ก.พ.ค.ตร.ชี้คำสั่งให้ “บิ๊กโจ๊ก” ออกจาก ราชการเป็นการใช้ดุลพินิจที่เหมาะสม เป็นคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมายให้ยกอุทธรณ์และคำร้องขอคุ้มครองชั่วคราว ด้านเจ้าตัวให้สัมภาษณ์ยังไม่ทราบผล ยืนยันหากผลออกมาเป็นลบจ่อฟ้องศาลปกครองสูงสุดภายใน 90 วัน

กรณี พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร.และ พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล อดีตรอง ผบ.ตร. เข้าชี้แจงด้วยวาจาต่อคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการตำรวจ (ก.พ.ค.ตร.) เมื่อวันที่ 30 ก.ค.ที่ผ่านมา ปมฝ่ายหลังอุทธรณ์คำสั่งที่ฝ่ายแรกเมื่อครั้งเป็น รรท.ผบ.ตร.เซ็นให้ออกจากราชการท่ามกลางใจจดจ่อของกองเชียร์ทั้ง 2 ฝ่าย

ล่าสุด ก.พ.ค.ตร. ชี้คำสั่งให้ “บิ๊กโจ๊ก” ออกจากราชการชอบด้วยกฎหมาย เมื่อวันที่ 6 ส.ค. นายธวัชชัย ไทยเขียว หนึ่งในคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการตำรวจ หรือ ก.พ.ค.ตร. และรองโฆษก ก.พ.ค.ตร. โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัวเกี่ยวกับการพิจารณาวินิจฉัยอุทธรณ์ร้องทุกข์ของ พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล อดีต รอง ผบ.ตร. ที่ถูกสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อนว่า เมื่อวันที่ 5 ส.ค. คณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการตำรวจ (ก.พ.ค.ตร.) ได้ประชุมพิจารณาวินิจฉัยคดีที่เป็นที่สนใจและมีคำวินิจฉัยเรื่องอุทธรณ์ของ พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. โดยส่งคำวินิจฉัยไปให้ผู้อุทธรณ์และคู่กรณีในอุทธรณ์ทราบ ปรากฏหลักฐานว่าคู่กรณีทั้งสองฝ่ายได้รับคำวินิจฉัยแล้ว

พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล ได้อุทธรณ์ว่าคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ 178/2567 ลงวันที่ 18 เมษายน 67 ที่สั่งให้ผู้อุทธรณ์ออกจากราชการไว้ก่อน เป็นคำสั่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายขอให้คณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการตำรวจ พิจารณาและวินิจฉัยให้เพิกถอนคำสั่งดังกล่าว และมีคำขออื่นๆที่เกี่ยวข้อง

...

เนื่องจากกรณีนี้เป็นที่สนใจของประชาชน มีการนำเสนอความเห็นผ่านสื่อสารมวลชนจำนวนมาก โดยมีความเห็นที่หลากหลายแตกต่างกันทั้งในข้อกฎหมายและข้อเท็จจริงอย่างกว้างขวาง ก.พ.ค.ตร.ได้พิจารณาวินิจฉัยตามอำนาจหน้าที่ตามที่กฎหมายบัญญัติ และตามกฎ ก.พ.ค.ตร.ว่าด้วยอุทธรณ์และการพิจารณาวินิจฉัยอุทธรณ์ พ.ศ.2567 ซึ่งกำหนดให้ใช้วิธีการไต่สวนและได้ดำเนินการแสวงหาข้อเท็จจริง โดยคู่กรณีทั้งสองฝ่ายได้ทราบข้อเท็จจริงอย่างเพียงพอ และมีโอกาสได้โต้แย้งแสดงพยานหลักฐานของตนแล้ว

ข้อเท็จจริงตามอุทธรณ์ คำขอคุ้มครองชั่วคราว คำชี้แจงของผู้อุทธรณ์ คำแก้อุทธรณ์ของคู่กรณีในอุทธรณ์ คำชี้แจงและเอกสารที่เกี่ยวข้องของคู่กรณีทั้งสองฝ่าย และการแถลงด้วยวาจาของคู่กรณีทั้งสองฝ่ายรับฟังได้ว่า ผู้อุทธรณ์ได้ถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิดอาญา และถูกตั้งกรรมการสอบสวนวินัยอย่างร้ายแรง คู่กรณีในอุทธรณ์ ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาผู้ออกคำสั่งอาศัยอำนาจตามพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2565 มาตรา 105 มาตรา 107 มาตรา 1331 และมาตรา 179 ประกอบกฎ ก.พ.ค.ตร. ว่าด้วยการพักราชการและออกจากราชการไว้ก่อน พ.ศ.2547 ออกคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน

