เมื่อวันอาทิตย์ที่ 28 กรกฎาคม 2567 ซึ่งตรงกับวันมหามงคลเฉลิมฉลอง 6 รอบพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 นั้น ผมแวบไปที่ศูนย์การค้าเดอะมอลล์ ไลฟ์สโตร์ บางกะปิ ห้างข้างบ้านผมเพื่อรับประทานอาหารกลางวันร่วมกับลูกๆหลานๆที่แวะมาเยี่ยม

ก็ปรากฏว่า นอกจากกลุ่มครอบครัวผม 6-7 คนแล้ว...ยังมีพี่น้องประชาชนมาเดินห้างและมาอุดหนุนโซนอาหาร ซึ่งอยู่ล่างสุดของศูนย์การค้าแน่นขนัดกว่าทุกๆวัน

ที่สำคัญมีนักท่องเที่ยวเข้ามาแจมในจำนวนหนาตา โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจีนและนักท่องเที่ยวจากตะวันออกกลาง ซึ่งไม่น่าเชื่อว่าจะหลงมาถึงศูนย์การค้า “ชานเมือง” อย่างเดอะมอลล์ บางกะปิแห่งนี้

แสดงว่านักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเที่ยวประเทศไทยทุกวันนี้ กระจัดกระจายไปพักตามจุดต่างๆของ กทม.มากพอสมควร ทำให้เกิดการกระจายรายได้ไปยังเขตต่างๆมากขึ้น แทนที่จะกระจุกอยู่ในย่านท่องเที่ยวใจกลางเมืองเพียงอย่างเดียวอย่างยุคก่อนๆ

จากการที่ผู้คนมาเดินแน่น เดอะมอลล์ ไลฟ์สโตร์ บางกะปิ ดังกล่าว เป็นการยืนยันข้อมูลและภาพที่ผมได้พบเห็นด้วยตาผมเองในช่วงวันหยุดยาวเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบที่ผ่านมานี้อีกครั้งหนึ่งว่า นักท่องเที่ยวต่างประเทศเดินทางเข้ามาบ้านเราเยอะมาก

เมื่อวันศุกร์ที่แล้วนี่เอง “ยูทูบเบอร์” สายท่องเที่ยวหลายรายเผยแพร่ภาพข่าวออกมาตรงกันว่า “สนามบินสุวรรณภูมิ” แน่นเอี้ยด โดยเฉพาะในช่วงบ่ายๆเย็นๆนักท่องเที่ยวหลั่งไหลออกมาจาก ตม. และศุลกากรสู่ลานด้านนอกเต็มไปหมด โดยเฉพาะประตูทางออกหมายเลข 4

อีกช่องเป็นของ “ยูทูบเบอร์ลาว” ที่มาอยู่ในเมืองไทยและจัดทำช่องยูทูบเที่ยวโน่นเที่ยวนี่ เพื่อให้บริการพี่น้องชาวลาวทั้งในบ้านเราและที่ สปป.ลาว...พาดหัวว่า “โอ้โห! นี่แค่ Low Season นะ นักท่องเที่ยวยังหลั่งไหลมาเที่ยวเมืองไทยมากกว่าปีท่องเที่ยวบ้านผม”

...

จากนั้นก็จับภาพเหตุการณ์เมื่อเย็นวันศุกร์ที่ 26 กรกฎาคม ที่บริเวณ “ริเวอร์พาร์ค” หน้า ห้างไอคอนสยาม ริมเจ้าพระยา ที่เห็นแล้วก็ต้องเชื่อพาดหัวข่าวของเขาทันที เพราะผู้คนมาดูน้ำพุชุด “ระบำสายนํ้า” ยืนบ้างนั่งบ้าง แน่นเอี้ยดจน “พี่บ่าวลาว” ต้องตะโกนคำว่า โอ้โห! โอ้โฮ! นักท่องเที่ยวมาจากไหนกันนี่ไม่หยุดปาก

