หากจะเอ่ยความสำเร็จในการทำธุรกิจ ตัวชี้วัดที่ใครหลายคนมองเห็นเป็นอันดับแรกอาจจะเป็นเรื่องความสามารถในการทำกำไร อย่างไรก็ตามในปัจจุบันที่โลกหมุนมาถึงยุคสมัยแห่งการตระหนักรู้ ลำพังความสำเร็จแง่ตัวเลขอย่างเดียวไม่อาจชี้วัดความยอดเยี่ยมในการดำเนินงานขององค์กรได้อีกต่อไป แต่ยังต้องรวมไปถึงการดำเนินธุรกิจอย่างใส่ใจต่อสังคม ชุมชน และสิ่งแวดล้อม เพื่อสร้างโลกที่ยั่งยืนในทุกมิติร่วมกัน
ทั้งนี้หนึ่งในองค์กรชั้นนำของไทยที่มองเห็นความสำคัญของประเด็นดังกล่าวและลงมือทำมาอย่างยาวนานก็คือ บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR ที่ได้มีการนำเอาแนวคิดความยั่งยืน OR SDG มาเป็นส่วนหนึ่งในกลยุทธ์ทางธุรกิจ ประกอบด้วย
S-Small หมายถึง การสร้างโอกาสเพื่อคนตัวเล็ก มุ่งดำเนินธุรกิจควบคู่การยกระดับคุณภาพชีวิตชุมชน
D-Diversified หมายถึง การสร้างโอกาสเพื่อการเติบโตทุกรูปแบบผ่านทุกๆ แพลตฟอร์มของ OR
G-Green หมายถึง การสร้างสังคมสะอาด ผ่านการส่งเสริมธุรกิจสีเขียว และการดำเนินงานที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา OR เดินหน้าตามแนวทางดังกล่าวอย่างเข้มข้นและจริงจัง พร้อมสร้างสรรค์โอกาสเพื่อทุกคนผ่านโครงการต่างๆ มากมาย ก่อให้เกิดผลลัพธ์ทางบวกต่อผู้คน สังคม และประเทศไทยในหลายระดับ โดยหนึ่งในโครงการที่กล่าวได้ว่าเป็นกรณีศึกษาที่น่าสนใจอย่างยิ่งก็คือ “โครงการพัฒนาการปลูกกาแฟอย่างยั่งยืน” ซึ่งนับได้ว่าตอบโจทย์แนวคิด OR SDG ทั้งการสนับสนุนผ่านช่องทางที่หลากหลายของ OR และการใส่ใจสิ่งแวดล้อม โดยเมื่อวันที่ 19-20 กรกฎาคม 2567 ที่ผ่านมา นายดิษทัต ปันยารชุน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และคณะผู้บริหาร OR ได้ลงพื้นที่จังหวัดเชียงรายเพื่อเยี่ยมชมแหล่งเพาะปลูกกาแฟภายในโครงการพัฒนาการปลูกกาแฟอย่างยั่งยืนและมอบความเชื่อมั่นให้แก่เกษตรกรผู้ปลูกกาแฟในพื้นที่ว่าจะรับซื้อผลผลิตในราคาที่เป็นธรรมอย่างต่อเนื่อง และพร้อมที่จะช่วยพัฒนาการปลูกกาแฟในพื้นที่ให้เกิดความยั่งยืน
“โครงการพัฒนาการปลูกกาแฟอย่างยั่งยืน” การขับเคลื่อนโลกให้เป็นสีเขียวที่มาพร้อมการยกระดับคุณภาพชีวิต
โครงการพัฒนาการปลูกกาแฟอย่างยั่งยืน ดำเนินงาน ณ ต.ห้วยชมภู อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย มีเป้าหมายหลักคือการยกระดับคุณภาพชีวิตให้แก่เกษตรกรผู้เพาะปลูกกาแฟให้มีรายได้ที่มั่นคง มีตลาดรับซื้อที่แน่นอน และได้ราคาที่เป็นธรรม ไม่โดนเอารัดเอาเปรียบ ขณะเดียวกัน OR ยังได้มีการพัฒนาความรู้และทักษะการประกอบอาชีพให้เกษตรกรผู้ปลูกกาแฟ เพื่อให้ผลผลิตได้คุณภาพตามมาตรฐานของ Café Amazon ซึ่งผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นคือการยกระดับคุณภาพชีวิตผู้เพาะปลูกในทุกด้าน อีกทั้งด้วยแนวทางที่ OR นำไปถ่ายทอดยังจะมีส่วนช่วยให้เกิดการทำเกษตรที่ใส่ใจธรรมชาติ ช่วยให้สิ่งแวดล้อมดีขึ้นไปพร้อมกัน โดยสองชุมชนที่ OR ได้เข้าไปพัฒนาได้แก่ บ้านปางขอน และ บ้านผาลั้ง
