อดีตพนักงานการไฟฟ้าวัย 71 ปี แยกทางกับภรรยามาเช่าบ้านในเมืองจันท์อยู่คนเดียว ถูกแก๊งคอลฯลวงลงทุนธุรกิจเสื้อผ้า หลงกลสูญเงินก้อนสุดท้ายในชีวิต เครียดจัดเขียนสั่งเสียลูกชายและญาติ เตรียมเสื้อผ้าชุดโปรดไว้ใส่ลงโลง ใช้เชือกผูกคอฆ่าตัวตายคาบ้าน สะเทือนใจเพิ่งฉลองวันเกิดได้แค่วันเดียว ด้าน “กันจอมพลัง” ลุยจี้ตำรวจ สภ.ยี่สาร เร่งรัดคดี FC ชาวอัมพวา ผูกคอตายใต้สะพาน เพราะถูกแก๊งคอลฯ ตุ๋นเงินร่วม 2 แสนบาท

คนไทยยังต้องตกเป็นเหยื่อแก๊งคอลฯ เพราะภาครัฐไม่เอาจริงเอาจังในการทำงาน ล่าสุด ชายชราตกเป็นเหยื่อแก๊งมิจฉาชีพตุ๋นเงินก้อนสุดท้ายในชีวิต เครียดจัดฆ่าตัวตายหนีความรันทด เปิดเผยเมื่อเช้าวันที่ 11 ส.ค. ลูกชายและญาติๆเดินทางมาที่ รพ.พระปกเกล้า นำเอกสารหลักฐานการเสียชีวิตมาติดต่อขอรับศพนายปรีชากร สภานนท์ อายุ 71 ปี ออกจากโรงพยาบาล หลังแพทย์ชันสูตรศพแล้วพบเสียชีวิตเพราะขาดอากาศหายใจ เชื่อว่าเป็นการจงใจฆ่าตัวตาย จากนั้นเคลื่อนย้ายศพขึ้นรถตู้นำไปตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ ส่วนเรื่องคดีที่ถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกโอนเงินจนเป็นสาเหตุฆ่าตัวตายหรือไม่นั้น จะเข้าให้ปากคำพนักงานสอบสวนอีกครั้ง

คดีนี้สืบเนื่องจากเมื่อเวลา 21.00 น. วันที่ 10 ส.ค. ร.ต.อ.หญิง พนิดา จุลภักดิ์ รอง สว. (สอบสวน) สภ.เมืองจันทบุรี รับแจ้งมีผู้เสียชีวิตผูกคอตายในบ้านเช่าไม่มีเลขที่ ซอยข้างวัดเขาแก้ว หมู่ 5 ต.ท่าช้าง อ.เมืองจันทบุรี ไปตรวจสอบพร้อมแพทย์เวร รพ.พระปกเกล้า และเจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างกตัญญู จันทบุรี ภายในบ้านพบศพนายปรีชากร สภานนท์ อายุ 71 ปี ชาว จ.ภูเก็ต นุ่งกางเกงขาสั้นไม่สวมเสื้อ ใช้เชือกไนลอน สีเขียวผูกคอกับขื่อเหล็กโครงหลังคากลางบ้าน ขาสองข้างยังเหยียบติดพื้น ตรวจสอบไม่พบบาดแผลถูกทำร้าย ข้างศพพบเสื้อกับกางเกงขายาวสีดำถูกรีด พับไว้อย่างดีวางพาดไว้บนพนักเก้าอี้ บนเสื้อพบกระดาษ 4 แผ่นใช้ไม้หนีบติดกับเสื้อไว้ เป็นจดหมายเขียนด้วยลายมือผู้ตายสั่งลาถึงน้องชาย, พี่สาว, ลูกชาย และเพื่อนบ้านที่สนิท เจ้าหน้าที่บันทึกภาพไว้เป็นหลักฐาน นำศพส่งชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงและจะสอบปากคำผู้เกี่ยวข้องอย่างละเอียดต่อไป

...

