คำว่าจริยธรรม...ในความเข้าใจเดิมๆของคนไทยไม่หนักหนา แต่เมื่อศาลรัฐธรรมนูญ ท่านอ้างจริยธรรมของวิญญูชน ปลดนายกฯพ้นตำแหน่งได้...ระดับจริยธรรมถูกยกให้สูงขึ้น จนเป็นที่หวาดหวั่น

ทำเอาการฟอร์ม ครม.ใหม่ สะดุดโครม!ใหญ่

ในฐานะชาวบ้าน ทำได้ก็แค่ก็ค่อยๆตั้งสติตามไปดู ก็อยากรู้ เส้นมาตรฐานจริยธรรมจะสูงขึ้นซักแค่ไหน?

ผมฟังคำว่าวิญญูชนมาก็นาน แต่ก็ไม่เคยเข้าใจ ชนชั้นวิญญู ที่ผมแปลว่าผู้รู้ เนื้อตัวหน้าตาเป็นอย่างไร?

ใน “ฉางต่วนจิง ศาสตร์แห่งการยืดหยุ่นและพลิกแพลง” (เจ้าหยุย คนราชวงศ์ถัง เขียน อธิคม สวัสดิญาณ แปล สำนักพิมพ์เต๋าประยุกต์ พิมพ์ครั้งที่ 4 พ.ศ.2549) บทที่ 3 การจำแนกบุคลากร ตามคำสอนขงจื๊อ ต่อไปนี้

ชาวชนในทุกแว่นแคว้นแผ่นดิน แบ่งออกได้ 5 ประเภท

คนประเภทที่ 1 คนไร้ปณิธาน ไม่รู้กาลเทศะ ไม่รู้จักเลือกนายดีเป็นที่พึ่ง ไม่สามารถก่อร่างสร้างตัวด้วยตนเอง เห็นแต่ส่วนย่อย ไม่เห็นส่วนทั้งหมด ไม่รู้การควรและมิควร จิตใจลังเล ไร้ความคิด

นี่แล สามานยชน

คนประเภทที่ 2 คนมีความคิด มีโครงการ แม้ไม่อาจขุดคุ้ยความสามารถของตนออกมาใช้อย่างเต็มที่ แต่ก็พอสร้างชื่อเสียงได้บ้าง

แม้ไม่อาจยึดมั่นในคุณธรรมอย่างครบถ้วนสมบูรณ์ แต่ก็สร้างคุณงามความดีได้บ้าง

ดังนั้น ถึงสติปัญญาจะไม่สูงส่ง แต่สิ่งที่รู้ก็รู้จริง ถึงจะพูดน้อย แต่ก็มีสาระ ถึงจะทำงานไม่มาก แต่ก็ทำอย่างมีจุดหมาย เมื่อเหตุผลชัดเจน พูดจามีสาระ ย่อมรู้ผลแห่งการกระทำ นิสัยความคิดคำพูด และการกระทำจึงมั่นคงไม่สั่นคลอน ถึงร่ำรวยสูงศักดิ์ไม่กลับกลาย ถึงยากแค้นขัดสนไม่ตกต่ำ

นี่แล ปัญญาชน

คนประเภทที่ 3 คนมีสัจจะ จิตใจบริสุทธิ์ ไม่แค้นไม่ริษยา ผดุงคุณธรรม แต่ไม่ประโคมโอ่อวด รู้เหตุรู้ผล นอบน้อมถ่อมตน พูดจริงทำจริง และมุ่งมั่นพัฒนาตนเอง

...

นี่แล วิญญูชน

คนประเภทที่ 4 ยึดมั่นในธรรม ไม่หลบเลี่ยงกฎหมาย และขนบจารีต ดำเนินงานตามกฎเกณฑ์ มีวาจาเที่ยงแท้เป็นที่เอาอย่างของชาวชนทั่วหล้า

มีมรรคธรรมกลมกลืนพอสร้างสำนึกแก่ปวงราษฎร์ สามารถทำให้แผ่นดินอุดมสมบูรณ์ แต่ราษฎรก็ไม่ละโมบสะสมทรัพย์ และสามารถทำให้ราษฎรมีเมตตา แต่ก็ไม่ทุกข์ร้อนยากจน

นี่แล อัจฉริยชน

คนประเภทที่ 5 ผู้มีมรรคธรรมสอดคล้องกับฟ้าดิน สามารถพลิกแพลงไร้ขอบเขต รู้จุดเริ่มต้นและจุดจบของการทั้งปวง สามารถประสานสรรพสิ่งให้กลมกลืนเป็นธรรมชาติ ทำให้มรรคธรรมแผ่คลุมแผ่นดิน

สรรพสิ่งทั้งปวงดำเนินการไปตามที่ควรจะเป็น

อาจเปรียบคนประเภทนี้ได้กับแสงสุริยันจันทรา เมื่อท่านดำเนินการมรรคธรรม จะประหนึ่งเทพดลบันดาล ราษฎรหารู้ไม่ว่ารับบุญคุณจากท่านแล้ว ผู้ที่เคยพบพานก็หารู้ไม่ว่าท่านเป็นคนสนิทบ้านใกล้เรือนเคียง

นี่แล อริยปราชญ์

ย้อนไปอ่านคนประเภทที่ 3 วิญญูชน อีกสักที ก็แค่คนเก่งคนดีที่เก็บเนื้อเก็บตัว...แบบชาวบ้าน ระดับจริยธรรมจึงไม่น่าจะสูงโลดโผนนักหนา ก็แค่ถือศีล 5 ไม่ฆ่าสัตว์ ไม่ลักขโมย ไม่ผิดลูกเมียเขา ไม่โกหก ไม่ขี้เหล้าเท่านั้น

รู้ระดับจริยธรรมของวิญญูชนแล้ว ผมก็เอาใจช่วย ขอให้คุณธรรมนัส คุณสันติ และอีกหลายๆท่าน ที่ผมเห็นว่าทุกท่านมีศีลห้า สอบผ่านการเป็นรัฐมนตรีทุกท่านทุกคน.

กิเลน ประลองเชิง

คลิกอ่านคอลัมน์ “ชักธงรบ” เพิ่มเติม