ทางด้านบ้านปางขอน แต่เดิมแล้วที่นี่เป็นชุมชนเกษตรกร ทุกครัวเรือนปลูกกาแฟอะราบิกาเป็นอาชีพหลักมาเป็นเวลานาน ควบคู่กับการทำอาชีพท่องเที่ยว แต่ปัญหาหลักคือชุมชนขาดตลาดรับซื้อผลผลิตที่แน่นอน ทำให้รายได้ไม่มั่นคง ขณะที่บ้านผาลั้งนั้นแต่เดิมเป็นพื้นที่ไม่มีไฟฟ้า ไม่มีอินเทอร์เน็ต เกษตรกรส่วนใหญ่ปลูกลิ้นจี่เป็นอาชีพหลัก แต่ด้วยปัญหาที่ไม่มีผู้รับซื้อแน่นอนเช่นกันทำให้ต้องเปลี่ยนมาปลูกกาแฟอะราบิกา
เมื่อ OR ได้เข้าไปทำงานร่วมกับชุมชนผ่านโครงการพัฒนาการปลูกกาแฟอย่างยั่งยืน ก็ได้มีการดำเนินงานเพื่อพัฒนาในหลากหลายมิติ อาทิ
- จัดอบรมและพัฒนาความรู้ตามสภาพปัญหาจริงของเกษตรกร โดยมีการวิเคราะห์สภาพปัญหาในการปลูกและการผลิตกาแฟให้แก่เกษตรกรแต่ละราย
- ยกระดับกระบวนการปลูก และการแปรรูปให้ได้มาตรฐานของ Café Amazon Standard
- นำผลผลิตมาต่อยอดเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม ช่วยประชาสัมพันธ์เพิ่มเติม พร้อมจัดจำหน่ายในร้าน Café Amazon เช่น ผลิตภัณฑ์กาแฟดริปและกาแฟแคปซูลปางขอนและผาลั้ง ซึ่งกาแฟปางขอนนั้นได้รับความนิยมเป็นอันดับต้นๆ ของ Café Amazon เลยทีเดียว
จากการทำงานร่วมกันอย่างจริงจังทำให้ทั้งสองชุมชนค่อยๆ เติบโตอย่างเข้มแข็ง ปัจจุบันชุมชนบ้านปางขอนมีเกษตรกรเข้าร่วมโครงการ 74 ราย เพาะปลูกกาแฟอะราบิกาบนพื้นที่ 1,400 ไร่ โดยมี OR เป็นผู้รับซื้อผลผลิตอย่างต่อเนื่อง รวม 630 ตัน ซึ่งเป็นมูลค่าสูงถึง 83 ล้านบาท ขณะที่ชุมชนบ้านผาลั้งปัจจุบันมีเกษตรกรเข้าร่วมโครงการ 92 ราย มีพื้นที่เพาะปลูก 1,000 ไร่ สามารถส่งมอบผลผลิตให้ OR ได้ 465 ตัน รวมเป็นมูลค่า 68 ล้านบาท
รวมแล้วทั้งสองชุมชนสามารถสร้างรายได้หลังจากเข้าร่วมโครงการ (ก.ย. 61 - ปัจจุบัน) เป็นมูลค่าสูงถึง 151.5 ล้านบาท จากการส่งมอบผลผลิต 1,095 ตัน
โดยในการลงพื้นที่ครั้งนี้ นายดิษทัต ปันยารชุน ได้กล่าวกับพี่น้องผู้ปลูกกาแฟทั้งสองชุมชนว่า “ในนามของ OR ผมรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้มีโอกาสมาพบปะกับทุกท่านในวันนี้ OR มีแนวทางการดำเนินธุรกิจที่ให้ความสำคัญกับการสร้างประโยชน์ให้กับสังคม ชุมชน และสิ่งแวดล้อม ควบคู่กับการดำเนินธุรกิจเพื่อการยกระดับคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ของชุมชน”
“โครงการพัฒนาการปลูกกาแฟอย่างยั่งยืนของ OR มีความตั้งใจที่จะผลักดันให้ชุมชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น เติบโตอย่างเข้มแข็งและยั่งยืน เพื่อให้เกษตรกรมีตลาดรับซื้อผลผลิตกาแฟที่แน่นอน มีรายได้ที่มั่นคง ด้วยระบบราคาที่เป็นธรรม พร้อมมีทักษะความรู้ในการปลูกกาแฟอย่างมีมาตรฐาน ส่งเสริมให้เกษตรกรมีส่วนร่วมในการพัฒนาและพึ่งพาตนเอง”