สอบสวนทราบว่า เดิมนายปรีชากรผู้ตายเป็นคนภูเก็ต เพิ่งจะมีอายุครบ 71 ปีเต็มไปเมื่อวันที่ 9 ส.ค.ที่ผ่านมา เป็นอดีตพนักงานรัฐวิสาหกิจ สังกัดการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เกษียณออกมาได้ราว 10 ปี สาเหตุการฆ่าตัวตายน่าจะมาจากเรื่องปัญหาครอบครัวที่เพิ่งเลิกลากับภรรยาคนปัจจุบัน ก่อนเดินทางจากภูเก็ต มาพักอาศัยอยู่ที่จันทบุรีได้ 1 ปีเศษ มีเงินติดตัวที่อดีตภรรยาแบ่งให้มาเกือบ 1 แสนบาท เมื่อ 2 เดือนก่อนผู้ตายถูกแก็งคอลเซ็นเตอร์หลอกเงินไปกว่า 20,000 บาท ทำให้ผู้ตายเสียใจและน้อยใจ บวกกับปัญหาสะสมมาพร้อมกัน ก่อนหน้านี้เคยเอ่ยว่าอยากฆ่าตัวตาย แต่เพื่อนบ้านห้ามไว้และคอยเป็นกำลังใจให้ ล่าสุด วันที่ 9 ส.ค.ผู้ตายบอกว่าเป็นวันเกิด อยากกินเป็นวันสุดท้าย กระทั่งตลอดทั้งวันที่ 10 ส.ค.เพื่อนบ้านไม่เห็นผู้ตายออกจากบ้านตามปกติ ตกค่ำเข้าไปดูพบผูกคอตายแล้ว

นายตั๊ก (นามสมมติ) เจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยวเรือมีบ้านอยู่ติดกันเล่าว่า ผู้ตายเคยมาขอความช่วยเหลือเรื่องโอนเงินเพราะโอนไม่เป็น ตนมีแอปฯธนาคารอยู่แล้วได้ช่วยโอนเงินให้ ตอนนั้นผู้ตายบอกว่าโอนไปลงทุนทำธุรกิจเสื้อผ้า ตอนผู้ตายบอกว่าต้องส่งสลิปให้เว็บไซต์ สังเกตว่าคนที่ตอบโต้มาไม่ได้ใช้รูปโปรไฟล์ เป็นคน แต่ใช้เป็นรูปอวตาร ได้เตือนไปว่าให้ระวังเป็นพวกแก๊งคอลเซ็นเตอร์ จนเช้าวันที่ 4 ส.ค. ผู้ตายมาบอกว่าถูกแก๊งคอลฯหลอกแล้ว สูญเสียเงินก้อนล่าสุด 20,000 บาท จากรูปการณ์ของแก๊งคอลเซ็นเตอร์มาแบบเดิมๆ แกล้งโอนกำไรมาให้ก่อนล่อให้เหยื่อตายใจ จากนั้นจะเชิญเหยื่อให้ลงทุนหนักขึ้น แต่ไม่สามารถเบิกถอนเงินคืนได้ ต้องให้เติมเงินตามยอดที่กำหนดก่อนถึงจะเบิกเงินได้ แต่ไม่เคยเบิกได้จริง กระทั่งรู้ว่าถูกหลอกทำให้เกิดความเครียดผูกคอตายในที่สุด

ส่วนกรณีนายชัยวุฒิ ศรศรี อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 58 หมู่ 4 ต.ยี่สาร อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม ผูกคอตายใต้สะพานคลองช่อง ถนนดอนจั่น-ยี่สาร หมู่ 4 ต.ยี่สาร อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม พร้อมเขียนจดหมายลาตายระบุถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกลงทุนสูญเงินเกือบ 2 แสนบาท และฝาก “กัน จอมพลัง” ลากคอมิจฉาชีพเข้าคุกด้วย เหตุเกิดวันที่ 9 ส.ค. ความคืบหน้าเวลา 11.00 น.วันที่ 11 ส.ค. นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือกัน จอมพลัง พร้อมนายชัยชนะพงศ์ ศรศรี อายุ 41 ปี พี่ชายผู้ตาย เดินทางไปที่ สภ.ยี่สาร เพื่อติดตามคดี มี พ.ต.อ.ประเสริฐ กัลยาวุฒิพงศ์ รอง ผบก.ภ.จ.สมุทรสงคราม พ.ต.อ.นพพร เริ่มรวย ผกก.สส.ภ.จ.สมุทรสงคราม พ.ต.ท.ศุภกร เจนอนุศาสตร์ สวญ.สภ.ยี่สาร และชุดสืบสวน ลำดับเหตุการณ์ให้ฟัง

