สักสัปดาห์กว่าๆเห็นจะได้ มีรายงานข่าวว่า บริษัท Apple ผู้ผลิต ไอโฟน และไอแพด ได้จัดทำโฆษณาขึ้นมาชิ้นหนึ่งเพื่อออกเผยแพร่ทางสื่อออนไลน์ต่างๆ โดยใช้ประเทศไทยเป็นฉากและสถานที่ถ่ายทำ

ผมยังไม่มีโอกาสเข้าไปดูในช่วงแรกๆ แต่ก็อ่านเจอข่าวว่าโฆษกรัฐบาลไทยออกมาแถลงแสดงความชื่นชม Apple อย่างมาก และย้ำว่าท่านนายกฯเศรษฐาดูโฆษณาชิ้นนี้แล้ว ต้องขอขอบคุณ Apple ที่ใช้ประเทศไทยเป็นสถานที่ในการถ่ายทำ

เผอิญว่าผมติดภารกิจอะไรหลายๆอย่างในช่วงนี้ทำให้มีเวลาดูยูทูบน้อยลง จึงยังไม่มีโอกาสเข้าไปดูจนแล้วจนรอด

แต่แล้วอีกเพียงไม่กี่วัน ก็พลันมีข่าวฮือฮาขึ้นมาว่า มีการถกเถียงแบบ “ดราม่า” กันขนานใหญ่ในโลกออนไลน์ เมื่อสาวก Apple ที่เข้าไปดูโฆษณาที่ว่านี้แล้ว เกิดความรู้สึกว่า Apple ไม่ให้เกียรติประเทศ ไทยเลย หรืออาจจะใช้คำว่า “เหยียด” ประเทศไทยก็ยังได้ด้วยซ้ำไป

หลายๆรายโกรธมากถึงกับโพสต์ว่า แบบนี้ต้องสั่งสอน

แต่สำหรับสาวกที่ยังเหนียวแน่นอยู่ ก็ออกมาโต้แทนให้ โดยบอกว่า แม้ส่วนใหญ่ทั้งภาพและเรื่อง และฉากที่ออกมาจะไม่สู้ดี แต่จุดเด่นที่สุดของโฆษณาที่สรุปว่าบริษัทสหรัฐฯที่ต้องการจะซื้อกล่องไปบรรจุสินค้า 500,000 กล่อง ใน 1 สัปดาห์แต่โรงงานที่สหรัฐฯทำไม่ได้ จึงส่งคนมาหาในเมืองไทย และโรงงานไทยก็ทำได้ นี่ต่างหากที่เป็น “หัวใจ” ของเรื่อง

มิหนำซ้ำเมื่อบริษัทแม่สั่งเพิ่มเติมว่าเอาอีก 1 ล้านชิ้นภายใน 6 วัน และพนักงานก็ไปหาได้ที่ “จังหวัดระยอง” นั้นน่าจะเป็นการยกย่องประสิทธิภาพทางการผลิตของอุตสาหกรรมไทยเราโดยตรง

เขามีการถ่ายภาพโรงงานที่ระยองให้เห็นว่าไฮเทคมาก น่าจะเป็นการแสดงให้เห็นว่า Apple มองประเทศไทยในแง่ดี

...

แต่ทางฝ่ายที่มองว่า “เหยียด” ก็ยังโต้ว่า มีการแสดงศักยภาพอุตสาหกรรมไทยเพียงฉากเดียวเท่านั้น อีก 80-90 เปอร์เซ็นต์ที่เหลือมีแต่ภาพแย่ๆของประเทศไทยทั้งสิ้น

ตั้งแต่ ตม. ตั้งแต่กระเป๋าหายที่สนามบิน รวมทั้งภาพห้องพักแย่ๆ การเดินทางด้วยยานพาหนะที่ล้าสมัยเหมือนประเทศไทยตกยุค

