหารหลวงพ่อยมที่อยู่ระหว่างบูรณะยังไม่แล้วเสร็จป้องกันความเสียหาย เนื่องจากด้านในเป็นที่ประดิษฐานหลวงพ่อยม พระพุทธรูปเก่าแก่อายุกว่า 777 ปี ที่ชาวบ้านศรัทธา หลังจากเริ่มน้ำซึมเข้าภายในวิหาร ส่วนที่ตลาดสดวัดตายม ตั้งอยู่ริมถนนสายสากเหล็ก-วังทอง น้ำไหลท่วมสูง บรรดาพ่อค้าแม่ค้าต้องรีบขนย้ายสินค้าหนีน้ำโกลาหล
2 เขื่อนลำปางรับน้ำเต็มพิกัด
ที่ จ.ลำปาง เกิดฝนตกหนักในเขตอุทยานแห่งชาติดอยหลวงและอุทยานแห่งชาติถ้ำผาไท อ.วังเหนือ ทำให้น้ำไหลลงเขื่อนกิ่วคอหมา อ.แจ้ห่ม ระบายลงแม่น้ำวังมากักเก็บในเขื่อนกิ่วคลม ต.บ้านแลง อ.เมืองลำปาง ทำให้น้ำเอ่อท่วมบ้านนาแส่ง ต.นาแส่ง และบ้านนากิมเหนือ ต.นาแก้ว อ.เกาะคา สูงประมาณ 1 เมตร บางจุดสูงกว่า 2 เมตร ชาวบ้านต้องอพยพไปอยู่ในที่ปลอดภัย ต่อมานายชัชวาลย์ ฉายะบุตร ผวจ.ลําปาง ลงพื้นที่สำรวจแนวฝั่งน้ำแม่วัง จากนั้นเปิดเผยว่า เขื่อนกิ่วคอหมาและเขื่อนกิ่วลมมีน้ำเต็ม 100% ไม่สามารถเก็บกักน้ำได้เด็ดขาด จําเป็นต้องระบายออกลงพื้นที่ด้านล่าง คือ อ.เมืองบางส่วน อ.เกาะคา อ.สบปราบ อ.เถิน และ อ.แม่พริก
สบปราบน้ำเกือบมิดหลังคา
ส่วนที่ชุมชนบ้านสบปราบใต้หมู่ 14 ต.สบปราบ อ.สบปราบ จ.ลำปาง ได้รับผลกระทบจากแม่น้ำวังเอ่อท่วมชุมชนสูงกว่า 1 เมตร โดยเฉพาะบริเวณปากทางเข้าซอย 8 ระดับน้ำสูงเกือบมิดหลังคาบ้าน ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อน 6-7 หลังคาเรือน นายรัตน์ มานันท์ชัย อายุ 62 ปี ชาวบ้านผู้ประสบภัย เผยว่า บ้านตั้งอยู่ริมน้ำ ก่อนหน้านี้มีการแจ้งเตือนแม่น้ำวังเพิ่มสูง ตนและครอบครัวได้อพยพไปอยู่บ้านในตัวเมืองลำปาง แต่น้ำมาเร็ว ขนย้ายไม่ทัน ต้อง ยืมเรือของเพื่อนบ้านขนข้าวของเครื่องใช้จำเป็น
นายกฯเตรียมลงพื้นที่ เชียงใหม่-เชียงราย
ที่ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล เวลา 10.30 น. น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เรียกนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและ รมว.กลาโหม ในฐานะผอ.ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (ศปช.) เพื่อวางแผนแก้ปัญหาน้ำท่วม น.ส.แพทองธารให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์น้ำท่วมจ.เชียงใหม่ ก่อนเข้าหารือว่า กำลังวางแผนเพื่อดูแลเต็มที่ เราต้องพยายามเร่งระบายน้ำ กำลังดูวันว่าจะลงพื้นที่ในวันเสาร์หรือวันอาทิตย์นี้ ความจริงอยากลง พื้นที่ตั้งแต่วันศุกร์ที่ 27 ก.ย. เพื่อจะได้พูดคุยกับหน่วยราชการได้ แต่พอดียังมีงานอยู่ ขอไปเคลียร์ก่อน เมื่อถามย้ำว่าจะลงพื้นที่จังหวัดใด นายกฯตอบว่า กำลังดูว่าจะลงพื้นที่ที่ จ.เชียงใหม่ หรือว่าที่ จ.เชียงราย เพราะในตัวเมืองเชียงรายก็มีน้ำมาก
เดินหน้าเยียวยาดูดดินโคลน
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.กลาโหม ในฐานะ ผอ.ศปช. กล่าวว่า วันที่ 27 ก.ย. นายกฯ รวมถึงรองนายกฯที่เกี่ยวข้องจะลงพื้นที่ จ.เชียงรายและ จ.เชียงใหม่ เพื่อติดตามแก้ไขปัญหา ตรวจเยี่ยมช่วยเหลือประชาชนที่ประสบอุทกภัย ก่อนออกเดินทางจะประชุมวางแผนกันอีกครั้งที่สนามบิน เพื่อดูสถานการณ์ โดยเฉพาะการดูดโคลน รวมถึงการเยียวยาต่างๆ
อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่