เริ่มแล้วสำหรับ “ศึกฟุตบอลชิงแชมป์ยุโรป 2024” ตามโปรแกรมนัดเปิดสนามทำการแข่งขันกันในวันที่ 14 มิ.ย.–14 ก.ค.2567 ที่มักมาพร้อมกับวังวนของกระแสการพนันทายผลฟุตบอลพุ่งสูงขึ้น
เปรียบเทียบได้จาก “ฟุตบอลโลก 2022” ข้อมูลศูนย์ศึกษาปัญหาการพนันพบว่า “คนไทยเล่นพนันบอล 3.8 ล้านคน” วงเงินหมุนเวียน 1.81 แสนล้านบาท มีมูลค่าสูงกว่าการพนันสลากกินแบ่งและหวยใต้ดินด้วยซ้ำ
ประเด็นคือ “การพนันเป็นสิ่งเสพติด” ยิ่งเล่นยิ่งติดใจ เล่นได้ก็อยากเล่นอีก เล่นเสียก็อยากเอาคืน เมื่อติดแล้ว “เลิกยากขาดความยับยั้งชั่งใจอยากพนันตลอดเวลา” กลายเป็นนักพนันตกค้างเข้าสู่วงจรพนันอื่น
ข้อมูลนี้ทำให้ สสส.มูลนิธิรณรงค์หยุดพนัน และ ม.การกีฬาแห่งชาติออกแคมเปญเปิดเทศกาลฟุตบอลยูโร 2024 “ดูฟุตบอลสนุกได้ไม่ต้องพนัน” สื่อสารการเรียนรู้ให้เยาวชนผ่าน EURO U-NO CHALLENGE 30 วันไม่พนันเลือกมันส์ทางอื่น ใน ม.การกีฬาแห่งชาติวิทยาเขตเชียงใหม่ ศรีสะเกษ สุพรรณบุรี ชลบุรี ตรัง
...
เพื่อสร้างความตระหนักถึงพิษภัยของการพนัน โดยเฉพาะนักกีฬาเยาวชนให้เป็นตัวอย่างที่ดี ดูกีฬาอย่างสนุกโดยไม่มีพนันมาเกี่ยวข้องนี้ ธนากร คมกฤส เลขาธิการมูลนิธิรณรงค์หยุดพนัน บอกว่า ที่ผ่านมามีนักกีฬาอาชีพระดับโลกหลายคนยอมรับต่อสาธารณะว่า “เสพติดพนัน” เนื่องจากการหลั่งสารอะดรีนาลินมากเกินไป
ทำให้นอกเวลาการแข่ง “ยังต้องการอะไรบางอย่าง” มาสร้างให้ตัวเองรู้สึกเหมือนอยู่ในสนามแข่งนำมาสู่การพนันที่ได้ลุ้นเกมแข่งขันแพ้-ชนะ “บวกกับนักกีฬารายได้สูง” มีเวลาว่างเยอะทำให้นำพาไปสู่เสพติดพนัน
เรื่องนี้การันตีจากการศึกษาหลายสถาบันบ่งชี้ว่า “นักกีฬาเป็นกลุ่มเปราะบาง” อย่างเช่น องค์กรการกุศลให้ความช่วยเหลือผู้มีปัญหาการพนันในสหรัฐฯ พบว่า นักกีฬามีโอกาสประสบปัญหาการพนันสูงกว่าคนทั่วไป 4 เท่า เช่นเดียวกับสมาพันธ์นักฟุตบอลอาชีพอังกฤษ พบนักฟุตบอลมีปัญหาติดการพนันมากกว่าประชาชนทั่วไป 3 เท่า
สะท้อนให้เห็นว่า “นักกีฬาเป็นกลุ่มเสี่ยงต่อปัญหาติดการพนัน” ทั้งที่เป็นอาชีพแข็งแรงทั้งร่างกาย-จิตใจ มีวินัยฝึกซ้อมจนสามารถนำพาตัวเองมาถึงจุดสุดยอดของอาชีพ แต่กลับตกเป็นเหยื่อติดพนันได้ง่าย
“ขณะที่ประเทศไทยมีนักพนันทายผลฟุตบอลอยู่ 3 ล้านคน แต่ถ้าเป็นช่วงเทศกาลฟุตบอลระดับโลกมักมีกลุ่มรักการกีฬาออกมาเล่นพนันเพิ่มขึ้นอีก แต่ไม่เกิน 5 ล้านคน ดังนั้น ฟุตบอลยูโร 2024 เราต้องออกมารณรงค์ให้ประชาชนดูฟุตบอลอย่างสร้างสรรค์ เพื่อไม่นำพาไปสู่การถลําลึกเกิดปัญหาเสพติดพนันสูญเสียอนาคต” ธนากร ว่า
สิ่งที่น่าสนใจกว่านั้นคือ “การพนันมิได้หยุดนิ่งเฉพาะนักกีฬาอาชีพ” แต่ยังขยายอิทธิพลลงไปยังนักศึกษาการกีฬาอีกด้วย ตามรายงานสมาคมกีฬาอุดมศึกษาของสหรัฐฯ หรือ NCAA พบว่า นักศึกษาในโรงเรียนและมหาวิทยาลัยการกีฬาเป็นกลุ่มเปราะบางที่มีความเสี่ยงสูงจะเป็นผู้ประสบปัญหาเล่นพนันทายผลกีฬา 60%
นอกจากนี้ มี 4% เล่นพนันทุกวันอันเป็นอัตราตัวเลขค่อนข้างเสี่ยงอันตรายมาก และ 6% ยอมรับว่าเสียเงินไปกับการพนันมากกว่า 500 ดอลลาร์/วัน หรือประมาณ 2 หมื่นบาท “6% นักศึกษาการกีฬาติดพนัน” สิ่งนี้เป็นสัญญาณทำให้เราต้องออกมาสื่อสารให้สังคมตระหนักถึงปัญหาการติดการพนันนี้
...