ตามแนวทางการสืบสวนสอบสวนสรุปว่า เมื่อวันที่ 22 ก.ค.67 มีเฟซบุ๊กชื่อ Teacher Nooknik ทักมาทำความรู้จักกับผู้ตาย พูดคุยขอไอดีไลน์เข้าไปคุยกันในไลน์ชื่อ “ครูนุ๊กนิ๊ก” ต่อมาวันที่ 3 ส.ค. ชักชวนผู้ตายกดรับงานผ่านแพลตฟอร์ม Ubuy แต่ต้องสำรองทุนเพื่อจะได้ผลตอบแทน วันที่ 4-5 ส.ค. แนะนำให้ผู้ตายพูดคุยกับผู้ใช้บัญชีไลน์ “ติวเตอร์ปุณยนุช” และศูนย์บริการ Ubuy เกี่ยวกับการลงทุน ผู้ตายหลงเชื่อโอนเงินลงทุนไปตามที่บุคคลดังกล่าวแจ้ง รวม 13 ครั้ง เข้าบัญชีธนาคารของกลุ่มมิจฉาชีพ 6 บัญชี ยอดความเสียหายรวม 198,736 บาท

สอบสวนทราบว่าผู้ใช้ชื่อไอดีไลน์ “ครูนุ๊กนิ๊ก” ชื่อ น.ส.อาริยา วิเศษขำ อายุ 30 ปี ที่อยู่ 99 หมู่ 1 ต.นาใน อ.โพนสรรค์ จ.นครพนม ปัจจุบันเฟซบุ๊ก Teacher Noonik ถูกปิดไปแล้ว ส่วนบัญชีม้าทั้ง 6 บัญชี มี น.ส.ศยามล ปล่ำภากรณ์ ธ.กรุงไทย บัญชี 0991447195 โอน 3 ครั้ง น.ส.มนัสนันท์ ปริญจิตย์ ธอส.บัญชี 001911431469 โอน 2 ครั้ง น.ส.พรสินี ใจสุยะ ธ.กรุงศรีอยุธยา บัญชี 110-1-81983-8 โอน 4 ครั้ง น.ส.กรรณิกา สมัครไทย ธอส.บัญชี 001-91-143178-6 โอนครั้งเดียว นายอภิสิทธิ์ ท้าวพา ธ.กรุงไทย บัญชี 662-6-77921-4 โอน 2 ครั้ง และนายนิติกานต์ เจริญราษฎร์ ธ.ทหารไทย บัญชี 921-9-30775-9 โอนครั้งเดียว ชุดสืบสวนกำลังตรวจสอบบัญชีผู้ตาย เฟซบุ๊ก และไอดีไลน์บุคคลที่เกี่ยวข้อง เพื่อสืบสวนข้อเท็จจริงหาตัวผู้กระทำความผิด พร้อมหาพยานหลักฐานเพิ่มเติมมาประกอบคดี

กัน จอมพลัง กล่าวว่า ได้รับการร้องเรียนกรณีคอลเซ็นเตอร์วันละจำนวนมาก เป็นภาพใหญ่ของสังคม แต่เคสนี้ FC ตนผูกคอตาย และเขียนฝากให้จัดการกับมิจฉาชีพที่หลอกลวงด้วย ได้ประสานผู้ที่เกี่ยวข้องจนทราบว่าเป็นแก๊งคอลฯในรูปแบบหนึ่ง ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้ตาย จะเร่งประสาน ผบก.ปอท.เร่งรัดคดีให้

...

นายชัยชนะ พี่ชายผู้ตายกล่าวว่า ในจดหมายลาตาย น้องชายมอบอำนาจให้ตนเป็นผู้จัดการเรื่องแก๊งคอลฯขอสานต่อเจตนารมณ์ที่น้องได้เขียนสั่งเสียไว้แม้จะรู้ว่าไม่ได้เงินกลับคืนมา อย่างน้อยเป็นอุทาหรณ์ให้คนที่ได้เห็นข่าวนี้ได้ระวังตัวไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้กับคนอื่นอีก

อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่