พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รมว.ศึกษาธิการ เปิดเผยภายหลังการประชุมผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ว่า ที่ประชุมได้มีการสรุปผลการจัดประชุมรัฐมนตรีด้านการศึกษาอาเซียน ครั้งที่ 13 พร้อมการประชุมที่เกี่ยวข้อง ภายใต้หัวข้อ “พลิกโฉมการศึกษาในยุคดิจิทัล” ที่ จ.บุรีรัมย์ ซึ่งตนได้ฝากให้ผู้บริหาร ศธ.ได้ต่อยอดขยายผลการประชุมดังกล่าว เพื่อให้เกิดการขับเคลื่อนในมิติการศึกษาอย่างทั่วถึง พร้อมขอบคุณทุกภาคส่วนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ได้จัดงานดังกล่าวให้ผ่านพ้นไปได้ด้วยดี

รมว.ศึกษาธิการกล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้มีการติดตามการขับเคลื่อนการยกระดับโครงการประเมินผลนักเรียนระดับนานานชาติ หรือพิซา ซึ่งได้มีการรายงานผลการทำงานมาอย่างต่อเนื่อง โดยตนได้ย้ำเรื่องของความพร้อมในการใช้เทคโนโลยี เนื่องจากการทดสอบพิซาจะใช้คอมพิวเตอร์ในการดำเนินการทดสอบ ดังนั้นอยากให้มีการเตรียมความพร้อมในเรื่องนี้ในสองมิติ คือ สถานศึกษาที่มีความพร้อมและไม่มีความพร้อมด้านเทคโนโลยีจะดำเนินการอย่างไร รวมถึงระบบเครือข่ายสัญญาณอินเตอร์เน็ตของโรงเรียนด้วย เพื่อให้พร้อมต่อการทดสอบพิซาและครอบคลุมทุกกลุ่มโรงเรียน อย่างไรก็ตาม เรื่องการขับเคลื่อนพิซาในปีนี้ที่เราเตรียมความพร้อมนักเรียนและครูครอบคลุมทุกด้านทำให้ตนเชื่อว่าการสอบพิซาปี 2025 ผลคะแนนการทดสอบของนักเรียนไทยจะขยับดีขึ้นกว่าปีที่ผ่านมาอย่างแน่นอน

“ทั้งนี้ ผมยังได้ติดตามเรื่องค่าสาธารณูปโภคของสถานศึกษาที่มีการตั้งคณะทำงานขับเคลื่อนเรื่องนี้ โดยได้รับรายงานว่ามีการวางแนวทางลดค่าใช้จ่ายด้านสาธารณูปโภคของสถานศึกษา โดยเฉพาะหมวดค่าน้ำค่าไฟ ซึ่งพบสถานศึกษาหลายแห่งมียอดการใช้ไฟที่สูงมาก และบางแห่งยังค้างชำระค่าสาธารณูปโภคอยู่ ซึ่งในเบื้องต้นอาจทำความร่วมมือกับหน่วยงานผู้ให้บริการในการขอลดหย่อนการจ่ายสาธารณูปโภคของสถานศึกษาลงในอัตราราคาที่เหมาะสม เพราะถือว่าสถานศึกษาเป็นหน่วยให้บริการสาธารณะเช่นเดียวกัน อีกทั้งจะมีแนวทางทำความร่วมมือกับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย เพื่อดำเนินการติดตั้งโซลาร์เซลล์ในสถานศึกษาให้มากขึ้น เพราะจะได้ประหยัดงบประมาณและประหยัดพลังงานด้วย โดยจะผลักดันให้เกิดการใช้งาน พลังงานทดแทนในสถานศึกษาทุกพื้นที่ให้มากขึ้น” พล.ต.อ.เพิ่มพูนกล่าว.

...

อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่