เมื่อวันที่ 23 ก.ค. นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล รมช.ศึกษาธิการ เปิดเผยถึงการแก้ไขปัญหาหนี้สินครูและบุคลากรทางการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ว่า การดำเนินการดังกล่าวเป็นไปได้ด้วยดี โดยเฉพาะโครงการ สพฐ.สัญจร รวมพลังแก้ไขปัญหาหนี้สินครูและบุคลากร 4 ภูมิภาค อีกทั้งนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ยังได้ทวีตชื่นชมการทำงานของ ศธ.จากโครงการนี้ด้วย โดยระบุว่า ครูจำนวนมากชีวิตจมอยู่กับหนี้ และตอนนี้ ศธ.ร่วมกับคณะกรรมการกำกับการแก้ไขปัญหาหนี้สินของรัฐบาล และกรมส่งเสริมสหกรณ์สัญจรไปแก้หนี้ครูทุกภาคทั่วประเทศ เพื่อทบทวนความเข้าใจการดำเนินงานแก้ไขปัญหาหนี้สินครู โดยมีทั้งสถานีแก้หนี้ การไกล่เกลี่ยแก้ไขปัญหาครูที่มีเงินดำรงชีพเหลือน้อยกว่า 30% รวมถึงกำลังถูกดำเนินคดี ซึ่ง ศธ.ขอบคุณนายกรัฐมนตรีที่ให้ความสำคัญกับการแก้ปัญหาหนี้ครู
รมช.ศธ. กล่าวอีกว่า จากการดำเนินโครงการ สพฐ.สัญจรรวมพลังแก้หนี้ครูนั้นพบว่า มีสหกรณ์ออมทรัพย์ครูหลายแห่งทยอยปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงคือไม่เกินร้อยละ 5 หรือ 4.75 พร้อมกำชับสถานีแก้หนี้ครูของเขตพื้นที่การศึกษาจะต้องหักเงินเดือนครูจากการชำระหนี้ให้ครูมีเงินเหลือใช้ในบัญชีไม่ต่ำกว่าร้อยละ 30 ตามระเบียบของ ศธ.เรื่องการชำระหนี้ของข้าราชการครู สำหรับแนวทางการแก้ไขปัญหาหนี้ครูในอนาคตและขั้นตอนต่อไปนั้นเราวางแนวทางที่อาจจะให้ครูได้กู้เงินข้ามจังหวัดกับสหกรณ์ออมทรัพย์ครูที่มีอัตราดอกเบี้ยถูก เพราะต้องยอมรับว่าการบริหารจัดการอัตราดอกเบี้ยของแต่ละสหกรณ์มีความแตกต่างกัน โดยเขตพื้นที่จะต้องทำหน้าที่ดูแลสิทธิ์การกู้ของครูได้ เช่น ครูเคยกู้เงินที่สหกรณ์ออมทรัพย์ใดในอัตราดอกเบี้ยที่สูงก็สามารถเปลี่ยนมากู้กับสหกรณ์ที่มีอัตราดอกเบี้ยถูกกว่าได้ ซึ่งการดำเนินการในรูปแบบนี้จะทำให้เกิดการแข่งขันกันและปรับกลยุทธ์ในการปล่อยกู้ รวมถึงจะได้เลิกการผูกขาดกับสหกรณ์ออมทรัพย์ที่มีอัตราดอกเบี้ยสูง และตนเชื่อว่าจะเป็นประโยชน์ต่อครูด้วย.
...
อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่