“ผมอยากให้ทุกคนมั่นใจว่า OR จะเป็นตลาดรับซื้อผลผลิตให้กับเกษตรกรบ้านปางขอนและบ้านผาลั้ง ควบคู่กับการพัฒนาความรู้ในการประกอบอาชีพ พร้อมทั้งช่วยประชาสัมพันธ์กาแฟบ้านปางขอนและบ้านผาลั้งให้เป็นที่รู้จัก เพื่อสร้างคุณภาพชีวิตดีให้กับคนในชุมชนต่อไปครับ”
นอกเหนือไปจากการลงพื้นที่เพาะปลูก OR ยังได้มอบเงินปรับปรุงห้องสุขาและมอบเครื่องอุปโภคบริโภค เช่น ข้าวสาร อาหารสำเร็จรูป เครื่องปรุงรส น้ำมันปรุงอาหาร สำหรับประกอบอาหารกลางวันของนักเรียนของโรงเรียนบ้านผาลั้ง ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนภายใต้โครงการฯ เพื่อตอกย้ำความมุ่งมั่นยกระดับคุณภาพชีวิตแก่ชุมชนอย่างยั่งยืน
“โครงการไทยเด็ด” อีกหนึ่งการขับเคลื่อนสำคัญตามแนวคิด OR SDG
ทั้งนี้การเดินทางของ OR เพื่อพบปะเหล่าผู้อยู่ต้นธารของผลผลิตที่มีคุณภาพไม่ได้สิ้นสุดเพียงแค่บ้านปางขอนและบ้านผาลั้ง นายดิษทัต ปันยารชุน ยังได้มีโอกาสเดินทางต่อไปยัง “วิสาหกิจชุมชนเกษตรรุ่นใหม่หัวใจอินทรีย์” ผู้ผลิตข้าวออแกนิค “ตราคุณนาย” ที่ได้รับการคัดเลือกนำสินค้าจัดจำหน่ายภายใต้โครงการไทยเด็ด
“โครงการไทยเด็ด” นับเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จที่ OR ยึดมั่นตามแนวคิด OR SDG ที่มุ่งหวังมอบโอกาสให้คนตัวเล็ก ด้วยการเฟ้นหาผลิตภัณฑ์จากกลุ่มวิสาหกิจชุมชน นำมาช่วยพัฒนาและเพิ่มช่องทางการจำหน่ายในสถานีบริการ PTT Station ด้วยมุ่งหวังส่งเสริมให้วิสาหกิจชุมชนได้มีโอกาสต่อยอดองค์ความรู้พื้นบ้าน ยกระดับสินค้าเพื่อเข้าสู่ระบบการผลิตที่มีมาตรฐาน นำไปสู่การเพิ่มขึ้นของมูลค่าสินค้า การเพิ่มขึ้นของอัตราการจ้างงาน ซึ่งล้วนมีส่วนช่วยให้ท้องถิ่นมีความแข็งแกร่งและมั่นคงมากขึ้น
โดยโครงการไทยเด็ดได้สนับสนุนข้าวออแกนิค ตราคุณนาย ตั้งแต่เดือนกันยายนปี 2566 รวมกว่า 300 กิโลกรัม ซึ่งได้เพิ่มช่องทางการจำหน่ายให้ข้าวออแกนิค ตราคุณนาย ใน PTT Station ทั่วประเทศ และจำหน่ายในระบบ Thaidet e-Order อีกด้วย
จากเรื่องราวการเดินทางเยือนเชียงรายเพื่อติดตามและเยี่ยมชมโครงการพัฒนาการปลูกกาแฟอย่างยั่งยืน” และแหล่งผลิตสินค้าโครงการไทยเด็ด ปฏิเสธไม่ได้เลยว่านี่คือการตอกย้ำถึงการดำเนินธุรกิจที่มุ่งเน้นให้ความสำคัญกับผู้คน สังคม และสิ่งแวดล้อมอย่างแท้จริง ผ่านการ “ให้โอกาส” ตามแนวคิด OR SDG โดยทั้งสองโครงการต่างเผยให้เห็นความตั้งใจจริงในการเข้าไปมีส่วนร่วมเพื่อผลักดันให้เกิดการพัฒนา ต่อยอดนำไปสู่การเพิ่มมูลค่าผลผลิต สามารถขายสินค้าได้ในราคาเป็นธรรม ทำให้เกษตรกรผู้เพาะปลูกมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นกว่าเดิม สามารถหาเลี้ยงชีพได้อย่างยั่งยืนสืบไป ขณะเดียวกันในทุกๆ ครั้งเราแวะเวียนเข้าไปเติมพลังที่ PTT Station ร้าน Cafe Amazon ก็เหมือนเราได้เป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนผู้ผลิตตัวจริง ไปพร้อมกับการเป็นหนึ่งในฟันเฟืองสำคัญที่ช่วยกันขับเคลื่อนโลกไปสู่ความยั่งยืนร่วมกันกับ OR
#PRnews