วินิจฉัยว่า คำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่ 178/2567 ลงวันที่ 18 เมษายน 2567 เป็นคำสั่งที่ดำเนินการตามหลักเกณฑ์ วิธีการ ที่กฎหมาย และกฎ ก.ตร.กำหนด และเป็นการใช้ดุลพินิจที่เหมาะสม จึงเป็นคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมาย วินิจฉัยยกอุทธรณ์และยกคำขอกำหนดวิธีการชั่วคราวของผู้อุทธรณ์ ทั้งนี้ หากผู้อุทธรณ์ไม่เห็นด้วยกับคำวินิจฉัยอุทธรณ์ของ ก.พ.ค.ตร. มีสิทธิฟ้องคดีต่อศาลปกครองสูงสุด โดยวิธีการยื่นฟ้องต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ของศาลหรือยื่นฟ้องโดยส่งทางไปรษณีย์ลงทะเบียนภายในระยะเวลา 90 วันนับแต่วันที่ทราบหรือถือว่าทราบคำวินิจฉัยนี้

ด้าน พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล อดีตรอง ผบ.ตร.กล่าวว่า ยังไม่ทราบว่าผลออกมาเป็นอย่างไร ยังไม่ได้รับผลคำวินิจฉัยอยู่ระหว่างรอและไม่ทราบว่าเมื่อวานนี้ ก.พ.ค.ตร.ประชุมลับจนถึงเกือบเที่ยงคืนยืนยันหากผลออกมาเป็นลบ หรือคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อนชอบด้วยกฎหมายจะยื่นศาลปกครองสูงสุดต่อภายใน 90 วัน

เย็นวันเดียวกัน สำนักงานป้องกันและปราบปราม การฟอกเงิน (ปปง.) ส่งเอกสารแถลงผลการประชุมคณะกรรมการธุรกรรมที่ได้ดำเนินการกับทรัพย์สิน รายคดีนายณัฐวัตร พิมพ์สวัสดิ์ กับพวก ระบุข้อความว่า ในการประชุมคณะกรรมการธุรกรรม ครั้งที่ 10/2567 วันที่ 6 สิงหาคม 2567 มีคดีที่อยู่ในความสนใจของประชาชน รายคดีนายณัฐวัตร พิมพ์สวัสดิ์ กับพวก ซึ่งเป็นการอายัดทรัพย์สินเพิ่มเติม ในคดีความผิด มูลฐานเกี่ยวกับการจัดให้มีการเล่นการพนันทางสื่อ อิเล็กทรอนิกส์และความผิดฐานฟอกเงิน โดยมีการดำเนินคดีกับกลุ่มบุคคลที่เกี่ยวข้องกับเครือข่ายเว็บพนันออนไลน์ https:www.betflixroyal.com และ https:www.betflikroyal.net ซึ่งคณะกรรมการธุรกรรมเคยมีคำสั่งให้ยึดและอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดไว้ชั่วคราวแล้ว 2 ครั้ง (คำสั่ง ย.2/2567 และ ย.80/2567) รวมทรัพย์สินที่ ดำเนินการแล้วกว่า 250 รายการ มูลค่ากว่า 109 ล้านบาท

วันนี้ที่ประชุมคณะกรรมการธุรกรรมมีมติเอกฉันท์ว่า เมื่อข้อเท็จจริงปรากฏว่ามีการนำเงินที่ เกี่ยวกับการกระทำความผิดมูลฐานไปชำระเบี้ยประกัน บางส่วน ตามสัญญาประกันชีวิตของ พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล และภริยา และต่อมาผู้เอาประกันได้เวนคืนกรมธรรม์ประกันชีวิต ดังนั้นจึงถือได้ว่าเงินที่ได้จาก การเวนคืนกรมธรรม์ดังกล่าวบางส่วนนั้น เป็นทรัพย์สิน ที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดในการนี้ จึงให้อายัดเงิน ในบัญชีเงินฝากของ พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ และภริยา รวม 3 รายการ มูลค่าประมาณ 4.8 แสนบาท ไว้เป็นการ ชั่วคราว ทั้งนี้ ตามมาตรา 48 วรรคหนึ่ง แห่งพระราช บัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542

...

อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่