หลังสถานการณ์ของผู้ป่วยจากฤทธิ์ยาดองมรณะเริ่มนิ่ง คนก็เลิกสนใจ

เป็นพฤติกรรมปกติแบบไทยๆ

แต่การสืบสวนดำเนินคดีของตำรวจยังต้องทำต่อไป เพื่อให้สิ้นข้อสงสัยว่าใครเป็นคนเอาเมทานอล หรือเมทิลแอลกอฮอล์มาทำเหล้ายาดองขายให้เหยื่อ?

จนมีผู้เสียชีวิตถึง 10 ศพ บาดเจ็บอีกกว่า 30 คน!

หลังสืบสวนเจาะลึก พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.เกียรติกุล สนธิเณร ผบก.น.3 พ.ต.อ.อิสระ ณ พัทลุง รอง ผบก.น.3 และ พ.ต.อ.กฤษ ก้อมน้อย ผกก.สน.มีนบุรี เปิดโต๊ะแถลงข่าวสรุปคดี

ตัวละครสำคัญเพิ่มอีก 1 คน?

ก่อนที่ นายสุรศักดิ์ หรือเอส อินสาม อายุ 46 ปี และ นายสุรชัย หรืออาร์ท อินสาม อายุ 44 ปี สองพี่น้องจะนำเอาสารเมทานอลมาทำเป็นเหล้าขาว ส่งไปขายให้กับ น.ส.ภัสส์รศา หรือ “เจ๊ปู” อารีจิตสุขสิริ อายุ 49 ปี ทำเหล้ายาดองสูตรของตัวเองขายให้เหยื่อทั้งหมด

ตั้งใจไปซื้อสารเอทานอล หรือเอทิลแอลกอฮอล์ เพื่อมาทำเหล้าขาวส่งขายให้เจ๊ปูไปทำเหล้ายาดองจาก น.ส.อารีย์ หรืออีฟ เจริญเลิศกมล อายุ 32 ปี เจ้าของร้านอัพเปอร์เคมีภัณฑ์ ย่านเทพารักษ์ จ.สมุทรปราการ

น.ส.อารีย์ยืนยันว่าขายสารเอทานอลให้สองพี่น้อง?

แต่เมื่อตำรวจตามไปสอบร้านขายสารเอทานอลให้ น.ส.อารีย์ ได้รับการยืนยันว่า น.ส.อารีย์ซื้อสารเมทานอลที่กินไม่ได้ไป เนื่องจากราคาถูกกว่ากันเยอะ

ชุดพนักงานสอบสวนตัดสินใจแจ้งข้อหา น.ส.อารีย์ ข้อหาร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่น ข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นฯ และข้อหาร่วมกันปลอมปนอาหารฯ ให้คนอื่นเสพหรือใช้ เป็นเหตุให้ได้รับอันตรายสาหัสและถึงแก่ความตาย

สรุปความสูญเสียมหาศาลจากคดียาดองมรณะมีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตถึง 44 คน!

มาจากความโลภต้องการกำไรมากขึ้นไม่กี่พันบาท!?

"สหบาท"

...

คลิกอ่านคอลัมน์ “ส่องตำรวจ” เพิ่มเติม