มติ ก.ตร. 12 ต่อ 0 เป็นเอกฉันท์ยืนยันการที่มีคำสั่งให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ออกจากราชการไว้ก่อนนั้นถูกต้องชอบด้วยกฎหมาย

เศรษฐา ทวีสิน” ในฐานะประธาน ก.ตร.ได้ร่วมลงมติด้วย

นั่นเท่ากับว่า “บิ๊กโจ๊ก” ที่ใครต่อใครพูดกันว่าจะเป็นแมว 9 ชีวิตอีกครั้ง คงไม่ใช่อย่างนั้นแล้ว คนเราจะโชคดีติดๆกันนั้น

เป็นเรื่องยาก

โอกาสที่จะได้นั่งเก้าอี้ ผบ.ตร.อย่างที่เจ้าตัวฝันหวานในฐานะอาวุโสสูงสุดไกลเกินเอื้อมเสียแล้ว

ดีไม่ดีบั้นปลายจากนายตำรวจใหญ่อาจจะกลายเป็นนักโทษก็ได้ เพราะความผิดที่ถูกกล่าวหาในเรื่องเว็บพนันนั้นค่อนข้างจะชัดเจน

เพราะเรื่องนี้แหละที่ทำให้ตำรวจแทบทั้งกรมต่างรู้ดีว่าอะไรเป็นอะไร เนื่องจากมีหลักฐานชัดเจนผูกมัดจนดิ้นหลุดยาก

คณะกรรมการสอบสวนที่มี “ฉัตรชัย พรหมเลิศ” เป็นประธานโดยนายกรัฐมนตรีลงนามแต่งตั้งให้สอบข้อเท็จจริงปัญหาความขัดแย้งระหว่าง พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ที่ทั้งคู่ถูกเด้งไปประจำสำนักนายกรัฐมนตรี

มีข้อมูลเต็มกระเป๋าแต่ไม่เอามาเปิดเผยชัดเจนว่าอะไรเป็นอะไรใครทำอะไรไว้แน่นอนว่าเป็นข้อมูลอยู่ในกำมือ

บิ๊กโจ๊ก” ไปทำอะไรไว้!

เมื่อ ก.ตร.มีมติออกมาอย่างนี้ก็เท่ากับว่าสถานการณ์ความขัดแย้งชัดเจนขึ้นมาระดับหนึ่ง คือเป็นการยืนยันว่าคำสั่งให้บิ๊กโจ๊กออกจากราชการไว้ก่อนนั้น

ถูกต้อง...

เหลืออีกขั้นตอนหนึ่งก็คือรอฟังความเห็นของคณะกรรมการพิทักษ์คุณธรรมตำรวจ (ก.พ.ค.ตร.) เพื่อให้ทุกอย่างเกิดความสมบูรณ์ตามที่กฤษฎีกาแนะนำไว้

ดูตามรูปการณ์แล้วน่าจะสอดคล้องกับความเห็นของ ก.ตร.ว่าการให้ออกจากราชการไว้ก่อนนั้นถูกต้องเป็นไปตามระเบียบและข้อกฎหมาย

...

จากนั้นเลขาธิการ ครม.ก็คงจะนำรายชื่อขึ้นทูลเกล้าฯ

ความจริงเรื่องนี้หากปล่อยให้ยาวออกไปย่อมไม่เป็นผลดีต่อ สตช. เพราะภาพลักษณ์ต่างๆเสียหายเมื่อข้าราชการระดับสูงขัดแย้งกันเอง ประชาชนไม่ได้ประโยชน์อะไร

พูดง่ายๆว่าตั้งแต่เกิดเรื่องนี้ขึ้นมากี่เดือนเข้าไปแล้ว

ต้องชื่นชม ก.ตร.ที่ตัดสินใจลงมติอย่างชัดเจน ทำให้ทุกอย่างพบทางออกและทำให้ สตช.โปร่งโล่งขึ้นจากภาพขมุกขมัวที่นายตำรวจบางคนได้ก่อขึ้นมา

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร. ซึ่งเป็นผู้ลงนามในฐานะรักษาการ ผบ.ตร. ที่ใจเด็ดกล้าตัดสินใจในสิ่งที่ถูกต้องเพื่อรักษากฎหมายและขีดคนไม่ดีไม่ให้ขึ้นมามีอำนาจ

แม้จะถูกข่มขู่ก็ไม่สนใจ

ที่สุดคนที่มีชนักติดหลังนั้นก็พยายามหาวิธีเพื่อทำให้ตัวเองพ้นผิดอย่าขู่จะฟ้องคนนั้นคนนี้ อีกด้านก็บอกว่าถ้าทำตามที่เขาบอกคือยกเลิกคำสั่ง

เขาก็จะถอนฟ้องทุกคน (นี่คือความเจ้าเล่ห์เพทุบาย)

แต่คนเรานั้นถ้ามีจุดยืนที่ถูกต้องและกล้าเดินหน้าต่อบั้นปลายจะเป็นอย่างไรก็ไม่เกรงกลัว มีแต่คนที่รู้แก่ใจตัวเองว่าทำอะไรไว้จึงใช้วิธีการต่างๆนานาเพื่อกลบเรื่อง

เมื่อผลออกมาอย่างนี้คงทำให้แผ่นดินสูงขึ้น ดีกว่าปล่อยให้คนไม่ดีขึ้นมาเป็นใหญ่!

“สายล่อฟ้า”

คลิกอ่านคอลัมน์ “กล้าได้กล้าเสีย” เพิ่มเติม