เมื่อวันจันทร์ที่ 24 มิถุนายนที่ผ่านมา ตรงกับวันครบรอบ 44 ปี ของสมาพันธ์สื่อมวลชนแห่งประเทศไทย มีกิจกรรมเฉลิมฉลองที่น่าสนใจหลายๆกิจกรรมที่ห้อง “มิตร-ติ้งรูม” สามย่านมิตรทาวน์

เริ่มจากการประกาศผลการประกวด “ภาพข่าวอาเซียน 2024” และการประกาศผลการประกวด “ภาพท่องเที่ยวไทย 2024” ตามมาด้วยการแสดงปาฐกถาพิเศษ 2 เรื่อง ว่าด้วย “นโยบายเชิงรุกเพื่อผลักดันการท่องเที่ยวแบบยั่งยืน” โดยรัฐมนตรีการท่องเที่ยวและกีฬา เสริมศักดิ์ พงษ์พานิช และ “การท่องเที่ยวไทยในปัจจุบัน” โดยนางสาว ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย

ผมเป็นหนึ่งในกองเชียร์ประเทศไทย ที่เอาใจช่วยอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว “พระเอก” ในการทำรายได้ให้แก่ประเทศไทยมาตลอด 50 กว่าปีที่แล้ว...และในวันนี้การท่องเที่ยวก็ยังเป็น “พระเอก” และเป็นเครื่องจักรหารายได้เพียงเครื่องเดียวของประเทศที่ยังทำงานอย่างเต็มสูบ

จึงถือโอกาสไปร่วมงานนี้ด้วยแบบยิงกระสุนนัดเดียวได้นก 2 ตัว คือทั้งไปแสดงความยินดีกับ สมาพันธ์สื่อมวลชนฯ ซึ่งมีอายุครบ 44 ปี พร้อมกับได้รับฟังปาฐกถาเกี่ยวกับการท่องเที่ยวจากปากของฝ่ายนโยบายคือ ท่านรัฐมนตรีเสริมศักดิ์ และฝ่ายปฏิบัติคือท่านผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย...ว่าจะสามารถผลักดันการท่องเที่ยวให้ทำรายได้เข้าเป้าหรือไม่? อย่างไร?

ท่านรัฐมนตรีเสริมศักดิ์เริ่มบรรยายด้วยการสรุปตัวเลขสำคัญๆล่าสุด ว่า ณ สิ้นเดือนพฤษภาคมที่แล้ว รวม 5 เดือนแรกของปี 2567 เราสามารถทำรายได้จากท่องเที่ยวไปแล้ว 1.1 ล้านล้านบาท จึงยังขาดอยู่ 2.4 ล้านล้านบาท จากเป้าทั้งปี 3.5 ล้านล้านบาท

...

ในส่วนของจำนวนนักท่องเที่ยวเราตั้งเป้าหมายไว้ที่ 36.7 ล้านคนทั้งปี บัดนี้ทำไปได้แล้ว 15 ล้านคน ยังขาดอีก 21.7 ล้านคนโดยประมาณ

ท่านยอมรับว่าเป็นงานที่ยากมาก เพราะเวลาเหลืออีกแค่ 7 เดือนเท่านั้น รวมทั้งเดือนมิถุนายนนี้ด้วย...รัฐบาลจึงต้องเร่งทำงานกันอย่างเต็มที่ และจับมือกับภาคเอกชนอย่างเต็มที่เพื่อให้บรรลุเป้าหมายให้จงได้

ไม่เฉพาะภาครัฐภาคเอกชนในส่วนกลางเท่านั้น ยังจะต้องจับมือกันทำงานไปจนถึงระดับภูมิภาคและท้องถิ่นด้วย เพราะรัฐบาลได้มุ่งเป้าหมายใหม่ที่จะโยง เมืองท่องเที่ยวหลัก ไปสู่ “เมืองน่าเที่ยว” อีก 55 เมืองด้วยกัน

ทั้งหมดจะเกิดขึ้นภายใต้นโยบาย “ขับเคลื่อนท่องเที่ยวไทย ท่องเที่ยวปลอดภัย เที่ยวได้ทุกซีซัน” ซึ่งมีทั้งกลยุทธ์และแผนปฏิบัติการโดยละเอียดที่ท่านรัฐมนตรีกล่าวว่า ได้เชื้อเชิญผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดมาประชุมเพื่อรับฟังนโยบายไปแล้วหนหนึ่งเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และจะติดตามผลการปฏิบัติงานอย่างใกล้ชิดต่อไป

สำหรับท่านผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยขึ้นมากล่าวสั้นๆย้ำถึงแนวทางการกระตุ้นตลาดการท่องเที่ยวในช่วงที่เหลือของปีนี้
โดยมุ่งตลาดต่างประเทศทั้งระยะไกลและระยะใกล้

จะพยายามเพิ่มเที่ยวบินจากแหล่งที่มีนักท่องเที่ยวคุณภาพและใช้จ่ายสูงให้มากขึ้น โดยเฉพาะการเจรจาขอเพิ่มการบินตรงเข้าสู่ประเทศไทยให้มากเที่ยวบินขึ้นควบคู่กันไป

การโฆษณาประชาสัมพันธ์และการจูงใจให้มาเที่ยวไทยจะเน้นกลุ่ม Young Gen หรือนักท่องเที่ยวรุ่นหนุ่มสาวและกลุ่ม First Visit ที่ยังไม่เคยมาเที่ยวไทย ให้มาเที่ยวเป็นครั้งแรกให้มากขึ้น

ท่านกล่าวด้วยว่าจากนี้ไปจะมีการจัดอีเวนต์ทั่วประเทศ ทั้งกิจกรรมเทศกาลตามประเพณี, อาหาร, ความศรัทธา, หรือแม้แต่กีฬา เช่น มวยไทย ก็จะมีจัดอีเวนต์ด้วยตลอดครึ่งปีที่เหลือ

อย่างไรก็ดี ทั้ง 2 ท่านจะกล่าวเหมือนๆกันอยู่ประโยคหนึ่งว่าเป็นเป้าหมายที่ยากและเป็นงานที่ยาก...แต่ก็พร้อมแล้วที่จะเดินหน้าและทุ่มเททำงานอย่างสุดกำลังด้วยความร่วมมือของทุกๆภาคส่วน

ผมขอให้กำลังใจแก่ทุกๆท่านที่อยู่ในธุรกิจนี้...ขอให้ร่วมมือกันอย่างใกล้ชิด ฝ่าฟันปัญหาและอุปสรรคต่างๆ จนประสบความสำเร็จและบรรลุเป้าหมายในที่สุด

ส่วนพวก “มารท่องเที่ยว” ที่มีข่าวว่าเริ่มเข้ามาหั่นราคาแหลกลาญ และมีพฤติกรรมที่เลวร้ายกว่าเมื่อยุค “ทัวร์ศูนย์เหรียญ” เสียอีกนั้น ผมลืมที่จะฝากท่านรัฐมนตรีเสริมศักดิ์ไปในช่วงที่มีการสนทนานอกรอบ

ก็ขอฝากเสียในวันนี้เลย...ขอให้จัดการให้เด็ดขาดนะครับ กลุ่ม “มารท่องเที่ยว” กลุ่มนี้...ซึ่งฟังๆดูแล้วก็น่าจะมีเชื้อมีสายมี DNA เดียวกับกลุ่ม “ทัวร์ศูนย์เหรียญ” ในอดีตนั่นเอง.

“ซูม”

คลิกอ่านคอลัมน์ “เหะหะพาที” เพิ่มเติม