ตอกย้ำทำให้ “หลายประเทศออกมาตรการป้องกันในเรื่องนี้” เพื่อมิให้นักกีฬาเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการพนัน ให้เกิดการเว้นระยะห่างระหว่างนักกีฬากับการพนัน อย่างเช่น “ประเทศอังกฤษ” ก็มีการประกาศห้ามนักกีฬานำข้อมูลภายในของสโมสรออกมาเปิดเผยกับบุคคลภายนอกที่อาจจะนำไปเป็นข้อมูลทายผลกีฬาตามมาได้
เช่นกรณี “นักฟุตบอลสโมสรดังในอังกฤษ” นำข้อมูลตัวเองจะย้ายสโมสรไปบอกคนใกล้ชิด นำไปสู่การแทงผลฟุตบอลจน “ถูกลงโทษ” นอกจากนี้ยังห้ามพนันในกีฬาที่เป็นผู้เล่นไม่ว่าจะในประเทศหรือต่างประเทศ ในเรื่องนี้ก็สอดคล้องกับ “วงการเทนนิส” ที่มีหน่วยงานชื่อ GIU ทำหน้าที่ตรวจจับนักกีฬาเทนนิสขึ้นทะเบียนทั่วโลก
หากปรากฏ พบว่า “เล่นพนันทายผลเทนนิส” ก็ต้องถูกลงโทษแบนแล้วนักกีฬาคนแรกที่ถูกลงโทษคือ “นักเทนนิสไทย” จากการทายผลการ แข่งขันเทนนิสในต่างประเทศผ่านทางเว็บไซต์พนัน สะท้อนว่า “แม้แต่นักกีฬาระดับโลกที่ขึ้นชื่อด้านการมีวินัย” ก็ยังประสบปัญหาการพนันเหล่านี้ด้วยซ้ำ
...
สุดท้ายอยากฝากคำพูดของอดีดผู้รักษาประตูทีมชาติอังกฤษท่านหนึ่งกล่าวไว้ว่า “การติดพนัน” คือการหยุดทุกอย่างเพื่อสิ่งเดียว “หยุดพนัน” คือ การหยุดสิ่งเดียวเพื่อทุกอย่าง...
ด้าน ลีซอ–ธีรเทพ วิโนทัย อดีตนักฟุตบอลทีมชาติไทย บอกว่า ส่วนตัวไม่เคยข้องเกี่ยวกับ “การพนัน” แต่ก็มีเพื่อนนักกีฬาหลายคน “ติดเล่นพนัน” ที่อาจเป็นเพราะนักกีฬาสามารถหาเงินง่ายจากเงินเดือนประจำ และเงินโบนัสค่อนข้างเยอะ นำมาสู่การชักจูงกันไปเล่นการพนันจนถลำลึกมากเกินไป
ผลตามมาคือ “ติดหนี้ยืมสิน” แล้วยิ่งหนักกว่านั้นเจ้าหนี้ยังตามทวงหนี้ถึงบ้าน “ต้องหายืมเงินกับเพื่อนประจำ” กลายเป็นเกิดปัญหาความสัมพันธ์ในครอบครัว ทำให้มีเรื่องรบกวนทางจิตใจส่งผลเสียต่อการทำงานสมรรถนะการเล่นฟุตบอลฟอร์มตกลง สิ่งนี้ล้วนเป็นผลมาจากการพนันที่ก่อให้เกิดผลเสียมากกว่าผลได้จริงๆ
เพราะที่ผ่านมาไม่เห็นว่า “เพื่อนนักกีฬาคนใดร่ำรวยจากการเล่นพนัน” เนื่องจากเกมการแข่งขันฟุตบอลในสนาม “ไม่มีใครคาดเดาได้ว่าฝ่ายไหนจะชนะหรือแพ้” โดยเฉพาะปัจจุบันมีเว็บไซต์พนันจำนวนมากล่อใจให้คนเข้าไปเล่น แล้วบางครั้งอาจจะทายผลถูกก็ล้วนมาจากความฟลุกบังเอิญเท่านั้น
...
