เมื่อวันที่ 21 ส.ค.2567 พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รมว.ศึกษาธิการ เปิดเผยภายหลังการประชุมผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ว่า ตนได้รายงานให้ที่ประชุมรับทราบถึงการจัดประชุมรัฐมนตรีด้านการศึกษาอาเซียน ครั้งที่ 13 ซึ่งประเทศไทยเป็นเจ้าภาพในการจัดประชุมดังกล่าว ระหว่างวันที่ 23-26 ส.ค.2567 ที่ จ.บุรีรัมย์ โดยตนได้นำเรื่องการจัดประชุมดังกล่าวรายงานให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) รับทราบ ซึ่งที่ประชุม ครม.มีมติเห็นชอบให้ รมว.ศธ.รับดำเนินการจัดทำคำปฏิญญาร่วมอาเซียนด้านการศึกษา นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้รายงานความก้าวหน้าการขับเคลื่อนเพื่อยกระดับคุณภาพการศึกษาตามแนวทางของโครงการประเมินผลนักเรียนนานาชาติ หรือ พิซา 2025 จากสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ไม่ว่าจะเป็นการใช้ชุดพัฒนาความฉลาดรู้ ข้อสอบที่มีความแตกต่างระหว่างข้อสอบแบบเดิมและข้อสอบตามแนวทางของพิซา การขับเคลื่อนการยกระดับพิซาของกรุงเทพมหานคร และการพัฒนาศักยภาพครู และการสอบ Pre-test

รมว.ศธ. กล่าวอีกว่า ที่ประชุมยังได้หารือถึงการจัดทำระบบสารสนเทศเพื่อบริหารอัตรากำลัง ศธ. ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ได้จัดทำระบบดังกล่าว ทำให้เกิดประโยชน์ในการบริหารอัตรากำลัง การใช้บัญชีร่วมกันในการบรรจุ การวิเคราะห์อัตรากำลังและต่อยอดไปถึงแนวทางพัฒนาทักษะรายบุคคลขององค์กร ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างให้ส่วนราชการจัดทำข้อมูลลงระบบ โดยจะทำให้เราได้ทราบข้อมูลอัตราเกษียณอายุราชการในแต่ละปีมีจำนวนเท่าไหร่ และนำไปวางแผนกรอบอัตรากำลังไปถึงปี 2570 ทั้งนี้ ถือเป็นการเตรียมความพร้อมเรื่องนี้ไว้ล่วงหน้า รวมถึงการจัดสอบบรรจุแทนการเกษียณอายุ หรือการโยกย้ายกลับภูมิลำเนาเดิม

...

“ที่สำคัญผมได้ติดตามการใช้จ่ายงบประมาณปี 67 ซึ่งพบว่ามีการดำเนินการตามเป้าหมายถึง 91% ถือว่าเป็นภาพรวมการใช้จ่ายงบที่ดีมากขึ้น ส่วนที่เหลือก็จะเป็นในเรื่องของงบลงทุนที่บางหน่วยงานอาจติดข้อจำกัดในการจัดทำสัญญาการจัดซื้อจัดจ้าง ซึ่งได้เร่งติดตามการเบิกจ่ายงบประมาณให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 15 กันยายนนี้ เพื่อให้การบริหารจัดการงบประมาณเกิดความคุ้มค่าต่อการจัดการศึกษาสูงสุด” รมว.ศธ.กล่าว.

อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่