ผมลองตั้งข้อสงสัย หมาป่าในนิทานอีสปทุกตัวน่าจะมีนิสัยพาล เกเร เจ้าเล่ห์ เอาเปรียบเหมือนๆกัน แต่เมื่อได้อ่านเรื่อง หมาป่ากับลูกแกะ และเรื่องหมาป่ากับคนเลี้ยงเด็กแล้ว จึงรู้ว่า ไม่ใช่เช่นนั้น

นิทานอีสป ฉบับเยาวชนยุคพัฒนา (สาทิสลักษณ์ เรียบเรียง ถวิล มนัสน้อม บก.2020 เวิลด์มีเดียจำกัด พิมพ์ พ.ศ.2542) เรื่อง หมาป่ากับลูกแกะ เผื่อคนไม่เคยอ่าน ผมขอเอามาขยายให้ฟังอีกครั้ง

หมาป่าตัวหนึ่ง กำลังกินน้ำอย่างกระหายที่ลำธาร ถัดออกไปไม่ไกลนัก มีลูกแกะกำลังกินน้ำอยู่เหมือนกัน

พอเห็นดังนั้น หมาป่าจึงเดินมาหาลูกแกะ และพูดว่า

“นี่แน่ะ เจ้าลูกแกะขี้โกง กล้าดีอย่างไร จึงทำน้ำของข้าให้ขุ่นเป็นโคลนเช่นนี้”

ลูกแกะตอบว่า “อะไรกัน ฉันจะทำเช่นนั้นได้อย่างไร เพราะ ฉันอยู่ปลายน้ำ ส่วนท่านอยู่ต้นน้ำ น้ำไหลจากท่านมาทางนี้ต่างหาก”

หมาป่าต้องการเอาเรื่องให้ได้ จึงพูดว่า “อย่างนั้นรึ เอาเถอะ แต่ว่าเมื่อเดือนก่อน เจ้าทำตัวจัดจ้าน ด่าข้าลับหลัง ยังจำได้ไหม?”

“มันเป็นไปได้อย่างไร” ลูกแกะตอบ “ในเมื่อตอนนั้น ข้ายังไม่ได้ลืมตามาดูโลกเลย”

“เหลวไหล” หมาป่าย้ำยืนยัน

“พวกญาติๆของเจ้า ล้วนไม่ชอบพวกของข้า ถ้าเจ้าไม่ได้ด่าข้า ก็น่าจะพ่อของเจ้านั่นแหละด่าข้า”

พูดแล้วหมาป่าก็ตรงเข้ากัดกินลูกแกะเป็นอาหารทันที

อ่านนิทานเรื่องนี้แล้ว หมาป่าเข้าสเปก “เจ้าเล่ห์ เกเร โหดร้าย” อย่างที่เราอ่านๆกัน

แต่เมื่อได้อ่านเรื่องต่อไป หมาป่ากับคนเลี้ยงเด็ก..แล้วคงต้องปรับความเข้าใจต่อหมาป่าเสียใหม่

หมาป่าตัวนี้ เดินเข้ามาหาอาหารตามชานเมือง จนผ่านมาถึงบ้านหลังหนึ่ง มีเสียงเด็กร้อง มันจึงแวะเวียนเข้าไปใกล้

...

มันได้ยินเสียงคนเลี้ยงเด็ก พูดดังชัดถนัดหูว่า

“เงียบๆนะ หยุดร้องได้แล้ว ถ้าไม่หยุด ฉันจะโยนเจ้าออกไปให้หมาป่ากิน”

หมาป่าได้ยินดังนั้น คิดตามประสาหมาป่า ว่าคนเลี้ยงเด็ก

จะทำตามปากพูด จึงนั่งรอ

มันนั่งรออยู่นานจนกระทั่งพลบค่ำ เรื่องไม่ได้เป็นตามที่มันหวังจึงกลับเข้าป่า

วันต่อมา หมาป่ายังติดใจ เดินทางเก่าผ่านมาถึงบ้านหลังนั้น และหยุดแวะรอดูท่าทีอีกที

แต่วันนี้ สถานการณ์ในบ้านเปลี่ยนไป มันไม่ได้ยินเสียงบ่นว่าดุขู่เด็กเหมือนเดิม

มันก็เห็นเด็กถูกอุ้มไว้ และมีเสียงนุ่มๆของคนเลี้ยงเด็กว่า

“ว่าง่าย ไม่ดื้อ อย่างนี้ซีถึงจะน่ารัก หลับเสียเถอะนะ ถ้ามีหมาป่าผ่านมาทางนี้จะเอาไม้ตีหัวมันให้แตกไปเลย”

หมาป่าได้ยินดังนั้น จึงหันหลังเดินกลับ

มันนึกแปลกใจ คิดไม่ออก ทำไมเรื่องเดียวกันในบ้านหลังเดียวกัน จึงกลับกลายได้ถึงขนาดนั้น

มันเดินไปบ่นไป “คนนี่เข้าใจยากเสียจริงๆ วันนี้พูดอย่าง พรุ่งนี้พูดอีกอย่าง”

หมาป่าในเรื่องนี้ นิสัยซื่อๆ ตรงข้ามกับหมาป่าที่หาเรื่องกินลูกแกะ ซึ่งหากจะพยายามเข้าใจ หมาป่าก็เหมือนสัตว์เหมือนคนทั่วๆไป คือนิสัยไม่เหมือนกัน มีดีมีเลว มีซื่อมีเจ้าเล่ห์

ประโยคทองหมาป่า “ถึงเจ้าไม่ได้ด่า พ่อของเจ้านั่นแหละด่า” หาเรื่องกินลูกแกะ มีตัวอย่างสดๆร้อนทางการเมือง โถ! ลูกสาวเพิ่งเข้านั่งเก้าอี้ผู้นำไม่ทันข้ามวัน ก็ถูกสารพันหมาป่าโจทก์เก่าๆ ของพ่อ เรียงหน้าเข้าแถวจองกฐิน

มีเสียงวิจารณ์ถึงขั้น อายุรัฐบาลจะอยู่ได้ไม่ทันถึงสิ้นปี... เออ! จะว่าไป บ้านนี้เมืองนี้เขาก็อยู่กันมาอย่างนี้ คนยิ่งกว่าหมาป่า วันนี้พูดอย่าง พรุ่งนี้พูดอีกอย่าง มาแต่ไหนแต่ไร.

กิเลน ประลองเชิง

คลิกอ่านคอลัมน์ “ชักธงรบ” เพิ่มเติม