ความหวังสุดท้ายต้องหันไปพึ่งศาลปกครองสูงสุด
วิบากกรรมของ พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล ยังคงวนเวียนอยู่รอบตัวเอง แม้จะเปลี่ยนชื่อเอาเคล็ดเสริมดวงชะตาเพิ่ม “ช.ช้าง” เปรียบเสมือน “ชุบชีวิตใหม่” แต่ไม่อาจรอด “พงหนาม”
คณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการตำรวจ (ก.พ.ค.ตร.) พิจารณาวินิจฉัยปมร้อน พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล ที่ถูก พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ เมื่อครั้งรักษาราชการแทน ผบ.ตร.ลงนามคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน
วินิจฉัยว่า คำสั่ง ตร.ที่ 178/2567 ลงวันที่ 18 เม.ย. 2567 เป็นคำสั่งที่ดำเนินการตามหลักเกณฑ์ วิธีการ ที่กฎหมาย และ กฎ ก.ตร. กำหนด และเป็นการใช้ดุลพินิจที่เหมาะสม
เป็นคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมาย
ตามมติเอกฉันท์เห็นพ้องตรงกันไม่ต่างจากเมื่อครั้งที่ประชุม ก.ตร.นัดพิพากษาความตามที่เจ้าตัวได้ยื่นร้องขอความเป็นธรรม
ก่อนวินิจฉัยยกอุทธรณ์ และยกคำขอกำหนดวิธีการชั่วคราวของผู้อุทธรณ์
ทั้งนี้ หากผู้อุทธรณ์ไม่เห็นด้วยกับคำวินิจฉัยอุทธรณ์ ก.พ.ค.ตร.มีสิทธิฟ้องคดีต่อ “ศาลปกครองสูงสุด”
วิธีการยื่นฟ้องต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ของศาล หรือยื่นฟ้องโดยส่งทางไปรษณีย์ลงทะเบียนภายในระยะเวลา 90 วัน นับแต่วันที่ทราบหรือถือว่าทราบคำวินิจฉัยนี้
มี นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เตรียมนำชื่อเสนอทูลเกล้าฯให้ออกจากราชการตามขั้นตอนอย่างเป็นทางการ
นายพลคนดังถูกไล่ต้อนเดินสู่มุมอับจนเกือบตกกระดาน.
สหบาท
คลิกอ่านคอลัมน์ "ส่องตำรวจ" เพิ่มเติม
...