วิเคราะห์ทั้งหมดแล้วถือว่าโฆษณาชิ้นนี้มีผลกระทบในเชิงลบต่อประเทศไทย โดยเฉพาะต่อ “อุตสาหกรรมท่องเที่ยว” โดยตรง

ล่าสุดมียูทูบเบอร์คนดังรายหนึ่งเจ้าของฉายา “ฝรั่งพูดไทย” คุณ Stuart Jay Raj ฝรั่งเชื้อสายออสเตรเลียที่รักเมืองไทย ออกมาโต้แอปเปิลแรงมาก กล่าวหาว่า “เบ่งอุจจาระ” ใส่หน้าคนไทย

คุณสจ๊วตพูดไปโกรธแทนคนไทยไปและสรุปว่ายอมไม่ได้กับโฆษณาชิ้นนี้ ถึงขนาดเอ่ยออกมาประโยคหนึ่งว่า แกอาจจะต้องเอา “ไอโฟน” นี่แหละไป “เช็ดก้น” แก เป็นการล้างแค้นแทนคนไทย

ฟังคนไทยโต้กันไปโต้กันมา ผมก็รู้สึกเฉยๆ แต่พอฟังฝรั่งมาช่วยโต้ ทำให้ผมอยู่นิ่งไม่ได้ ต้องไปเข้ายูทูบดูโฆษณาชิ้นที่ว่ากับเขาบ้าง ปรากฏว่ายอดวิว ณ นาทีที่ผมเข้าไปดูสูงถึง 5 ล้านเศษๆเข้าไปแล้ว

ถือว่าดูเยอะพอสมควรและถ้าเสียหายก็คงจะเสียหายไปพอสมควร

ปกติผมเป็นคนชอบล้อคนอื่นๆ และสไตล์การเขียนของผมในอดีตก็ล้อข้าราชการ ล้อนักการเมือง ล้อเหตุการณ์บ้านเมืองมาตลอด และก็เรียกเสียงฮาได้มาก เมื่อ 30-40 ปีที่แล้ว

ต่อมาผมก็รู้สึกว่าโลกเราเปลี่ยนไปมาก การเอา “จุดอ่อน” หรือ “ข้อด้อย” ของคนอื่นมาล้อเลียน กลายเป็นเรื่องไม่เหมาะสม และกลายเป็นการ “เหยียด” ที่ภาษาสมัยใหม่เรียกว่า “บูลลี่”

การเขียนวิจารณ์แบบตรงไปตรงมา เช่น “ดี” ก็บอกว่าดี...“ไม่ดี” ก็บอกว่าไม่ดี โดยอ้างเหตุผลไปด้วย จะเป็นที่ยอมรับของสังคมมากกว่า

ดังนั้น การที่ Apple เอา “จุดด้อย” ของประเทศไทย ซึ่งขณะนี้ก็อาจมีอยู่บ้างแต่ไม่มากมายนักมาเป็นมุก “ทั้งเรื่อง” จึงเกินไป ทำให้เจตนาที่อาจจะให้ “ขำขัน” กลายเป็นเรื่องเหยียดๆอย่างที่ว่า

ผมอาจไม่แรงเหมือนฝรั่งพูดไทย (คุณ Stuart) แต่ก็รู้สึกเคืองๆเหมือนกันที่ Apple เอาจุดอ่อนของประเทศผม และสังคมผมมาล้อเลียนเกือบ 10 นาทีในโฆษณาชิ้นนี้

ขอโหวตให้กับฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยครับ และถ้าเป็นไปได้ก็อยากจะให้ Apple ทำอะไรสักอย่างที่แสดงว่า รู้สึกผิดและควรขอโทษประเทศไทย และคนไทย เช่นเดียวกับโฆษณาไอแพดที่โดนชาวโลกตำหนิ เมื่อไม่นานมานี้...สรุปอย่างนี้ก็แล้วกันครับ.

“ซูม”

คลิกอ่านคอลัมน์ "เหะหะพาที" เพิ่มเติม