เมื่อวันที่ 15 ส.ค. นายมณฑล ภาคสุวรรณ์ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาเอกชน (กช.) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการการศึกษาเอกชน ที่มี พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รักษาการ รมว.ศึกษาธิการ เป็นประธานการประชุม ว่า ที่ประชุมได้มีการหารือถึงประเด็นวาระเร่งด่วนตามที่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้มีมติเห็นชอบปรับหลักการการปรับเพิ่มเงินอุดหนุนค่าใช้จ่ายในการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน รายการเงินอุดหนุนรายบุคคล ในส่วนของเงินสมทบเป็นเงินเดือนครู สำหรับนักเรียนโรงเรียนเอกชน สังกัดสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) และสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) ตามที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ได้เสนอต่อที่ประชุม ครม. โดยเป็นการปรับฐานเงินเดือนครูในการคำนวณเงินอุดหนุน จากอัตราจำนวน 15,050 บาทต่อเดือน เป็นอัตราจำนวน 18,150 บาทต่อเดือน ภายในระยะเวลา 2 ปี เริ่มดำเนินการเดือน พ.ค.2567 เป็นต้นไป ตามแนวทางการปรับเพิ่มเงินอุดหนุนค่าใช้จ่ายในการจัดการศึกษาพื้นฐาน รายการเงินอุดหนุนรายบุคคลในส่วนของเงินสมทบเป็นเงินเดือนครู เมื่อวันที่ 9 ก.ค.ที่ผ่านมา โดยการจัดสรรเงินดังกล่าวจะต้องดูเรื่องของงบประมาณด้วย

เลขาธิการ กช.กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตามในส่วนของ สช.ได้ดำเนินการจัดคำของบประมาณที่เป็นงบกลางในปี 2567 ไปแล้วในวงเงินจำนวน 500 ล้านบาท ส่วนในปี 2568 สช.ได้ดำเนินการจัดทำคำของบแปรญัตติเพิ่มเติมไปแล้วด้วยเช่นกัน โดยการจัดสรรเงินเดือนครูเอกชนนี้จะให้มีการตกเบิกย้อนหลังนับตั้งแต่เดือน พ.ค.2567 ต่อเนื่อง ไปจนถึงวันที่ 30 ก.ย.2567

นายมณฑลกล่าวด้วยว่า สำหรับในวันที่ 1 ต.ค.2567 เป็นต้นไปซึ่งจะเป็นการเริ่มดำเนินการใช้อัตราเงินเดือนใหม่นั้น ที่ประชุมได้พิจารณาและมีมติเห็นชอบการจัดทำระเบียบของกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ว่าด้วยเรื่อง การเบิกจ่ายงบประมาณ โดยระเบียบดังกล่าวจะเสนอให้ รมว.ศึกษาธิการ ลงนามในประกาศ เพื่อดำเนินการจัดสรรเงิน ดังกล่าวให้แก่โรงเรียนต่างๆไปดำเนินการต่อไป ซึ่งตนคิดว่าการจัดสรรงบประมาณจะสามารถดำเนินการได้ทันตามกรอบระยะเวลาที่กำหนดไว้อย่างแน่นอน.

...

อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่