ผมเพิ่งได้รับ “จดหมายข่าว” จากองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ก่อนเขียนต้นฉบับวันนี้สัก 4–5 นาทีเห็นจะได้...อ่านปุ๊บตัดสินใจเขียนปั๊บทันที เพราะกว่าจะลงตีพิมพ์ก็วันศุกร์ที่ 26 กรกฎาคมโน่นแล้ว
ขืนชักช้าจะไม่ทันงานใหญ่ “ครั้งหนึ่งในชีวิต” ที่รัฐบาลและพี่น้องประชาชนร่วมกันจัดขึ้น ณ บริเวณท้องสนามหลวง และใกล้เคียง... ซึ่งทาง ขสมก. ได้ขันอาสาเสนอตัวมาร่วมอำนวยความสะดวกแก่พี่น้องประชาชนที่จะไปร่วมงานนี้ด้วยความเต็มใจ
เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า ณ วันที่ 28 กรกฎาคม 2567 อันเป็น วันมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 นั้น จะมีพิธีเฉลิมฉลองด้วยการจัดงานใหญ่บ้างเล็กบ้างตามความสามารถของแต่ละชุมชนและบุคคลขึ้นทั่วประเทศ
แต่ “งาน” ที่ถือว่ามีความสำคัญสูงสุดและเป็นศูนย์รวมของพี่น้องชาวไทยทั้งภายในประเทศ หรือที่อยู่ต่างประเทศทั่วโลก...ก็คือ “พิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล” ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวงนั่นเอง
โดยพสกนิกรภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี ตลอดจนบุคคลสำคัญทั้งภาครัฐภาคเอกชนจะร่วมกันร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี ในท่ามกลางแสงเทียนนับแสนเล่มที่สว่างไสวอยู่ในมือของพี่น้องชาวไทยที่ไปรวมตัวกันอย่างเนืองแน่น
ในขณะที่พี่น้องชาวไทยจากทุกจังหวัดก็จะจุดเทียนด้วยเช่นกัน ในวินาทีเดียวกัน พร้อมกับร้องเพลงสรรเสริญพระบารมีอย่างพร้อมเพรียง ณ ศาลากลางจังหวัด
รวมทั้งพี่น้องชาวไทยในต่างประเทศที่มีช่วงเวลาใกล้เคียงกัน ก็จะมีพิธีการในลักษณะเดียวกัน ณ สถานทูตหรือสถานกงสุลต่างๆ
นับเป็นประเพณีจากใจของชาวไทย สืบเนื่องมาตั้งแต่รัชกาลก่อนๆ จนถึงรัชกาลปัจจุบัน...และสำหรับปีนี้ซึ่งเป็นปีมหามงคล 72 พรรษา จึงได้จัดขึ้นอย่างสมพระเกียรติ ทั้งพระราชพิธีและราษฎร์พิธี รวมทั้งที่มณฑลพิธีท้องสนามหลวงดังกล่าว
...
เป็นที่มาที่ไปของการเสนอตัวเข้ามาอำนวยความสะดวกของ ขสมก. ภายใต้การกำกับดูแลของท่านรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม นางมนพร เจริญศรี ด้วยการจัดรถเมล์สำหรับการเดินทางโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆถึง 5 สายด้วยกัน ได้แก่
1.อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ-สนามหลวง, 2.สายใต้ใหม่-สนามหลวง, 3.หมอชิต 2–สนามหลวง, 4.วงเวียนใหญ่–สนามหลวง และ 5.วิ่งเป็นวงกลม ไปรอบๆ สนามหลวง ท่าช้าง–ท่าเตียน
รถเมล์ฟรีทั้ง 5 สายนี้จะมี 2 วันครับ เพราะนอกจากจะมีวัตถุประสงค์ที่จะอำนวยความสะดวกให้แก่การไปร่วมพิธี “จุดเทียนถวายพระพร ชัยมงคล” ในค่ำคืนวันที่ 28 กรกฎาคมแล้ว ยังมีความประสงค์จะให้พี่น้องประชาชนเดินทางไปซึมซับบรรยากาศอื่นๆด้วย
โดยเฉพาะการไปชมเรือพระที่นั่งตามโบราณราชประเพณีถึง 3 ลำ อันได้แก่ เรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์, เรือพระที่นั่งนารายณ์ทรงสุบรรณ รัชกาลที่ 9 และ เรือพระที่นั่งอนันตนาคราช ที่จะจอดอยู่ในแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณท่าราชวรดิฐ เดินจากสนามหลวงไปอีกนิดเดียวเท่านั้น
กองทัพเรือแจ้งให้ทราบแล้วว่าจะมีการแสดง “เห่เรือ” เป็นกรณีพิเศษ ด้วยการแต่งตัวเต็มยศของฝีพายประจำเรือพร้อมกาพย์เห่เรือที่ประพันธ์ถวายเนื่องในพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ เป็นการเฉพาะ
จะจัดแสดงรวม 2 วัน คือ 28-29 กรกฎาคม ตั้งแต่ 15.00 น. เป็นต้นไป พร้อมด้วยนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติที่กองทัพเรือจัดขึ้น ณ บริเวณ ท่าราชวรดิฐ เช่นกัน
ผมต้องขอขอบคุณท่านรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม และ ขสมก.ที่เผยแพร่ข่าวนี้มาให้ทราบ พร้อมทั้งขันอาสาจัดรถเมล์ฟรีมาให้พี่น้องสามารถเดินทางไปสนามหลวงได้โดยสะดวกถึง 5 สาย
ใครไม่เคยขึ้นรถเมล์ลองไปขึ้นดูนะครับ ชวนลูกๆ หลานๆไปขึ้นด้วย เพราะเท่าที่ดูกราฟิกประกอบข่าว เห็นวาดเป็น ขสมก.สีแดง ที่ผมไม่แน่ใจว่าต่อไปจะโดนปฏิรูปกลายเป็นรถแอร์ไปหมดหรือเปล่า? จะไม่เหลือรถเมล์ราคาถูกที่เคยรับใช้คนเมืองหลวงมาร่วมๆ 100 ปีอีกแล้ว
ที่สำคัญรอบๆสนามหลวงไปจนถึงท่าเตียน ท่าราชวรดิฐ ช่วงนี้ งดงามเหลือเกิน โดยเฉพาะพระบรมมหาราชวัง และวัดพระแก้ว ที่ประดับไฟหลากสียามราตรี งดงามดุจเมืองแมนแดนสวรรค์อย่างแท้จริง
ไปร่วมถวายพระพรชัยมงคลเสร็จอย่าลืมถ่ายรูป “เช็กอิน” ไว้ด้วยนะครับ จะเป็นภาพ “ครั้งหนึ่งในชีวิต” ที่ทรงคุณค่าที่สุดของท่านผู้อ่านเลยทีเดียว.
"ซูม"
คลิกอ่านคอลัมน์ “เหะหะพาที” เพิ่มเติม