“ในฐานะนักฟุตบอลอยากชวนเยาวชนคนรุ่นใหม่ ไม่เล่นพนันทุกชนิด ถ้าเราไม่สนใจ ไม่เข้าไปยุ่ง ก็ไม่มีใครพาเราไปเล่นพนันได้ โดยเฉพาะในเทศกาลฟุตบอลยูโร 2024 ขอให้ดูการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์ด้วยความสนุกโดยไม่ต้องพนัน เพราะการพนันมีแต่ผลเสียมากกว่าผลประโยชน์ที่คุณจะได้รับ” ลีซอ ว่า
ผศ.ดร.ฉัตร์ชัย แสงสุขีลักษณ์ รองอธิการบดี ฝ่ายกิจการนักศึกษาและกิจการพิเศษ ม.การกีฬาแห่งชาติ บอกว่า นักกีฬากว่าจะมีรายได้แต่ละบาท “ไม่ใช่เรื่องง่าย” ถ้านำเงินไปเล่นการพนันไม่นานสิ่งที่หามาได้ก็จะหมดสิ้นภายในพริบตา “การป้องกันนักพนันหน้าใหม่” ด้วยการสร้างความตระหนักรู้ให้เยาวชนจึงมีความสำคัญ
เริ่มจากการสร้างแรงบันดาลใจให้ “นักศึกษาในสถาบันการกีฬา” ถ้าหากต้องการได้เงินต้องขยันเรียนรู้ฝึกฝน “เพื่อก้าวไปสู่การเป็นนักกีฬามืออาชีพระดับลีก” โดยเฉพาะโค้ช หรือผู้ฝึกสอนที่มีความใกล้ชิดเสมือนเป็นพ่อแม่คนที่ 2 ต้องให้คำแนะนำการเล่นกีฬาให้มีความเหมาะสม และปลอดการพนันทุกชนิด
ด้วยการมุ่งเน้น “การสร้างระเบียบวินัย และไม่สนับสนุนการเล่นพนัน” ทั้งยังต้องสร้างความตระหนักถึงพิษภัยพนันที่ทำให้เห็นได้อย่างชัดเจน “หากนักศึกษายุ่งเกี่ยวกับพนันต้องส่งตัวเข้ารับคำปรึกษา” เพื่อให้ได้รับการช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน และทำควบคู่กับการป้องกันปัญหาในมหาวิทยาลัยเชิงรุก
แน่นอนคงปฏิเสธไม่ได้ว่า “นักศึกษาการกีฬาบางส่วนเล่นพนัน” เพราะกีฬาฟุตบอลเป็นเหมือนแฟชั่นอย่างสมัยก่อน “นิยมพกผลวิเคราะห์ฟุตบอลติดตัวกัน” สิ่งนี้เป็นจุดเริ่มต้นให้หลายคนเข้าไปเล่นพนัน “สถาบันครอบครัว” จึงมีส่วนสำคัญในการสะท้อนปัญหาการติดพนันที่จะนำไปสู่ผลเสียต่อครอบครัวได้ด้วย
ดังนั้น ในช่วง “เทศกาลฟุตบอลยูโร 2024” จึงขอฝากถึงนักเรียน นักศึกษาควรดูเกมกีฬาให้เป็นกีฬา แต่ถ้าดูกีฬาแล้วเล่นพนันมักเป็นโทษมากกว่าประโยชน์แน่นอน เพราะด้วยเกมกีฬาไม่มีใครสามารถคาดคะเนผลการแข่งขันได้ โดยเฉพาะเว็บพนันต่างๆมักโฆษณาหลอกล่อเด็ก-เยาวชนให้ตกเป็นเหยื่อเข้าสู่วงจรนักพนันมากมาย
ฉะนั้น “ผู้ใหญ่” ต้องช่วยกันสอดส่องดูแลบุตรหลาน “มิให้ติดกับดักวงจรอุบาทว์” แล้วเทศกาลฟุตบอลยูโร 2024 ก็จะเป็นเกมการแข่งขันที่สนุกมีความสุขยิ่งขึ้น.
คลิกอ่านคอลัมน์ “สกู๊ปหน้า 1” เพิ่มเติม