สำหรับห้างที่ผมไปเห็นด้วยสายตาผมเองอีกห้าง ได้แก่ “สยามพารากอน” เจ้าเก่าที่ผมชอบเป็นพิเศษ เพราะนั่งรถไฟฟ้าไปมาสะดวก ปรากฏว่าเมื่อวันเสาร์ที่ 27 กรกฎาคม เวลา 6 โมงเย็น ก็อยู่ในสภาวะ “ห้างแทบแตก” เช่นกัน

ผมได้รับเชิญจากน้องๆฝ่ายประชาสัมพันธ์ของ เวิร์คพอยท์ ให้ไปดูละครมิวสิคัลเรื่อง “นิทานหิ่งห้อย” ที่โรงละคร เคแบงก์สยามพิฆเนศ ที่อยู่ ณ บริเวณสยามสแควร์วัน

เผอิญผมต้องไปอาศัยจอดรถที่ สยามเซ็นเตอร์ จึงต้องเดินข้ามฟากโดยผ่านทางเข้าของสถานีรถไฟฟ้า BTS สยาม ซึ่งปกติก็สามารถเดินผ่านลานน้ำพุหน้าสยามพารากอนไปขึ้นบันไดเลื่อนเข้าสถานีได้เลย

แต่เนื่องจากฝนตกหนัก ผมจึงถูกบังคับให้เดินผ่านอุโมงค์กันฝนที่ห้างในเครือสยาม พิวรรธน์ จัดไว้สำหรับเดินทะลุถึงกันเห็น...แล้วก็ตกใจเพราะมีผู้คนเข้าคิวที่จะเดินเข้าอุโมงค์หลบฝนยาวเหยียด

ต้องเดินแบบตัวลีบอยู่พักใหญ่กว่าจะพ้นอุโมงค์ และไปเข้าห้างสยามพารากอนได้สำเร็จ

คราวนี้สะดุ้งกำลังสองเลยครับ เมื่อเห็นผู้คนในห้าง สยามพารากอน แน่นเกือบทุกตารางนิ้ว และระหว่างผมขึ้นบันไดเลื่อนบ้าง ลงบันไดเลื่อนบ้าง เพื่อจะไปยังฝั่ง “สยามสแควร์วัน” นั้น...ก็เห็นแต่ศีรษะนักท่องเที่ยวยั้วเยี้ยไปทั้งห้าง สยามพารากอน

นี่คือภาพบางภาพของประเทศไทย โดยเฉพาะใน กทม.ที่ผมพบและสัมผัสเมื่อวันหยุดยาว 3 วัน เนื่องในโอกาส เฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 6 รอบ ที่ผ่านมา

แม้ตัวเลขเศรษฐกิจส่วนรวมของเราจะซบเซาแค่ไหน แต่อย่างน้อยก็ยังมีบางธุรกิจ (โดยเฉพาะท่องเที่ยว) ที่ยังเป็น “เสาหลัก” ในการประคับประคอง ประเทศไทยของเราให้ผ่านช่วงเวลาอันยากลำบากช่วงนี้

ผมเห็นด้วยกับ “ยูทูบเบอร์ลาว” ที่ผมอ้างถึงเมื่อตอนต้นคอลัมน์ และขอนำมาทิ้งท้ายอีกครั้งด้วยสำนวนของผมเองว่า

นี่ขนาด Low Season แถมฝนตกด้วยนะเนี่ย นักท่องเที่ยวยังแน่นห้างเมืองไทยอย่างที่เห็น...ถึงช่วง High Season ปลายๆปีจะแน่นขนาดไหน มาช่วยกันลุ้นเอาใจช่วยประเทศไทยของเราด้วยนะครับ ให้ทะลุเป้าตามที่คาดหวังไว้ทุกประการ.

“ซูม”

คลิกอ่านคอลัมน์ "เหะหะพาที" เพิ่มเติม