สามีสุดช้ำ หลังภรรยามีชายอื่น 5 คน เข้าร้องสภาทนายความฯ ตรวจสอบชายคนที่ 5 และขอสิทธิเลี้ยงลูกแต่เพียงผู้เดียว ลั่นไม่ขอกลับไปคืนดี และเดินหน้าฟ้องร้องชู้เต็มที่
วันที่ 4 ก.ย. 67 มีรายงานว่า ที่สภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์ นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยและผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด ได้พานายแป้ง (นามสมมติ) อาชีพผู้ช่วยพยาบาล สมรสกับภรรยาจนมีบุตรด้วยกัน ต่อมาพบว่าภรรยาคบชายอื่น 5 คน หลังจากแต่งงานจดทะเบียนสมรสแล้ว จึงเดินทางเข้าร้องขอให้สภาทนายความ โดย ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนาย และคณะกรรมการ สำนักงานมรรยาททนายความ ตรวจสอบชายคนที่ 5 หลังอ้างตัวเป็นทนายความ
นายเอกภพ กล่าวว่า หลังจากวานนี้ (3 ก.ย.) ได้พานายแป้ง ผู้เสียหาย ไปออกรายการโทรทัศน์ชื่อดัง ทำให้รับข้อเท็จจริงเพิ่มเติมจากทั้ง 2 ฝั่ง ซึ่งการมาสภาทนายความฯ ในวันนี้มี 2 ส่วนด้วยกัน คือต้องการให้สภาทนายความฯ ดำเนินการตรวจสอบว่าชายชู้ที่อ้างตัวเป็นทนายความนั้น เป็นทนายความจริงหรือไม่ หากตรวจสอบแล้วพบว่าเป็นทนายความจริง จะยื่นหนังสือถึงกรรมการมรรยาททนายความว่าพฤติกรรมดังกล่าวเข้าข่ายผิดมรรยาททนายความหรือไม่ เนื่องจากภรรยาของผู้เสียหายไปว่าจ้างให้ทนายความมาฟ้องหย่าเขา แต่ทนายกลับไปเป็นชู้เสียเองและเป็นอย่างเปิดเผยอีกด้วย อย่างไรก็ตามหากไม่ใช่ทนายความจริงก็จะดำเนินการฟ้องร้องในกระบวนการปกติของศาลเยาวชนและครอบครัว
ด้านนายแป้ง สามี เผยว่า สาเหตุที่ออกมาร้องขอให้สายไหมต้องรอดช่วยเหลือและมาที่สภาทนายความฯ เพราะต้องการได้สิทธิในการเลี้ยงดูบุตรแต่เพียงผู้เดียว เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุเกี่ยวกับครอบครัวในวันข้างหน้า และยืนยันว่าหากภรรยาจะขอกลับตัวหรือขอคืนดี ตนไม่เอาอีกแล้ว และได้เสนอ 2 ข้อให้ภรรยา คือ ขอสิทธิเลี้ยงดูลูกแต่เพียงผู้เดียว หากไม่ยอมตนจะดำเนินการฟ้องหย่า รวมถึงจะเดินหน้าฟ้องร้องชู้อย่างเต็มที่
...
ทั้งนี้ นายเอกภพ กล่าวเพิ่มเติมภายหลังจากที่ยื่นตรวจสอบพบว่า ชู้คนที่ 5 ของภรรยานายแป้งนั้น เป็นทนายความจริง เพียงแต่บัตรใบอนุญาตว่าความหมดอายุตั้งแต่ปี 2564 ไม่มีสิทธิในการว่าความจนกว่าจะมาต่อบัตร จากนั้นผู้เสียหายจึงยื่นตรวจสอบมรรยาททนายความว่าการกระทำดังกล่าวผิดมรรยาททนายความข้อไหนอย่างไรบ้าง และหลังจากนี้ทางเพจสายไหมต้องรอดจะช่วยจัดหาทนายความเพื่อใช้ในการต่อสู้ฟ้องชู้ต่อไป.