จ.สุราษฎร์ธานี แจงคลิป "ศูนย์การเรียนรู้ภาษาพม่า" เปิดสอนนักเรียนว่อนโซเชียล พบเป็นการลักลอบเปิดโดยไม่ได้รับอนุญาต มีคำสั่งปิดหลายครั้งแล้ว เร่งเอาผิดผู้เกี่ยวข้อง ป้องกันการเปิดซ้ำ

จากกรณีโลกออนไลน์ได้มีการเผยแพร่คลิปวิดีโอนักเรียนกลุ่มหนึ่ง ซึ่งแต่งกายด้วยชุดพละ ยืนเข้าแถวเคารพธงชาติ โดยมีการร้องเพลงชาติไทยตามด้วยเพลงชาติพม่า โดยผู้โพสต์คลิปดังกล่าวใช้บัญชีบรรยายคลิปเป็นภาษาเมียนมา ระบุว่า "มิตตาเย๊ะ เมียนมา สุราษฎร์ธานี" จนกลายเป็นประเด็นที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์กันนั้น

ล่าสุด วันที่ 5 กันยายน 2567 ที่ศูนย์ห้องประชุมสำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน จ.สุราษฎร์ธานี นายสุคนธ์ หนูภักดี รอง ผวจ. สุราษฎร์ธานี พร้อมด้วย นายโชคดี ศรัทธากาล ศึกษาธิการจังหวัด พ.ต.อ.ณัฐชนนท์ เกิดก่อ รอง ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กอ.รมน. จ.สุราษฎร์ธานี ตรวจคนเข้าเมือง สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ร่วมกันแถลงข่าวเพื่อชี้แจงการดำเนินการเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว

นายสุคนธ์ กล่าวว่า หลังคลิปวิดีโอดังกล่าวถูกเผยแพร่ทางโซเชียล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาได้มีคำสั่งด่วนให้ตรวจสอบ ซึ่งเราพบว่าโรงเรียนดังกล่าวเป็นศูนย์การเรียนรู้ภาษาพม่าที่ลักลอบเปิดโดยไม่ได้รับอนุญาต และทราบว่ามีมานานแล้ว ซึ่งศึกษาธิการจังหวัดได้รายงานว่า ก่อนหน้านี้ได้ดำเนินการเข้าไปควบคุมและมีคำสั่งให้ปิดศูนย์การเรียนรู้ภาษาพม่าดังกล่าวมาหลายครั้งแล้ว

...

แต่ปี 2565 ปรากฏว่ายังคงมีการฝ่าฝืนและมีการดำเนินการอย่างต่อเนื่อง จนปัจจุบันทราบว่ามีเยาวชนชาวพม่าในศูนย์ดังกล่าวกว่า 1,250 คน โดยใช้สถานที่ของโรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.บางกุ้ง อ.เมืองสุราษฎร์ธานี ซึ่งหลังจากทราบว่าคลิปวิดีโอที่ถูกเผยแพร่ออกไปนั้นเป็นของโรงเรียนมิตตาเย๊ะ ทางศึกษาธิการจังหวัดก็ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี เพื่อเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมายในการสืบสวนสอบสวน เพื่อหาตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีทางกฎหมาย

ขณะที่ นายโชคดี ศรัทธากาล ศึกษาธิการจังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า เมื่อปี 2565 ได้มีการยื่นคำขอจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน ชื่อว่า ศูนย์การเรียนมิตตาเย๊ะ ในพื้นที่อาคารเรียนเดิมของวิทยาลัยเทคโนโลยีบางกุ้งที่ยุติการเรียนการสอนไปแล้ว แต่คณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัดได้มีมติไม่อนุญาตให้จัดตั้งเนื่องจากขาดคุณสมบัติหลายข้อ และได้สั่งให้ยุติการสอนภาษาพม่าไป อย่างไรก็ตาม ศูนย์การเรียนดังกล่าวยังคงลักลอบเปิดการสอนมาอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าตนจะพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ทั้งศึกษาธิการจังหวัด เขตพื้นที่การศึกษา และฝ่ายปกครอง ได้เข้าไปสั่งปิด ก็กลับมาเปิดใหม่นับ 10 ครั้ง และบางครั้งผู้ให้เช่าสถานที่ยังมีการโต้แย้งว่าเจ้าหน้าที่ไม่มีอำนาจตามกฎหมายในการสั่งปิด

อย่างไรก็ตาม หน่วยงานด้านความมั่นคงระบุว่า ในส่วนที่เกี่ยวกับภารกิจของหน่วยงาน เช่น การตรวจสอบการอยู่อาศัยในราชอาณาจักรของเด็กและผู้ปกครอง การอนุญาตทำงาน และการกระทำผิดเกี่ยวกับความมั่นคง จะต้องตรวจสอบโดยละเอียด เพื่อดำเนินการกับผู้เกี่ยวข้อง ทั้งครูชาวเมียนมา 24 คน ครูคนไทย 6 คน รวมถึงครูใหญ่และเจ้าของสถานที่ให้เช่าเปิดศูนย์การเรียน

นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ที่ผ่านมาใน จ.สุราษฎร์ธานี มีศูนย์การเรียนภาษาพม่าในลักษณะเดียวกันนี้ 6 แห่ง ได้แก่ ศูนย์การเรียนมิตตาเย๊ะ, ชุมชนโพหวาย, ชุมชนวัดสมหวังวนาราม ในอำเภอเมือง, อำเภอคีรีรัฐนิคม, อำเภอดอนสัก และอำเภอพะงัน ทั้งนี้ พบว่าเด็กและเยาวชนชาวพม่าที่เข้าเรียนที่ศูนย์ดังกล่าวจะมีค่าใช้จ่ายคนละ 600 บาทต่อเดือน ซึ่งในการแถลงข่าวของส่วนราชการที่เกี่ยวข้องระบุว่า ปัจจุบันศูนย์ในลักษณะดังกล่าวได้ปิดตัวลงทั้งหมดแล้วตั้งแต่ปรากฏเป็นข่าวทางโซเชียล.