จากปัญหาราคาผลปาล์มน้ำมันมีราคาตกต่ำ ผิดธรรมชาติของกลไกตลาด เนื่องจากปัจจุบันปริมาณสต๊อกน้ำมันปาล์มดิบยังไม่เกินระดับสต๊อกปกติที่ 250,000 ตัน

แต่สถานการณ์ราคาผลปาล์มกลับตกต่ำ เหมือนมีขบวนการสร้างสถานการณ์ให้ปาล์มล้นตลาดเพื่อกดราคารับซื้อจากเกษตรกร

ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อ 11 มิ.ย.ที่ผ่านมา นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี กับรัฐมนตรี 3 กระทรวงที่เกี่ยวข้องคือ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์, กระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงพลังงาน ได้ร่วมหารือเพื่อช่วยเหลือพี่น้องชาวสวนปาล์มจากปัญหาราคาผลปาล์มตกต่ำ

ในส่วนของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ให้มีหน้าที่กำกับดูแลในเรื่องการวางแผนการปลูกปาล์มเพื่อป้องกันปาล์มล้นตลาด คณะกรรมการนโยบายปาล์มนํ้ามันแห่งชาติ (กนป.) แต่งตั้งให้ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรฯ เป็นประธานคณะอนุ กรรมการขับเคลื่อนกลไก บริหารจัดการเพื่อแก้ไขปัญหาปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์มชุดใหม่ ตั้งคณะทำงานระดับจังหวัดขึ้นใน 7 จังหวัดภาคใต้ ดำเนินการขึ้นทะเบียนลานเท ลานรับซื้อผลปาล์มของโรงสกัดน้ำมันปาล์มดิบ เพื่อกำกับดูแลพ่อค้าคนกลาง ควบคุมราคารับซื้อผลปาล์มให้เป็นธรรม

แต่ด้วยปัจจุบันน้ำมันปาล์มถูกใช้ในการผลิตไบโอดีเซลประมาณ 1 ใน 3 ของปริมาณน้ำมันปาล์มที่ประเทศไทยผลิตได้ทั้งหมด

ผลการหารือได้มอบหมายให้กระทรวงพลังงานขอความร่วมมือ บริษัทน้ำมันขนาดใหญ่ ซื้อน้ำมันไบโอดีเซล (บี 100) โดยยึดตามราคาประกาศของสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) กระทรวงพลังงาน

แต่ดูเหมือนการแก้ปัญหาแนวทางนี้มีอันต้องเจออุปสรรคในบางส่วน เพราะบริษัทค่ายน้ำมันเจ้าใหญ่เบอร์ 1 ในประเทศไทย รวมถึงข้าราชการที่ผูกพันกับบริษัทค้าน้ำมันรายใหญ่ ไม่ค่อยพอใจในการแก้ปัญหาในแนวทางนี้ เพราะการซื้อไบโอดีเซลบี 100 ตามราคาประกาศของ สนพ. จะทำให้บริษัทผู้ค้าน้ำมันเสียผลประโยชน์ปีละหลายพันล้านบาท

...

คงมีแต่ยักษ์เบอร์ 2 ค่ายใบไม้ ที่ยินดีจะให้ความร่วมมือซื้อไบโอดีเซลบี 100 เต็มราคาเพื่อช่วยเกษตรกร.

สะ–เล–เต

คลิกอ่าน "หน้ามองฟ้า เท้าหยั่งดิน" เพิ่มเติม